คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
ถ้าอยากลดความอ้วน...ทำแบบ high intensity ดีกว่า (ถ้าร่างกายพร้อม/ไหว)
ย้ำว่า ถ้าไหวนะ...
ถ้าบอกว่า เบิร์นเท่ากัน (ในระยะเวลาที่ใช้ต่างกัน)
แต่สิ่งที่จะแตกต่างกันคือ afterburn effect (ร่างกายจะยังคงเผาผลาญพลังงานต่อไปถึงแม้จะหยุดออกกำลังกายแล้ว)
ในขณะที่การออกกำลังกายแบบ low intensity มันไม่มี afterburn effect
ออกเสร็จ ก็คือ จบ เพราะร่างกายไม่ต้องซ่อมแซมอะไรมากมาย
เรื่อง fat burning zone อ่ะ เราอ่านมาหลายที่ล่ะ
คนที่ต้องการลด ความอ้วน ควรเข้าใจตรงนี้ใหม่
เพราะจริง ๆ คือ มันคือ สัดส่วน ของแหล่งพลังงานที่ใช้เท่านั้น
การลดความอ้วนจริง ๆ ก็คือ การทำให้พลังงานที่รับเข้าไป น้อยกว่าที่ใช้
ถ้าจะลดก็ควรจะทำให้พลังงานมันติดลบ
ไม่ต้องไปดูว่า แหล่งพลังงานที่ร่างกายใช้มาจากไหน
เพราะท้ายสุด เมื่อพลังงานติดลบ ไขมันก็จะถูกดึงมาเป็นพลังงานอยู่ดีน่ะแหละ
(งงป่ะคะ เราเขียนไม่ค่อยเก่ง)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ย้ำว่า ถ้าไหวนะ...
ถ้าบอกว่า เบิร์นเท่ากัน (ในระยะเวลาที่ใช้ต่างกัน)
แต่สิ่งที่จะแตกต่างกันคือ afterburn effect (ร่างกายจะยังคงเผาผลาญพลังงานต่อไปถึงแม้จะหยุดออกกำลังกายแล้ว)
ในขณะที่การออกกำลังกายแบบ low intensity มันไม่มี afterburn effect
ออกเสร็จ ก็คือ จบ เพราะร่างกายไม่ต้องซ่อมแซมอะไรมากมาย
เรื่อง fat burning zone อ่ะ เราอ่านมาหลายที่ล่ะ
คนที่ต้องการลด ความอ้วน ควรเข้าใจตรงนี้ใหม่
เพราะจริง ๆ คือ มันคือ สัดส่วน ของแหล่งพลังงานที่ใช้เท่านั้น
การลดความอ้วนจริง ๆ ก็คือ การทำให้พลังงานที่รับเข้าไป น้อยกว่าที่ใช้
ถ้าจะลดก็ควรจะทำให้พลังงานมันติดลบ
ไม่ต้องไปดูว่า แหล่งพลังงานที่ร่างกายใช้มาจากไหน
เพราะท้ายสุด เมื่อพลังงานติดลบ ไขมันก็จะถูกดึงมาเป็นพลังงานอยู่ดีน่ะแหละ
(งงป่ะคะ เราเขียนไม่ค่อยเก่ง)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
สอบถามเรื่องการออกกำลังกายแบบ cardio ค่ะ
เรารู้สึกว่าการออกกำลังกายตอนเช้า กับตอนเย็น เราออกหนักได้ไม่เท่ากันค่ะ ตอนเย็นออกได้หนักกว่าตอนเช้า เหมือนร่างกายมันยังไม่พร้อมเท่าไหร่ เลยอยากทราบค่ะ
(kcal burned กับ HR วัดเอาจาก Polar HRM ค่ะ)