ตนเองก็มีประสบการณ์ตรง กับ "การแอบคิดเงิน/ การแอบหักเงิน" จากลูกค้า โดยไม่ถูกต้อง "มาโดยตลอดอย่างต่อเนื่อง" ของ "บริษัททรูฯ" ทั้งจากเบอร์บ้าน และเบอร์มือมือ
และเชื่อว่าจะต้องมีลูกค้าอีกจำนวนมาก ที่เจอเหตุการณ์ประเภทนี้จากบริษัทนี้ โดยหากลูกค้ารู้ตัว และทวงถามไปในทันที บริษัทฯ ก็จะแกล้งแก้ตัวมาว่า "ระบบผิดพลาด" และยอมคืนเงินมาให้ ด้วยการติดตามทวงถามอย่างเหนื่อยยากของลูกค้า
แต่หากมารู้ภายหลังจากที่เวลาผ่านไปนานแล้ว บริษัทฯ ก็จะแกล้งทำให้ลูกค้ายุ่งยาก ในการไปหาข้อมูลมายืนยันเพื่อแจ้งบริษัทฯ ว่า วัน และเวลาใด จำนวนเท่าไร เพราะบริษัทฯ รู้ดี ว่าลูกค้าจำไมได้หรอก เพราะแอบโดนบริษัทฯ หักเงิน/ คิดเงินไปอย่างไม่ถูกต้องเมื่อใด ลูกค้าก็ยังไม่ทราบเลย จนมาตรวจพบภายหลังโดยบังเอิญ
เคยทำเรื่องร้องเรียนบริษัทฯ ต่อกสทช. แต่หน่วยงานนี้ก็ทำงานไม่ได้เรื่อง บริษัทฯ แก้ตัวอย่างโกหกมาอย่างไร ก็แค่มาแจ้งลูกค้าต่อ โดยทำตัวเป็นแค่ “บุรุษไปรษณีย์” ไม่สนใจที่จะอ่านศึกษาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ปล่อยให้บริษัทฯ เอาเปรียบผู้บริโภคไปเรื่อยๆ แบบนี้
และ สคบ. ก็มีลักษณะการทำงานไม่ต่างจาก กสทช.
จนน่าเสียดายภาษีปชช. ที่ต้องนำไปจ่ายเป็นเงินเดือน ค่าจ้าง และสวัสดิการมากมายมหาศาลในแต่ละปีให้กับ จนท. พวกนี้ โดยเฉพาะ คณะกก. ของกสทช. ส่งเรื่องไปร้องเรียน ก็ล้วนเพิกเฉย เพราะไม่ใช่เรื่องที่ “ออกสื่อ” จึง “ไม่ได้หน้า” ไม่จำเป็นต้องให้ความสนใจที่จะแก้ไขปัญหาให้ปชช. จนรู้สึกเสียดายเงินเดือน ที่ต้องจ่ายให้คนพวกนี้เดือนละแสนกว่าบาท ยังไม่รวมสวัสดิการต่างๆ อีกจำนวนมก เป็นอย่างมากที่สุด
และที่สำคัญ บริษัทฯ มักจะ "เพิกเฉย" ต่อการติดต่อร้องเรียนของลูกค้า โดยลูกค้าจะต้องเสียเวลา และเสียคชจ. รวมทั้งเหนื่อยยากเหลือเกิน ในการทวงถามหลายครั้งมากๆ กว่าจะตอบมาได้สักครั้งหนึ่ง ซึ่งเข้าใจว่า บริษัทฯ พยายามทำให้ลูกค้า "ถอดใจ" ในการร้องเรียน จะได้เลิกล้มความตั้งใจ และบริษัทฯ จะได้ไม่ต้องรับผิดชอบ และสามารถฉ้อโกงลูกค้าได้ แล้วมีรายได้ส่วนนี้ไป ไม่ต่างจากการปล้นดีๆ นี่เอง ไม่ทราบว่าลูกค้ากี่ล้านราย ที่โดนแบบนี้ไปโดยไม่รู้ตัว เสียหายเป็นเงินรวมกันจำนวนเท่าไรกันแล้วก็ไมทราบ
จึงอยากสอบถามเพื่อนๆ ว่ากรณีแบบนี้เราจะสามารถนำไปฟ้องศาล เป็นคดีผู้บริโภคได้รึไม่ เพราะหวังพึ่งหน่วยงานของรัฐก็เป็นอย่างที่แจ้งดังกล่าวข้างต้น
กรณี "บริษัททรู" ทำการแอบหักเงิน/ แอบคิดเงิน ลูกค้าไปอย่างผิดพลาด/ ไม่ถูกต้องแบบนี้มา สามารถฟ้องเป็นคดีผู้บริโภคได้รึไม
และเชื่อว่าจะต้องมีลูกค้าอีกจำนวนมาก ที่เจอเหตุการณ์ประเภทนี้จากบริษัทนี้ โดยหากลูกค้ารู้ตัว และทวงถามไปในทันที บริษัทฯ ก็จะแกล้งแก้ตัวมาว่า "ระบบผิดพลาด" และยอมคืนเงินมาให้ ด้วยการติดตามทวงถามอย่างเหนื่อยยากของลูกค้า
แต่หากมารู้ภายหลังจากที่เวลาผ่านไปนานแล้ว บริษัทฯ ก็จะแกล้งทำให้ลูกค้ายุ่งยาก ในการไปหาข้อมูลมายืนยันเพื่อแจ้งบริษัทฯ ว่า วัน และเวลาใด จำนวนเท่าไร เพราะบริษัทฯ รู้ดี ว่าลูกค้าจำไมได้หรอก เพราะแอบโดนบริษัทฯ หักเงิน/ คิดเงินไปอย่างไม่ถูกต้องเมื่อใด ลูกค้าก็ยังไม่ทราบเลย จนมาตรวจพบภายหลังโดยบังเอิญ
เคยทำเรื่องร้องเรียนบริษัทฯ ต่อกสทช. แต่หน่วยงานนี้ก็ทำงานไม่ได้เรื่อง บริษัทฯ แก้ตัวอย่างโกหกมาอย่างไร ก็แค่มาแจ้งลูกค้าต่อ โดยทำตัวเป็นแค่ “บุรุษไปรษณีย์” ไม่สนใจที่จะอ่านศึกษาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ปล่อยให้บริษัทฯ เอาเปรียบผู้บริโภคไปเรื่อยๆ แบบนี้
และ สคบ. ก็มีลักษณะการทำงานไม่ต่างจาก กสทช.
จนน่าเสียดายภาษีปชช. ที่ต้องนำไปจ่ายเป็นเงินเดือน ค่าจ้าง และสวัสดิการมากมายมหาศาลในแต่ละปีให้กับ จนท. พวกนี้ โดยเฉพาะ คณะกก. ของกสทช. ส่งเรื่องไปร้องเรียน ก็ล้วนเพิกเฉย เพราะไม่ใช่เรื่องที่ “ออกสื่อ” จึง “ไม่ได้หน้า” ไม่จำเป็นต้องให้ความสนใจที่จะแก้ไขปัญหาให้ปชช. จนรู้สึกเสียดายเงินเดือน ที่ต้องจ่ายให้คนพวกนี้เดือนละแสนกว่าบาท ยังไม่รวมสวัสดิการต่างๆ อีกจำนวนมก เป็นอย่างมากที่สุด
และที่สำคัญ บริษัทฯ มักจะ "เพิกเฉย" ต่อการติดต่อร้องเรียนของลูกค้า โดยลูกค้าจะต้องเสียเวลา และเสียคชจ. รวมทั้งเหนื่อยยากเหลือเกิน ในการทวงถามหลายครั้งมากๆ กว่าจะตอบมาได้สักครั้งหนึ่ง ซึ่งเข้าใจว่า บริษัทฯ พยายามทำให้ลูกค้า "ถอดใจ" ในการร้องเรียน จะได้เลิกล้มความตั้งใจ และบริษัทฯ จะได้ไม่ต้องรับผิดชอบ และสามารถฉ้อโกงลูกค้าได้ แล้วมีรายได้ส่วนนี้ไป ไม่ต่างจากการปล้นดีๆ นี่เอง ไม่ทราบว่าลูกค้ากี่ล้านราย ที่โดนแบบนี้ไปโดยไม่รู้ตัว เสียหายเป็นเงินรวมกันจำนวนเท่าไรกันแล้วก็ไมทราบ
จึงอยากสอบถามเพื่อนๆ ว่ากรณีแบบนี้เราจะสามารถนำไปฟ้องศาล เป็นคดีผู้บริโภคได้รึไม่ เพราะหวังพึ่งหน่วยงานของรัฐก็เป็นอย่างที่แจ้งดังกล่าวข้างต้น