เรียกว่าเลวร้ายมากเลยนะ
นั่นคือการฆาตกรรมอย่างหนึ่งเลยนะ
ถ้าเด็กเสียชีวิตไป...จะทำยังไง
ไม่ว่าจะทำกับเด็กเล็ก เด็กโต หรือกับผู้ใหญ่ .... ก็ไม่สมควรทำ
เพราะนั่นคือการแสดงออกถึงการที่คิดจะฆ่าแกงกันเลยนะ
ละครหรือหนังฆาตกรรมทั้งหลาย ก็มีการแสดงให้เห็นอยู่ว่ามันเป็นวิธีการหนึ่งของคนร้ายที่คิดจะทำร้ายหรือฆ่าคน
แล้วคุณครูคนนั้นทำกับเด็กแบบนี้ได้ยังไง
เอาหัวสมองส่วนไหนคิด
อย่างที่เคยบอกนะว่า เข้าใจได้ว่าเด็กบางคนดื้อ หรือเกเร
และการลงโทษ ก็สามารถทำได้ในฐานะครู
แต่มันควรพอเหมาะพอควร สมเหตุสมผล ที่สำคัญต้องไม่ใช้ความรุนแรง
เราเองก็เคยโดนครูลงโทษ เช่นให้ยืนบนเก้าอี้ คาบไม้บรรทัด หรือวิ่งรอบสนามหน้าโรงเรียน
หรือตีด้วยไม้บรรทัด หรือไม้เรียว จนก้นแเดง
หรือเคยให้คัดลอกคำคำหนึ่งเป็นร้อยคำ
หรือให้ทำเวร ทำความสะอาดห้อง คือให้กลับบ้านช้ากว่าเพื่อนๆ
หรือเคยให้ยืนหน้ากระดานประมาณ 10 นาที
ซึ่งเรามองว่า เป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องปกติของการทำโทษ
เด็กๆจะโตมาได้ดี บางทีก็เพราะการทำโทษของคุณครู การได้รับการอบรมสั่งสอน
จะให้ครูไม่ตี ไม่ดุเลย หรือแบบโอ๋ เอาใจ ...ก็ไม่ดี
แต่มันควรพอประมาณ ไม่ควรทำโทษเหมือนเป็นการทำร้ายเด็ก
ซึ่งการเอาถุงดำครอบหัวเด็ก ไม่ใช่แค่ทำร้าย แต่มันเหมือนจะฆ่าเด็กเลย
การดูแลเด็กสมัยนี้ คนที่เป็นผู้ปกครอง พ่อ แม่ หรือปู่ย่าตายายลุงป้าน้าอา ทั้งหลาย
ต้องมีจิตวิทยา หรือวิธีการอบรมพวกเขามากกว่าสมัยก่อนมากกกกกกกกกกกกกกกกก
เพราะสังคม ยุคสมัย ต่างกันออกไป
เด็กจะกล้าแสดงออกมากขึ้น กล้าพูดกล้าทำกล้าถาม หรือเถียง หรือโต้ตอบมากขึ้น
คุณจะไปใช้วิธีการอบรมแบบเดิมๆไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องใช้ความรุนแรงกับเด็กๆ
คุณจะต้องมีความใจเย็นมากๆๆๆๆๆ ต้องมีความอดทน
มีทักษะ มีจิตวิทยา มีวิธีการพูด การแสดงออก การแต่งตัว หรือการเข้าหาเด็กๆที่ดีมากขึ้นกว่าเดิม
มันไม่ใช่เรื่องง่ายมากนัก แต่ก็ไม่ยากถ้าตั้งใจจริงๆ
ยิ่งถ้าทำอาชีพเป็นครู หรือทำงานเกี่ยวกับเด็ก ต้องฝึกและทำให้ได้
สาธุ...ขอให้เด็กน้อยคนนั้นอย่าขวัญเสีย หรือกลายเป็นคนกลัวโรงเรียน กลัวครูไปเลยนะ
และขอให้ไม่มีเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้ในโรงเรียนอื่นๆเพิ่มเติมอีกเลยนะ
มันรับไม่ได้จริงๆ
พวกที่ใช้ถุงดำครอบหัวเด็ก....ทำได้ไง??
นั่นคือการฆาตกรรมอย่างหนึ่งเลยนะ
ถ้าเด็กเสียชีวิตไป...จะทำยังไง
ไม่ว่าจะทำกับเด็กเล็ก เด็กโต หรือกับผู้ใหญ่ .... ก็ไม่สมควรทำ
เพราะนั่นคือการแสดงออกถึงการที่คิดจะฆ่าแกงกันเลยนะ
ละครหรือหนังฆาตกรรมทั้งหลาย ก็มีการแสดงให้เห็นอยู่ว่ามันเป็นวิธีการหนึ่งของคนร้ายที่คิดจะทำร้ายหรือฆ่าคน
แล้วคุณครูคนนั้นทำกับเด็กแบบนี้ได้ยังไง
เอาหัวสมองส่วนไหนคิด
อย่างที่เคยบอกนะว่า เข้าใจได้ว่าเด็กบางคนดื้อ หรือเกเร
และการลงโทษ ก็สามารถทำได้ในฐานะครู
แต่มันควรพอเหมาะพอควร สมเหตุสมผล ที่สำคัญต้องไม่ใช้ความรุนแรง
เราเองก็เคยโดนครูลงโทษ เช่นให้ยืนบนเก้าอี้ คาบไม้บรรทัด หรือวิ่งรอบสนามหน้าโรงเรียน
หรือตีด้วยไม้บรรทัด หรือไม้เรียว จนก้นแเดง
หรือเคยให้คัดลอกคำคำหนึ่งเป็นร้อยคำ
หรือให้ทำเวร ทำความสะอาดห้อง คือให้กลับบ้านช้ากว่าเพื่อนๆ
หรือเคยให้ยืนหน้ากระดานประมาณ 10 นาที
ซึ่งเรามองว่า เป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องปกติของการทำโทษ
เด็กๆจะโตมาได้ดี บางทีก็เพราะการทำโทษของคุณครู การได้รับการอบรมสั่งสอน
จะให้ครูไม่ตี ไม่ดุเลย หรือแบบโอ๋ เอาใจ ...ก็ไม่ดี
แต่มันควรพอประมาณ ไม่ควรทำโทษเหมือนเป็นการทำร้ายเด็ก
ซึ่งการเอาถุงดำครอบหัวเด็ก ไม่ใช่แค่ทำร้าย แต่มันเหมือนจะฆ่าเด็กเลย
การดูแลเด็กสมัยนี้ คนที่เป็นผู้ปกครอง พ่อ แม่ หรือปู่ย่าตายายลุงป้าน้าอา ทั้งหลาย
ต้องมีจิตวิทยา หรือวิธีการอบรมพวกเขามากกว่าสมัยก่อนมากกกกกกกกกกกกกกกกก
เพราะสังคม ยุคสมัย ต่างกันออกไป
เด็กจะกล้าแสดงออกมากขึ้น กล้าพูดกล้าทำกล้าถาม หรือเถียง หรือโต้ตอบมากขึ้น
คุณจะไปใช้วิธีการอบรมแบบเดิมๆไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องใช้ความรุนแรงกับเด็กๆ
คุณจะต้องมีความใจเย็นมากๆๆๆๆๆ ต้องมีความอดทน
มีทักษะ มีจิตวิทยา มีวิธีการพูด การแสดงออก การแต่งตัว หรือการเข้าหาเด็กๆที่ดีมากขึ้นกว่าเดิม
มันไม่ใช่เรื่องง่ายมากนัก แต่ก็ไม่ยากถ้าตั้งใจจริงๆ
ยิ่งถ้าทำอาชีพเป็นครู หรือทำงานเกี่ยวกับเด็ก ต้องฝึกและทำให้ได้
สาธุ...ขอให้เด็กน้อยคนนั้นอย่าขวัญเสีย หรือกลายเป็นคนกลัวโรงเรียน กลัวครูไปเลยนะ
และขอให้ไม่มีเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้ในโรงเรียนอื่นๆเพิ่มเติมอีกเลยนะ
มันรับไม่ได้จริงๆ