หลังวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ประเทศไทยกลับไปมีโฉมหน้าแบบเก่า
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ออกทั้งประกาศทั้งคำสั่งหลากหลาย
คำสั่งต่างๆ เริ่มขยับประเทศ นับตั้งแต่ยกเลิกการใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550
สับเปลี่ยนโยกย้ายข้าราชการ แล้วออกประกาศและคำสั่งมอบให้ข้าราชการคุมโครงสร้างสำคัญของประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์อยู่บนปลายยอด ฝ่ายทหารอยู่ส่วนบนของโครงสร้าง
ปลัดกระทรวงและอธิบดี รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นแขนขาคอยรับคำสั่งและจัดการ
ฝ่ายราชการประจำเคลื่อนเข้าควบคุมประเทศแทนฝ่ายการเมือง
แนวทางของประเทศแจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์เปิดโฉมโรดแมปประเทศไทย
ระยะแรก ควบคุมประเทศสู่ความสงบ ใช้อำนาจ
ระยะสอง ปฏิรูป ใช้สภาปฏิรูปที่มาจากการสรรหา
ระยะสาม เลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญใหม่กำหนด รวมระยะเวลา 3 ระยะ ประมาณปีกว่า
หลังจากประกาศโรดแมป ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะขับเคลื่อนไปตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ประกาศไว้
ระยะแรก มีคณะกรรมการปรองดอง รวบรวมความคิดเห็นทั่วประเทศส่งให้ คสช. เป็นฐานข้อมูลนำไปสู่การปฏิรูป นอกจากนี้ยังมีคณะทำงานเตรียมการเพื่อการปฏิรูปประเทศ คอยจัดเสวนา เพื่อรวบรวมความเห็นส่งให้สภาปฏิรูปแห่งชาติต่อไปด้วย
ระยะสอง ได้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 มีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีสภาปฏิรูปแห่งชาติ มีนายกรัฐมนตรี มีคณะรัฐมนตรี
เหลือแต่ระยะสามเลือกตั้ง ที่ต้องรอเวลาอีก 1 ปี
การประกาศโรดแมปและทำตามที่พูด ช่วยให้สถานการณ์หลายอย่างดีขึ้น
ต่างประเทศรับฟังและยอมรอ ในประเทศก็มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
อย่างไรก็ตาม การประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ทำให้สถานการณ์ทางการเมืองไทยมีลักษณะคล้ายคลึงกับหลังปฏิวัติปี 2549
นั่นคือ การกีดกันนักการเมืองในบ้านเลขที่ 111 และบ้านเลขที่ 109 ให้ออกห่างการเมือง
บทบัญญัตินี้ปรากฏอยู่ในมาตรา 8
ส่วนพรรคเพื่อไทย แม้จะไม่ถูกยุบ แต่ก็ขยับเขยื้อนไม่ได้ ตามประกาศิตของ คสช.
เช่นเดียวกับพรรคการเมืองอื่นที่เคลื่อนไหวทางการเมืองไม่ได้
นอกจากจะจำกัดพื้นที่ฝ่ายการเมืองและเปิดพื้นที่ให้ฝ่ายราชการประจำแล้ว
ยังตั้งต้นวางกติกาใหม่อีกครั้ง
หลังจากปี 2549 เกิดอาการ "เสียของ" หลังจากใช้รัฐธรรมนูญปี 2550 แต่พรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้ง
และหลังจากปี 2554 เกิดอาการ "เสียของ" อีก เมื่อมีการเลือกตั้งอีกหน แล้วพรรคเพื่อไทยกลับมาชนะเลือกตั้ง
ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้น มีพลังผลักดันให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล และก่อนหน้านั้นฝ่ายทหารก็ถูกมองว่ายืนอยู่เคียงข้างประชาธิปัตย์
น่าสังเกตว่า หลังจาก คสช.ตั้งลำ รายชื่อบุคคลสำคัญของ คสช. ก็อยู่ในวังวนเก่า
อาทิ นายวิษณุ เครืองาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เป็นต้น
และตัวยาที่น่าจะนำมาใช้แก้อาการ "เสียของ"สำหรับการยึดอำนาจครั้งนี้น่าจะเป็นบทบัญญัติในมาตรา 35 รัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557
มาตรา 35 บัญญัติแนวทางการร่างรัฐธรรมนูญเอาไว้ 10 ข้อ
มีข้อที่น่าสนใจ และกระทบกับฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ จังๆ หลายข้อ
อาทิ มิให้ผู้ที่เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งว่ากระทำทุจริตหรือประพฤติมิชอบ หรือเคยทำให้เลือกตั้งไม่สุจริต เข้าสู่การเมือง
ป้องกันมิให้เจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และพรรคการเมือง ถูกครอบงำจากคณะบุคคล โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ป้องกันมิให้ใช้ประชานิยม ซึ่งอาจก่อความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของรัฐ
ป้องกันมิให้รัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นใหม่ถูกแก้ไข โดยทำลายหลักการสำคัญที่กำหนด
เป็นต้น
มาตรา 35 จึงแสดงความแจ่มชัดที่จะ "แช่แข็ง" ขั้วอำนาจตรงกันข้าม
ในอนาคต พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่อาจกลับคืนสู่การเมือง สมาชิกบ้านเลขที่ 111 สมาชิกบ้านเลขที่ 109 ก็ลูกผีลูกคน
ตัวอักษรที่บัญญัติไว้ในมาตรา 35 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว จึงแจ่มชัดในเจตนา
นั่นคือ ไม่ต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับสู่การเมือง
ไม่ต้องการให้แกนนำพรรคไทยรักไทย แกนนำพรรคพลังประชาชน แกนนำพรรคเพื่อไทย กลับมามีอำนาจ
ไม่ต้องการให้นักการเมืองที่เคยเป็นพันธมิตรกับพรรคไทยรักไทยหวนคืนสังเวียน
สั่งห้ามใช้ประชานิยม ซึ่งเป็นจุดเด่นของพรรคเพื่อไทย
ตามติดด้วย บทพิทักษ์รัฐธรรมนูญที่ห้ามแก้ไขหลักการ
ทุกอย่างที่ดำเนินการ ปรากฏออกมาในเนื้อหาที่รัฐธรรมนูญชั่วคราวบัญญัติ
ทุกอย่างสอดรับกับถ้อยคำที่นายวิษณุ
เครืองาม ที่ปรึกษา คสช. ย้ำให้ฟังในวันอธิบายความรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวให้ทราบ
ทุกอย่างที่บัญญัติก็เพื่อมิให้ "เสียของ" เหมือนดั่งที่เคยทำมา
ทั้งหมดคือแผน ส่วนการปฏิบัติจะเริ่มนับตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี
การปฏิบัติจะเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายนโดยจะมีรัฐบาล ซึ่งต้องไม่เป็นเหมือนกับรัฐบาล พล.อ.
สุรยุทธ์ จุลานนท์ เมื่อปี 2549-2550
ดังนั้น แผนที่วางไว้ จะสัมฤทธิผลหรือไม่คงต้องพิสูจน์
เพราะทุกอย่างเพิ่งเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
เริ่มต้นพร้อมคำถามที่ว่า จะแก้ "เสียของ" ได้จริง หรือจะทำให้ของเสียหายมากกว่าเดิม
ยังเป็นคำถามที่คาใจ!
............
(ที่มา:มติชนรายวัน26 สิงหาคม 2557
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1409054412
เกม"ลึก"แผน"ลับ" ลบแผล"เสียของ" ตอนจบ คำถามคาใจ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ออกทั้งประกาศทั้งคำสั่งหลากหลาย
คำสั่งต่างๆ เริ่มขยับประเทศ นับตั้งแต่ยกเลิกการใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550
สับเปลี่ยนโยกย้ายข้าราชการ แล้วออกประกาศและคำสั่งมอบให้ข้าราชการคุมโครงสร้างสำคัญของประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์อยู่บนปลายยอด ฝ่ายทหารอยู่ส่วนบนของโครงสร้าง
ปลัดกระทรวงและอธิบดี รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นแขนขาคอยรับคำสั่งและจัดการ
ฝ่ายราชการประจำเคลื่อนเข้าควบคุมประเทศแทนฝ่ายการเมือง
แนวทางของประเทศแจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์เปิดโฉมโรดแมปประเทศไทย
ระยะแรก ควบคุมประเทศสู่ความสงบ ใช้อำนาจ
ระยะสอง ปฏิรูป ใช้สภาปฏิรูปที่มาจากการสรรหา
ระยะสาม เลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญใหม่กำหนด รวมระยะเวลา 3 ระยะ ประมาณปีกว่า
หลังจากประกาศโรดแมป ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะขับเคลื่อนไปตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ประกาศไว้
ระยะแรก มีคณะกรรมการปรองดอง รวบรวมความคิดเห็นทั่วประเทศส่งให้ คสช. เป็นฐานข้อมูลนำไปสู่การปฏิรูป นอกจากนี้ยังมีคณะทำงานเตรียมการเพื่อการปฏิรูปประเทศ คอยจัดเสวนา เพื่อรวบรวมความเห็นส่งให้สภาปฏิรูปแห่งชาติต่อไปด้วย
ระยะสอง ได้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 มีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีสภาปฏิรูปแห่งชาติ มีนายกรัฐมนตรี มีคณะรัฐมนตรี
เหลือแต่ระยะสามเลือกตั้ง ที่ต้องรอเวลาอีก 1 ปี
การประกาศโรดแมปและทำตามที่พูด ช่วยให้สถานการณ์หลายอย่างดีขึ้น
ต่างประเทศรับฟังและยอมรอ ในประเทศก็มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
อย่างไรก็ตาม การประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ทำให้สถานการณ์ทางการเมืองไทยมีลักษณะคล้ายคลึงกับหลังปฏิวัติปี 2549
นั่นคือ การกีดกันนักการเมืองในบ้านเลขที่ 111 และบ้านเลขที่ 109 ให้ออกห่างการเมือง
บทบัญญัตินี้ปรากฏอยู่ในมาตรา 8
ส่วนพรรคเพื่อไทย แม้จะไม่ถูกยุบ แต่ก็ขยับเขยื้อนไม่ได้ ตามประกาศิตของ คสช.
เช่นเดียวกับพรรคการเมืองอื่นที่เคลื่อนไหวทางการเมืองไม่ได้
นอกจากจะจำกัดพื้นที่ฝ่ายการเมืองและเปิดพื้นที่ให้ฝ่ายราชการประจำแล้ว
ยังตั้งต้นวางกติกาใหม่อีกครั้ง
หลังจากปี 2549 เกิดอาการ "เสียของ" หลังจากใช้รัฐธรรมนูญปี 2550 แต่พรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้ง
และหลังจากปี 2554 เกิดอาการ "เสียของ" อีก เมื่อมีการเลือกตั้งอีกหน แล้วพรรคเพื่อไทยกลับมาชนะเลือกตั้ง
ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้น มีพลังผลักดันให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล และก่อนหน้านั้นฝ่ายทหารก็ถูกมองว่ายืนอยู่เคียงข้างประชาธิปัตย์
น่าสังเกตว่า หลังจาก คสช.ตั้งลำ รายชื่อบุคคลสำคัญของ คสช. ก็อยู่ในวังวนเก่า
อาทิ นายวิษณุ เครืองาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เป็นต้น
และตัวยาที่น่าจะนำมาใช้แก้อาการ "เสียของ"สำหรับการยึดอำนาจครั้งนี้น่าจะเป็นบทบัญญัติในมาตรา 35 รัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557
มาตรา 35 บัญญัติแนวทางการร่างรัฐธรรมนูญเอาไว้ 10 ข้อ
มีข้อที่น่าสนใจ และกระทบกับฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ จังๆ หลายข้อ
อาทิ มิให้ผู้ที่เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งว่ากระทำทุจริตหรือประพฤติมิชอบ หรือเคยทำให้เลือกตั้งไม่สุจริต เข้าสู่การเมือง
ป้องกันมิให้เจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และพรรคการเมือง ถูกครอบงำจากคณะบุคคล โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ป้องกันมิให้ใช้ประชานิยม ซึ่งอาจก่อความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของรัฐ
ป้องกันมิให้รัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นใหม่ถูกแก้ไข โดยทำลายหลักการสำคัญที่กำหนด
เป็นต้น
มาตรา 35 จึงแสดงความแจ่มชัดที่จะ "แช่แข็ง" ขั้วอำนาจตรงกันข้าม
ในอนาคต พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่อาจกลับคืนสู่การเมือง สมาชิกบ้านเลขที่ 111 สมาชิกบ้านเลขที่ 109 ก็ลูกผีลูกคน
ตัวอักษรที่บัญญัติไว้ในมาตรา 35 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว จึงแจ่มชัดในเจตนา
นั่นคือ ไม่ต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับสู่การเมือง
ไม่ต้องการให้แกนนำพรรคไทยรักไทย แกนนำพรรคพลังประชาชน แกนนำพรรคเพื่อไทย กลับมามีอำนาจ
ไม่ต้องการให้นักการเมืองที่เคยเป็นพันธมิตรกับพรรคไทยรักไทยหวนคืนสังเวียน
สั่งห้ามใช้ประชานิยม ซึ่งเป็นจุดเด่นของพรรคเพื่อไทย
ตามติดด้วย บทพิทักษ์รัฐธรรมนูญที่ห้ามแก้ไขหลักการ
ทุกอย่างที่ดำเนินการ ปรากฏออกมาในเนื้อหาที่รัฐธรรมนูญชั่วคราวบัญญัติ
ทุกอย่างสอดรับกับถ้อยคำที่นายวิษณุ
เครืองาม ที่ปรึกษา คสช. ย้ำให้ฟังในวันอธิบายความรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวให้ทราบ
ทุกอย่างที่บัญญัติก็เพื่อมิให้ "เสียของ" เหมือนดั่งที่เคยทำมา
ทั้งหมดคือแผน ส่วนการปฏิบัติจะเริ่มนับตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี
การปฏิบัติจะเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายนโดยจะมีรัฐบาล ซึ่งต้องไม่เป็นเหมือนกับรัฐบาล พล.อ.
สุรยุทธ์ จุลานนท์ เมื่อปี 2549-2550
ดังนั้น แผนที่วางไว้ จะสัมฤทธิผลหรือไม่คงต้องพิสูจน์
เพราะทุกอย่างเพิ่งเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
เริ่มต้นพร้อมคำถามที่ว่า จะแก้ "เสียของ" ได้จริง หรือจะทำให้ของเสียหายมากกว่าเดิม
ยังเป็นคำถามที่คาใจ!
............
(ที่มา:มติชนรายวัน26 สิงหาคม 2557
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1409054412