สืบเนื่องจาก จขกท มีเชื้อจีนหน่อยๆ เพราะมีคุณตาเป็นคนจีน แต่ตอนนี้ท่านเสียไปหลายปีแล้ว หลังจากนั้นที่บ้านก็เริ่มมีการไหว้เจ้าเป็นต้นมา แต่อาจจะไม่ได้มีพิธีรีตองเป๊ะมากนัก เหมือนครอบครัวเชื้อสายจีนท่านอื่นๆ ปัญหาของการไหว้เจ้าของ จขกท ก็คือ เจ้าขนมเข่ง เพราะเมื่อก่อนจะซื้อมาไหว้อย่างเดียวเลย ซื้อมาแล้วแป้งก็ออกแนวแข็งๆ หวานไป ไม่อร่อยถูกปากคนที่บ้าน
ดังนั้น จขกท เลยเริ่ม search ข้อมูลในกูเกิ้ลดู ผลปรากฏว่า มีสูตรของขนมเข่งเยอะมากๆ จขกท เลยไปสะดุดตากับเจ้าขนมเข่งมะพร้าวอ่อน ที่นำเนื้อของมะพร้าวอ่อนมาผสมลงในเนื้อขนมด้วย แต่เนื่องจากสูตรนี้มีอยู่หลายเจ้า จขกท เลยตัดสินใจเอามาดัดแปลงในแบบของตัวเอง เราไปดูวิธีทำกันเลยค่ะ
ป.ล. จขกท ขออภัยด้วยนะค่ะ ที่ภาพอาจจะไม่ชัดเท่าไหร่ พอดีใช้มือถือถ่ายภาพค่ะ
ส่วนประกอบ
- แป้งข้าวเหนียว ๕๐๐ กรัม
- น้ำตาลปี๊บ ๕๐๐ กรัม
- น้ำมะพร้าวอ่อน หรือ น้ำเปล่า ๑ ถ้วยตวง
- เนื้อมะพร้าวอ่อนตามชอบ แต่ จขกท ใส่ไป ๗ ลูกเต็มๆค่ะ อิอิ
- เกลือป่น
- น้ำเฮลูบอยสีแดง หรือสีผสมอาหารสีแดง
- น้ำมันพืช
- ใบตองแห้ง
- ตะเกียบ หรือ ไม้เสียบลูกชิ้น

ในภาพแอบมีของไม่ครบหลายอย่างเลย พอดีตอนแรก จขกท ไม่ได้ตั้งใจจะรีวิวค่ะ
วิธีทำ
- นำน้ำตาลปี๊บมาผสมกับน้ำมะพร้าวอ่อน แล้วนำขึ้นตั้งไฟให้น้ำตาลปี๊บละลายให้หมด แล้วปิดไฟพักไว้ให้เย็น จากนั้นนำแป้งข้าวเหนียวเทลงในชามผสม แล้วค่อยๆเทน้ำตาลปี๊บที่ละลายแล้ว ลงไปนวดกับแป้งข้าวเหนียว จนแป้งกับน้ำตาลเข้ากันได้ดี คือไม่ข้น หรือเหลวเกินไป ถ้าข้นก็เติมน้ำเปล่า แต่ถ้าเหลวให้เติมแป้งข้าวเหนียวเพิ่มค่ะ จากนั้นนำเนื้อมะพร้าวอ่อนใส่ลงไป เพิ่มเกลือตัดความหวานของตัวขนมสักนิดนึง จากนั้นนวดให้ส่วนผสมเข้ากันดีอีกครั้ง ก็จะได้ดังรูปค่ะ
- นำกระทงใบตองแห้งมาทาน้ำมันพืช โดยทาบางๆ เพื่อป้องกันขนมติดใบตอง
- นำแป้งขนมที่ได้ตักใส่กระทงใบตอง โดยตักให้เหลือขอบกระทงนิดหน่อย เพราะถ้าตักเต็มกระทงพอดี เวลานึ่งแล้ว ขนมจะล้นกระทงออกมาค่ะ
- ตั้งน้ำให้เดือดปานกลาง ค่อนมาทางแรง แล้วนำขนมขึ้นไปนึ่ง โดยใช้เวลา ๒๐-๓๐ นาที เมื่อนึ่งได้สัก ๒๕ นาที ก็เปิดฝาเพื่อเช็คความสุกของเนื้อขนมด้วยการเอาไม้จิ้มฟันจิ้มลงไป ถ้าไม่มีเนื้อขนมเหลวๆ ติดขึ้นมาก็แสดงว่าขนมสุกแล้ว จากนั้นยกลงจากเตานึ่ง
ข้อระวัง เวลาเปิดฝาแล้วรีบหงายฝาขึ้นทันที เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำหยดลงหน้าขนม
- ขั้นตอนสุดท้ายนำตะเกียบจุ่มน้ำเฮลูบอยสีแดง แต้มสีลงบนหน้าขนม แค่นี้เราก็จะได้ "ขนมเข่งมะพร้าวอ่อน" กลิ่นหอมๆ นุ่ม เหนียว เหมาะแก่การไหว้เจ้า และถูกปากคนในครอบครัวแล้วค่ะ
อยู่ดีไม่ว่าดี ทำขนมเข่งมะพร้าวอ่อนไหว้เจ้าเอง ไม่ยอมเสียเงินซื้อ แต่หน้าตาก็ใช้ได้อยู่น๊า อิอิ
ดังนั้น จขกท เลยเริ่ม search ข้อมูลในกูเกิ้ลดู ผลปรากฏว่า มีสูตรของขนมเข่งเยอะมากๆ จขกท เลยไปสะดุดตากับเจ้าขนมเข่งมะพร้าวอ่อน ที่นำเนื้อของมะพร้าวอ่อนมาผสมลงในเนื้อขนมด้วย แต่เนื่องจากสูตรนี้มีอยู่หลายเจ้า จขกท เลยตัดสินใจเอามาดัดแปลงในแบบของตัวเอง เราไปดูวิธีทำกันเลยค่ะ
ป.ล. จขกท ขออภัยด้วยนะค่ะ ที่ภาพอาจจะไม่ชัดเท่าไหร่ พอดีใช้มือถือถ่ายภาพค่ะ
ส่วนประกอบ
- แป้งข้าวเหนียว ๕๐๐ กรัม
- น้ำตาลปี๊บ ๕๐๐ กรัม
- น้ำมะพร้าวอ่อน หรือ น้ำเปล่า ๑ ถ้วยตวง
- เนื้อมะพร้าวอ่อนตามชอบ แต่ จขกท ใส่ไป ๗ ลูกเต็มๆค่ะ อิอิ
- เกลือป่น
- น้ำเฮลูบอยสีแดง หรือสีผสมอาหารสีแดง
- น้ำมันพืช
- ใบตองแห้ง
- ตะเกียบ หรือ ไม้เสียบลูกชิ้น
ในภาพแอบมีของไม่ครบหลายอย่างเลย พอดีตอนแรก จขกท ไม่ได้ตั้งใจจะรีวิวค่ะ
วิธีทำ
- นำน้ำตาลปี๊บมาผสมกับน้ำมะพร้าวอ่อน แล้วนำขึ้นตั้งไฟให้น้ำตาลปี๊บละลายให้หมด แล้วปิดไฟพักไว้ให้เย็น จากนั้นนำแป้งข้าวเหนียวเทลงในชามผสม แล้วค่อยๆเทน้ำตาลปี๊บที่ละลายแล้ว ลงไปนวดกับแป้งข้าวเหนียว จนแป้งกับน้ำตาลเข้ากันได้ดี คือไม่ข้น หรือเหลวเกินไป ถ้าข้นก็เติมน้ำเปล่า แต่ถ้าเหลวให้เติมแป้งข้าวเหนียวเพิ่มค่ะ จากนั้นนำเนื้อมะพร้าวอ่อนใส่ลงไป เพิ่มเกลือตัดความหวานของตัวขนมสักนิดนึง จากนั้นนวดให้ส่วนผสมเข้ากันดีอีกครั้ง ก็จะได้ดังรูปค่ะ
- นำกระทงใบตองแห้งมาทาน้ำมันพืช โดยทาบางๆ เพื่อป้องกันขนมติดใบตอง
- นำแป้งขนมที่ได้ตักใส่กระทงใบตอง โดยตักให้เหลือขอบกระทงนิดหน่อย เพราะถ้าตักเต็มกระทงพอดี เวลานึ่งแล้ว ขนมจะล้นกระทงออกมาค่ะ
- ตั้งน้ำให้เดือดปานกลาง ค่อนมาทางแรง แล้วนำขนมขึ้นไปนึ่ง โดยใช้เวลา ๒๐-๓๐ นาที เมื่อนึ่งได้สัก ๒๕ นาที ก็เปิดฝาเพื่อเช็คความสุกของเนื้อขนมด้วยการเอาไม้จิ้มฟันจิ้มลงไป ถ้าไม่มีเนื้อขนมเหลวๆ ติดขึ้นมาก็แสดงว่าขนมสุกแล้ว จากนั้นยกลงจากเตานึ่ง ข้อระวัง เวลาเปิดฝาแล้วรีบหงายฝาขึ้นทันที เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำหยดลงหน้าขนม
- ขั้นตอนสุดท้ายนำตะเกียบจุ่มน้ำเฮลูบอยสีแดง แต้มสีลงบนหน้าขนม แค่นี้เราก็จะได้ "ขนมเข่งมะพร้าวอ่อน" กลิ่นหอมๆ นุ่ม เหนียว เหมาะแก่การไหว้เจ้า และถูกปากคนในครอบครัวแล้วค่ะ