ผมอยากมาเล่าเรื่องราววัยเด็กๆของผมให้ฟัง ความทรงจำที่ดีที่อยากแชร์ครับ

กระทู้สนทนา
ซึ่งเชื่อว่าทุกๆคนมีความทรงจำเหล่านี้ผมมีความทรงจำที่เลือนลาง เมื่ออายุ 2-3 ขวบ เป็นต้นมาเป็นความทรงจำที่มีความรัก ความอบอุ่น อยุ่ในนั้น

การอยู่กับอาม่า

ร้านย่งเชียงหลี คือ
ร้านโชว์ห่วยของอาม่าผมอยู่ภาคอีสานของไทย จ.มหาสารคาม อ.บรบือ

ร้านนี้ขายอุปกรณ์การเกษตร การประมง และสินค้าเบ็ดเตล็ด มีตั้งแต่ฝ้ายทอผ้า, ผ้าสื่อปูบ้าน ไปจนถึง หม้อแบตตอรี่ เอาเป็นว่ามีทุกอย่างที่เป็นที่ต้องการของชาวบ้านเลยครับ

ผมเป็นลูกครึ่งอีสาน-เหนือ คือแม่เป็นคนอีสานครึ่งจีน ส่วนพ่อเป็นคนเหนือโดยแท้ สมัยเด็กๆผมอยู่กับอาม่า, อากง(แต่ท่านเสียเร็วกว่าที่ผมจะจำความได้) อาโบ่(ป้า) และ อา(น้องชายของแม่) จนถึงอายุ 5 ขวบแล้วจึงย้ายไปอยู่เชียงใหม่กับพ่อแม่ สาเหตุที่อยู่กับอาม่าเพราะว่าพ่อแม่ทำงานหนักมาก ผมเลยโตมาแบบเด็กบ้านนอก ฟังเพลงลูกทุ่ง เล่นกับดินกับโคลน เก็บสะสมแมลง นอกจากนั้นผมได้โตมากับพี่สาวฝาแฝดอีกสองคนซึ่งเป็นลูกของอา พวกเรามักจะเล่นกันตามประสาเด็กๆ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นซ่อนแอบ การเล่นขายของและเล่นตำรวจจับผู้ร้าย ต่างจากเด็กสมัยนี้ที่เล่นแท๊บเล็ต สมาร์ทโฟน หรือเกมกดต่างๆ

สมัยตอนเป็นเด็กๆ เท่าที่ผมจำได้ วันวันนึงที่ผมทำก็คือ ตื่นเช้าพร้อมป้า(ตี5.30) แล้วมาช่วยป้าเปิดร้าน คือจัดของจัดสินค้า พอเปิดเสร็จ ก็เฝ้าหน้าร้าน เพื่อให้ป้าไปทำอาหารสำหรับทุกคนในครอบครัว ผมเป็นเด็กอยู่ก็ขายไม่เป็น มีหน้าที่เรียกป้ามาขายลูกเดียว ผมจึงสนิทและถือเป็นลูกรักคนนึงของป้า พอ6.30โมง อาม่าก็จะลงมา พร้อมกับเสียงโวยวายว่า "หยุดเล่นเกม แล้วมาช่วยอาม่าขายของ" ซึ่งสมัยนั้นเกมส์ mario, winning eleven 4 กำลังมาดัง ผมจึงแอบกลัวอาม่าพอตัว นอกจากนั้น อาๆของผมก็ดุพอตัว จึงทำให้ผมมักจะอยู่กับพี่สาวและป้าเป็นส่วนใหญ่ เวลาอยากเล่นอะไรสนุกๆก็มักจะแอบเล่นด้วยความกลัวเป็นเหตุผล

สิ่งที่อาม่า กับอาโบ่ของผมสอนก็คือ ให้เป็นคนดี ประหยัด มัธยัด กินน้อย ใช้น้อย พอใจในสิ่งที่เรามี และที่สำคัญคือการมีศักดิ์ศรีในตนเอง ผมยังจำได้ว่าสมัยเป็นเด็กน้อยผมเคยโดนด่า โดนตี ไม่ว่าจะเป็นไม้เรียว ไม้แขวนผ้า ไม้ขนไก่ หรือ ไม่กวาด ผมไม่รู้ว่าเด็กสมัยนี้ยังโดนตีอยู่มั้ย สิ่งที่ผมจำได้คือ มันเจ็บมาก!! และจำว่าไม่ควรทำอีก ซึ่งผมก็ยังเชื่อและชอบในเรื่องการใช้ไม้เรียวตีสอนอยู่นะครับ

พอโตมา ผมก็กลับมาอยู่กับครอบครัวจริงๆ คือ พ่อแม่และน้องๆ และเป็นพี่ใหญ่เต็มตัวครับ ผมอยู่กับที่บ้านเชียงใหม่ก็ตั้งแต่ 5-22ขวบ(ปัจจุบัน) เลยแหละครับ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ ที่บ้านเชียงใหม่สอนคนละแบบกับที่บ้านอีสาน พ่อแม่มักสนับสนุนการไปต่างประเทศครับ ผมจึงได้ไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศก็รวมสองปี คือที่สหรัฐและญี่ปุ่นครับ
แต่ยายของผมสั่งห้าม! ไม่ให้ผมไปเพราะยายเป็นห่วงะกลัวอดคิดถึงไม่ได้ แต่ผมก็ยังรักในการไปต่างประเทศอยู่ดี ฮ่าๆๆๆ สงสารยายแต่ก็ช่วยไม่ได้

ผมมองว่าการไปต่างประเทศเป็นการทำให้เราโตขึ้นและเรียนรู้การใช้ชีวิตคนเดียวให้ได้ ฝึกระเบียบวินัยและความอดทนเป็นอย่างดี ดังนั้นผมจึงสนับสนุนใครก็ตามที่อยากจะไปแลกเปลี่ยน หรือเรียนที่เมืองนอกครับ สนุกดีครับ

ความทรงจำนี้ผมก็ได้แต่งขึ้นมาในช่วงเวลาว่างหลังจากการขายของช่วยอาม่านั้นแหละครับ วันพรุ่งนี้จะต้องกลับเชียงใหม่เพื่อเรียนต่อ ให้จบปีตรีเทอมสุดท้ายแล้ว(พักการเรียนไปค้นหาตัวเองที่ญี่ปุ่น1ปีครับ) ต่อไปวันพรุ่งนี้จพเป็นอย่างไร ก็ฝากไว้กับพระเจ้า และให้สายลมพัดพาไปครับหากใครมีความทรงจำที่ดี ช่วยเล่าแชร์ประสบการณ์ด้วยครับ
พร้อมรับคำติชมทุกคอทเม้นครับ

ปล.ใช้ล็อคอินของแฟนครับ ยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่