ผู้เชี่ยวชาญพลังงานสวนหมัดเอ็นจีโอ ชี้ใช้นำมันยูโร 2 กระทบสังคมหนัก

ดร.มนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการอิสระผู้เชี่ยวชาญพลังงานและกลุ่มปฏิรูปพลังงานเพื่อความยั่งยืน เปิดเผยถึง กรณีที่ น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา(สว.) กทม.และเครือข่ายเอ็นจีโอ ออกโรงเรียกร้องให้ คสช.ปลดล็อคโครงสร้างราคาพลังงาน โดยให้กำหนดมาตรฐานคุณภาพน้ำมันของประเทศไทยกลับไปสู่มาตรฐานยูโร 2 โดยอ้างว่ามาตรฐานยูโร 4 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ทำให้ประชาชนแบกรับภาระค่าปรับปรุงคุณภาพน้ำมันแบบสูญเปล่าทั้งที่ไม่มีความจำเป็น ว่า กรณีแนวคิดดังกล่าวนอกจากจะเป็นการนำพาประเทศชาติถอยหลังลงคลองแล้ว ยังเป็นการซ้ำเติมสภาพธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่งผลต่อเนื่องไปถึงสุขภาพของประชาชนคนไทยซ้ำหนักเข้าไปอีก

“ทุกประเทศทั่วโลกกำลังเพิ่มมาตรฐานน้ำมันขึ้น จากมาตรฐานน้ำมันยูโร 2 ที่ใช้กันอยู่ ก็จะมีเลิกใช้กัน อย่างประเทศในแถบอาเซียน ส่วนใหญ่ก็จะเพิ่มเป็นยูโร 4-5 กันทั้งนั้น อย่างมาเลเซียก็จะเพิ่มเป็นยูโร 4 สิงคโปร์ก็จะเพิ่มเป็นยูโร 4 และต่อด้วยยูโร 5 ในเร็วๆ นี้เช่นกัน นั่นหมายความว่า ต่อไปในอนาคตจะไม่มีการผลิตน้ำมันมาตรฐานยูโร 2 ขายกันอีกแล้ว แล้วประเทศไทยจะถอยเข้าคลองกันทำไม นอกจากนั้น ยังทำให้คนไทยมีสุขภาพเลวร้ายลงอีก เพราะการหันไปใช้มาตรฐานน้ำมันยูโร 2 จะทำเกิดโรคภัยไข้เจ็บเพิ่มมากขึ้น และเป็นการซ้ำเติมสภาพธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เลวร้ายหนัก อีกทั้งประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการใช้รถเป็นจำนวนมาก ก็จะเพิ่มมลพิษมลภาวะให้สภาพอากาศเลวลง ส่งผลต่อเนื่องถึงการที่ต้องเสียค่ารักษาพยาบาลด้านสุขภาพนับหมื่นนับแสนล้านบาทกันทำไม”

ผู้เชี่ยวชาญพลังงานฯ กล่าวต่อว่า โรงกลั่นน้ำมันในประเทศไทยทั้ง 6 โรง ได้ลงทุนด้านคุณภาพการกลั่นมาตรฐานน้ำมันยูโร 4 กันหมดแล้วนับหมื่นล้านบาท หากมีการกลับไปใช้มาตรฐานยูโร 2 เม็ดเงินมหาศาลที่เขาลงทุนแล้ว จะให้เขาทำอย่างไร การกลับไปใช้มาตรฐานน้ำมันยูโร 2 ไม่ได้ทำให้น้ำมันราคาถูกลงมากมาย ถูกลงอย่างมากก็แค่ 50 สตางค์/ลิตรเท่านั้นเอง ไม่ได้ถูกเป็นบาทอย่างที่พูดๆ กัน ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องกลับไปใช้มาตรฐานน้ำมันยูโร 2 ไหนจะต้องเสียค่ารักษาพยาบาลของประชาชนคนไทยนับหมื่นนับแสนล้าน ไม่ใช่เป็นการปลดล็อคเพื่อคืนความสุขให้ประชาชนคนไทยได้ใช้น้ำมันราคาถูกหรอก แต่เป็นการคืนความทุกข์ให้กับประชาชนคนไทยต่างหาก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่