เรื่องนี้ทำเราหงุดหงิด จิตหลุดมากเลยค่ะ เก็บไว้คนเดียวคงจะอกแตกตาย

ขอพื้นที่ระบายหน่อยนะคะ
เรื่องมีอยู่ว่าวันนี้เรามีประชุม หัวข้อเกี่ยวกับระบบเรียกเก็บเงินลูกค้า หรือ Billing นั่นแหละค่ะ
เราเป็นตัวแทนจากฝ่าย Product Development
ส่วนคนที่เราจะพูดถึงต่อไปนี้และเป็นคนที่ชี้หน้าถามเราตามหัวข้อกระทู้ มาจากฝ่ายออกบิลเรียกเก็บเงินลูกค้าค่ะ
ตัวละครที่จะพูดถึงมีแค่ 2 คนนี้นะคะ
เราทำงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรก็จะมีพวกหัวโบราณอยู่มากเหมือนกัน
ประเภทที่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลกใบนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ชีวิตนี้ไม่เคยทำงานเอกชนเลย
เรียนจบยันอายุเกือบเกษียณทำที่เดียวมาตลอด บอกเลยคนพวกนี้โลกแคบมากค่ะ
และมักจะสำคัญตัวเองเสมอ เพราะไม่เคยได้รู้ได้เห็นว่าสังคมการทำงานที่อื่นเค้าเป็นยังไง
เข้าเรื่องดีกว่า
ประเด็นที่ถกเถียงกันในวันนี้เกี่ยวกับชื่อบริการ ที่ทางบริษัทเรานำเสนอขายลูกค้าค่ะ
เราขอเล่าเป็นบทสนทนานะคะ ขอเรียกคุณคนนั้นว่า "ป้า" (มนุษย์ป้า สินะ)
เราจำบทสนทนาเป๊ะๆไม่ได้ แต่เนื้อหาตามนี้แน่นอน ไม่มีดัดแปลงแต่งเสริมค่ะ
ป้า: ทำไมถึงตั้งชื่อบริการเป็น MPLS ล่ะ (ถามเราซึ่งเป็นฝ่ายกำหนดชื่อบริการ)
สมาชิกท่าน 1 ในที่ประชุม: เพื่อให้สอดคล้องกับเทคโนโลยี
ป้า: ต่างประเทศเค้าใช้ IP-VPN กัน ทำไมไม่ทำให้เหมือนประเทศอื่นเค้าล่ะ แบบนี้ต่างประเทศก็งงหมดน่ะสิ
เค้าไม่รู้หรอกว่า MPLS ของคุณคืออะไร ชั้นคุยกับต่างประเทศมาตลอดเค้าก็ใช้แต่ IP-VPN กัน
(ต่างประเทศของป้าในที่นี้ประมาณ 2-3 ราย)
เราซึ่งนั่งฟังเงียบๆ ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้อย่างยิ่ง เพราะค่อนข้างแน่ใจว่าปัจจุบันไม่ว่าประเทศไหนๆ
ถ้าทำธุรกิจโทรคมนาคม ก็ต้องทราบทั้งนั้นว่า MPLS คืออะไร ไม่ต้องผู้ประกอบธุรกิจหรอก
คนธรรมดาอย่างเราๆ อยากรู้ ถามอากู๋แป๊บเดียวก็ได้คำตอบแล้ว
คิดได้ดังนั้น ก็เลยแย้งพร้อมจะให้เหตุผล
เรา: ทำไมถึงจะไม่รู้จักคะ.....(กำลังจะพูดต่อ ป้าแทรกขึ้นมาทันทีพร้อมชี้หน้า)
ป้า: น้องทำงานมากี่ปีแล้ว น้องรู้มั้ยว่าเค้าทำแบบนี้กันมากี่ปีแล้ว ตั้งแต่น้องยังไม่เข้ามาด้วยซ้ำ น้องคงไม่รู้ว่า.... บลา บลา บลา
เรา: จบการสนทนา ด้วยความมึน งง
หมายเหตุ: เหตุผลหลักที่ป้าขัดใจ ก็คือ ถ้าเปลี่ยนแปลงชื่อบริการในระบบ ป้าก็ต้องมาเรียนรู้ใหม่ ทำใหม่
อารมณ์แบบว่าขี้เกียจ ไม่อยากรับรู้อะไรใหม่ๆ ก็เลยดิ้น
จริงอยู่อายุงานเราอาจจะน้อยกว่าป้า แต่ประสบการณ์การทำงานเราก็ไม่น้อยเลยนะ 8-9 ปีได้
เราเคยทำเอกชนมาก่อน 2 บริษัทใหญ่ที่ทำธุรกิจโทรคมนาคม รับรองว่าโลกทัศน์เรากว้างกว่าแน่นอน หรา??
ที่สำคัญเราเห็นมาเยอะแล้วว่าทำงานแบบไหนที่นำพาองค์กรให้ก้าวหน้าได้
ผู้บริหารระดับสูง ยังรับฟังความคิดเห็นของเด็กจบใหม่เลย แล้วป้าเป็นใคร ถึงไม่ฟังใครเลย
ไม่แปลกใจที่วันนี้องค์กรยังย่ำอยู่กับที่ และถอยหลังลงคลองไปทุกวัน
ที่เด็ดสุดป้ามีไปถามหัวหน้าเราด้วย ว่าทำไมไม่เข้าประชุม ส่งตัวแทนมาเหรอ พร้อมรอยยิ้มแบบหานิยามไม่ได้ อันนี้หัวหน้าเล่ามาอีกที
ตอนแรกรู้สึกโกรธป้ามาก มันมีกฎข้อไหนมิทราบที่ห้ามคนอายุงานน้อยกว่าออกความเห็นในที่ประชุม

มาตอนนี้ โกรธตัวเองมากกว่า ที่ไม่ตอบโต้ให้ป้าได้รู้สำนึกเสียบ้าง เสียดายและเซ็งมาก
จบแล้ว ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ
เคยโดนชี้หน้าถามว่า ทำงานมากี่ปีแล้ว ในที่ประชุมมั้ยคะ
ขอพื้นที่ระบายหน่อยนะคะ
เรื่องมีอยู่ว่าวันนี้เรามีประชุม หัวข้อเกี่ยวกับระบบเรียกเก็บเงินลูกค้า หรือ Billing นั่นแหละค่ะ
เราเป็นตัวแทนจากฝ่าย Product Development
ส่วนคนที่เราจะพูดถึงต่อไปนี้และเป็นคนที่ชี้หน้าถามเราตามหัวข้อกระทู้ มาจากฝ่ายออกบิลเรียกเก็บเงินลูกค้าค่ะ
ตัวละครที่จะพูดถึงมีแค่ 2 คนนี้นะคะ
เราทำงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรก็จะมีพวกหัวโบราณอยู่มากเหมือนกัน
ประเภทที่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลกใบนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ชีวิตนี้ไม่เคยทำงานเอกชนเลย
เรียนจบยันอายุเกือบเกษียณทำที่เดียวมาตลอด บอกเลยคนพวกนี้โลกแคบมากค่ะ
และมักจะสำคัญตัวเองเสมอ เพราะไม่เคยได้รู้ได้เห็นว่าสังคมการทำงานที่อื่นเค้าเป็นยังไง
เข้าเรื่องดีกว่า
ประเด็นที่ถกเถียงกันในวันนี้เกี่ยวกับชื่อบริการ ที่ทางบริษัทเรานำเสนอขายลูกค้าค่ะ
เราขอเล่าเป็นบทสนทนานะคะ ขอเรียกคุณคนนั้นว่า "ป้า" (มนุษย์ป้า สินะ)
เราจำบทสนทนาเป๊ะๆไม่ได้ แต่เนื้อหาตามนี้แน่นอน ไม่มีดัดแปลงแต่งเสริมค่ะ
ป้า: ทำไมถึงตั้งชื่อบริการเป็น MPLS ล่ะ (ถามเราซึ่งเป็นฝ่ายกำหนดชื่อบริการ)
สมาชิกท่าน 1 ในที่ประชุม: เพื่อให้สอดคล้องกับเทคโนโลยี
ป้า: ต่างประเทศเค้าใช้ IP-VPN กัน ทำไมไม่ทำให้เหมือนประเทศอื่นเค้าล่ะ แบบนี้ต่างประเทศก็งงหมดน่ะสิ
เค้าไม่รู้หรอกว่า MPLS ของคุณคืออะไร ชั้นคุยกับต่างประเทศมาตลอดเค้าก็ใช้แต่ IP-VPN กัน
(ต่างประเทศของป้าในที่นี้ประมาณ 2-3 ราย)
เราซึ่งนั่งฟังเงียบๆ ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้อย่างยิ่ง เพราะค่อนข้างแน่ใจว่าปัจจุบันไม่ว่าประเทศไหนๆ
ถ้าทำธุรกิจโทรคมนาคม ก็ต้องทราบทั้งนั้นว่า MPLS คืออะไร ไม่ต้องผู้ประกอบธุรกิจหรอก
คนธรรมดาอย่างเราๆ อยากรู้ ถามอากู๋แป๊บเดียวก็ได้คำตอบแล้ว
คิดได้ดังนั้น ก็เลยแย้งพร้อมจะให้เหตุผล
เรา: ทำไมถึงจะไม่รู้จักคะ.....(กำลังจะพูดต่อ ป้าแทรกขึ้นมาทันทีพร้อมชี้หน้า)
ป้า: น้องทำงานมากี่ปีแล้ว น้องรู้มั้ยว่าเค้าทำแบบนี้กันมากี่ปีแล้ว ตั้งแต่น้องยังไม่เข้ามาด้วยซ้ำ น้องคงไม่รู้ว่า.... บลา บลา บลา
เรา: จบการสนทนา ด้วยความมึน งง
หมายเหตุ: เหตุผลหลักที่ป้าขัดใจ ก็คือ ถ้าเปลี่ยนแปลงชื่อบริการในระบบ ป้าก็ต้องมาเรียนรู้ใหม่ ทำใหม่
อารมณ์แบบว่าขี้เกียจ ไม่อยากรับรู้อะไรใหม่ๆ ก็เลยดิ้น
จริงอยู่อายุงานเราอาจจะน้อยกว่าป้า แต่ประสบการณ์การทำงานเราก็ไม่น้อยเลยนะ 8-9 ปีได้
เราเคยทำเอกชนมาก่อน 2 บริษัทใหญ่ที่ทำธุรกิจโทรคมนาคม รับรองว่าโลกทัศน์เรากว้างกว่าแน่นอน หรา??
ที่สำคัญเราเห็นมาเยอะแล้วว่าทำงานแบบไหนที่นำพาองค์กรให้ก้าวหน้าได้
ผู้บริหารระดับสูง ยังรับฟังความคิดเห็นของเด็กจบใหม่เลย แล้วป้าเป็นใคร ถึงไม่ฟังใครเลย
ไม่แปลกใจที่วันนี้องค์กรยังย่ำอยู่กับที่ และถอยหลังลงคลองไปทุกวัน
ที่เด็ดสุดป้ามีไปถามหัวหน้าเราด้วย ว่าทำไมไม่เข้าประชุม ส่งตัวแทนมาเหรอ พร้อมรอยยิ้มแบบหานิยามไม่ได้ อันนี้หัวหน้าเล่ามาอีกที
ตอนแรกรู้สึกโกรธป้ามาก มันมีกฎข้อไหนมิทราบที่ห้ามคนอายุงานน้อยกว่าออกความเห็นในที่ประชุม
มาตอนนี้ โกรธตัวเองมากกว่า ที่ไม่ตอบโต้ให้ป้าได้รู้สำนึกเสียบ้าง เสียดายและเซ็งมาก
จบแล้ว ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ