ใครที่ขับรถแล้วมีอาการ ตาพร่ามัว เรามีสาเหตุและเคล็ดลับการแก้ไขมาบอกกันจ้า

พอดีเราไปอ่านเจอมา เราว่าน่าจะสร้างประโยชน์ให้กับทุกคนได้ไม่น้อย เลยเก็บมาฝากจ้า

สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ สายตาพร่ามัว ขณะขับรถ

ประการแรก แสงไฟจากรถที่วิ่งสวนทางกันในเวลากลางคืน นี่คือสาเหตุหลักๆที่ทำให้เกิดอาการ สายตาพร่ามัว อันดับแรกๆเลยครับ เพราะมันจะทำให้เพื่อนๆมองเห็นถนนไม่ชัด บางครั้งจะเห็นเหมือนคนข้ามถนนตัดหน้ารถ ซึ่งนี่อาจทำให้ตกใจสะดุ้ง จนเผลอไปเหยียบเบรค จนอาจจะทำให้เสียหลักหรือถ้ามีรถตามหลังมาก็อาจจะชนท้ายเราได้

ประการที่สอง ขับรถในที่ที่มีแสงสว่างไม่สม่ำเสมอ เช่น ลอดอุโมงค์เป็นเวลานานๆ พอเจอแสง สายตาจะปรับสภาพไม่ทัน ก็ส่งผลให้สายตามีปัญหาได้เช่นกันครับ

ประการที่สาม ขับรถช่วงฝนตกหนักในยามค่ำคืน อาจส่งผลให้กระจกรถเป็นฝ้า ทำให้มองเห็นเส้นทางได้ลำบาก ก็ส่งผลเสียต่อสายตาเราได้อีกเช่นกันครับ

วิธีแก้ไขอาการ สายตาพร่ามัว ขณะขับรถ

อย่างที่ผมบอกไปครับว่า หากเกิดอาการดังกล่าวแล้ว เพื่อนๆเหยียบเบรคกระทันหัน จะส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นผมขอแนะนำให้เปิดไฟหน้า และใช้แตร เพื่อเตือนบอกให้รถคันอื่นได้รู้ถึงตำแหน่งของเรา จากนั้นให้ชะลอลดความเร็ว แทนการหยุดรถกะทันหัน แต่ก็ไม่ควรชิดคันหน้ามากเกินไป ให้เว้นระยะห่างจากคันหน้าให้อยู่ในระยะที่รถเราเบรกได้ปลอดภัยด้วยเช่นกัน

กรณีที่มีอาการตาพร่า จากไฟของรถที่สวนทางมา ให้เราอาศัยดูเส้นขอบทางของเลนเราเป็นตัวกำหนดเป็นแนว ในการขับรถต่อไป แต่ถ้าอาการแย่มากหรือรู้สึกว่าขับต่อไปไม่ได้ ให้จอดเลี่ยงหลบริมทางที่ปลอดภัย แล้วลองพักสายตา ซัก 15 – 30 นาที ถ้าอาการดีขึ้นค่อยกลับไปขับรถต่อครับ

เห็นเป็นเรื่องราวดีๆจึงเก็บมาฝากกันค่ะ ขอบคุณเนื้อหาจาก http://www.thaicarlover.com/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A7/49406

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่