วันก่อนได้ดูทีวีแล้วเขาแนะนำ Lunch Passport น่าสนใจดี ก็เลยไปซื้อมา ราคารวมภาษีแล้ว 993 เยน
พาสปอร์ตนี้มีขายทั่วญี่ปุ่น ตามร้านหนังสือทั่วไป จะแบ่งเป็นพื้นที่ต่าง ๆ ที่เราซื้อมาคือที่ Tenjin - Hakata
ถ้าใครอยู่ญี่ปุ่น หรือไปเที่ยวพื้นที่ไหนนาน ๆ อยากลองชิมอาหารหลาย ๆ อย่าง ก็ลองดูนะคะ
ดูใน IG ของคนที่อยู่แถบ Sendai, Hokkaido มีร้านน่ากิน ๆ หลายร้านเลย
จุดเด่นของพาสปอร์ตนี้คือ สามารถกินเมนูที่กำหนดไว้ในเล่มนี้ ได้ทุกร้านในราคาเมนูละ 500 เยน
กินได้ร้านละ 3 ครั้ง ระยะเวลาคือ ตั้งแต่ 1 กรกฏาคม - 30 กันยายน
1 เล่ม ใช้ได้ 1 คน พอเปิดไปหน้าแรก เขาจะมีให้ติดรูป เขียน ชื่อ วันเดือนปีเกิด
แต่ไม่เขียนก็ไม่เป็นไร ตอนไปกินที่ร้าน ก็ไม่เห็นเขาดูตรงนี้
หน้าต่อ ๆ ไป ก็จะมีแผนที่ว่าร้านอยู่ตรงไหนบ้าง
ต่อไปก็เป็นเรื่องที่แจ้งให้ทราบและมารยาทในการใช้พาสปอร์ต
คร่าว ๆ ก็เช่น ทานเสร็จแล้วไม่นั่งนานเกินไป เมนูอาจมีการเปลี่ยนแปลง ให้ดูได้ที่เฟซบุ๊คหรือบล็อค
ต่อไปเป็นวิธีใช้
เราก็ดูว่าเราอยากไปกินร้านไหน ขั้นแรกดูเวลาที่สามารถใช้พาสปอร์ตได้
แต่ละร้านจะมีเงื่อนไขไม่เหมือนกัน ต้องดูดี ๆ ค่ะ
เช่น ร้านนี้ เราเลือกร้านที่เงื่อนไขเยอะ ๆ มาให้ดูเป็นตัวอย่าง
ใช้พาสปอร์ตได้เวลา 11.30 - 14.30
วันอังคาร พุธ เสาร์ อาทิตย์ วันหยุดราชการ ใช้ไม่ได้ (ตกลงใช้วันไหนได้บ้าง บอกซิ)
ใช้ร่วมกับคูปองอื่น ๆ ไม่ได้
ไปเริ่มกินกันเลยดีกว่า ร้านแรก เราไปร้านอุด้ง สิ่งสำคัญอย่างนึงที่เราจะตัดสินใจเลือกว่าจะไปร้านไหนคือ รูป
ถ้ารูปน่ากิน ก็เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ เลย
เงื่อนไขร้านนี้คือ ใช้ได้ 11.00 - 16.00 ยกเว้นวันอาทิตย์ วันหยุดราชการ
ร้านอยู่ในห้างที่เราไปบ่อยมาก แต่ไม่เคยเดินผ่านร้านนี้เลย เพราะร้านอยู่ในมุมอับ
เข้าไป เราต้องบอกทางร้านก่อนว่าจะใช้พาสปอร์ต
ซึ่งใช้พาสปอร์ตก็สะดวกอีกอย่างคือ ไม่ต้องพูดอะไรมาก บางร้านแค่เห็นพาสปอร์ตก็ไม่ต้องพูดอะไร
เพราะเมนูถูกกำหนดไว้แล้ว
เมนูของร้านนี้คือ อุด้งเย็น ใส่โกะโบทอด กับหัวไช้เท้าฝน
เส้นอุด้ง เส้นเล็กมาก เท่าเส้นพาสต้าเลย อร่อยมาก ไม่หนึบ ๆ ไม่นุ่มเหมือนเส้นอุด้งทั่ว ๆ ไปของฟุคุโอกะ
ร้านต่อไปที่ไปกินคือ พาสต้าเย็น (ช่วงหน้าร้อน จะมีเมนูเย็น ๆ ออกมาเยอะมาก)
ร้านนี้ปกติเขาจะขายเนื้อเป็นหลัก แต่คาดว่าถ้าเมนูเนื้อล้วน ๆ แค่ 500 เยน แถมร้านอยู่ในห้างกลางเมือง คงจะไม่ได้กำไร
เมนูเลยกลายเป็นพาสต้าแทน
ขอบอกว่า น่ากินมาก ๆ น่ากินกว่ารูปในหนังสือเยอะเลย
รสชาติก็อร่อยแบบเย็น ๆ
ร้านต่อไป ไปกิน French toast ดูในรูปธรรมดา แต่อยากกินของหวาน ก็เลยเลือกร้านนี้
เข้าไปในร้านคนเยอะพอสมควร เหลือว่างแค่ที่เดียว
บอกว่าจะใช้พาสปอร์ต เขาก็ถามจะสั่งน้ำอะไรมั้ย เราก็บอกไม่เอา
คือร้านเขาก็คงอยากจะขายอะไรเพิ่มด้วยมั้ง แต่ถ้าไม่สั่ง ก็ไม่ใช่ปัญหา
เขายกน้ำเปล่ามาให้ขวดนึง
จานนี้จัดจานน่ากิน และอร่อยมากกกกก ขนมปังกรอบนอกนุ่มใน ไม่เลี่ยน มีซ้ำแน่นอนร้านนี้
ร้านต่อไป เปลี่ยนแนวไปกินราเม็งบ้างดีกว่า ร้านดังเลย IPPUDO
ปีนี้เป็นปีแรกที่ IPPUDO เข้าร่วมรายการ มี 2 สาขาที่เข้าร่วม
เราไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไม IPPUDO เข้าร่วม เพราะปกติสองสาขานี้ คนก็ต่อคิวยาวตลอดอยู่แล้ว
แต่เราไปตอนร้านเปิด ก็เลยยังไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่
ในชุดที่เขากำหนดไว้ จะมีราเม็ง เกี๊ยวซ่า ข้าว 1 ถ้วย แต่เราไม่เอาข้าว
เกี๊ยวซ่าอร่อยมาก ๆ แต่ราเม็งกินกี่ครั้ง สำหรับเรา IPPUDO ก็ยังไม่ใช่
เจ้าอื่นที่ไม่ค่อยดัง แต่คนพื้นที่กินกันเยอะ ถูกปากเรามากกว่า
ร้านล่าสุดที่ไปกินมา เป็นคาเฟ่เก๋ ๆ แบบโอเพ่นแอร์ เคยเดินผ่านช่วงเสาร์อาทิตย์ คนนั่งกันเต็ม
แต่วันธรรมดา คนไม่ค่อยมี
ดูในรูปนึกไม่ค่อยออกว่าจะรสชาติเป็นยังไง พอยกออกมา จานอลังการงานสร้างมาก
ถ่ายรูปไม่ค่อยสวย ของจริง น่ากินกว่าในรูปเยอะค่ะ
รอบ ๆ เป็นพายกรอบ ๆ ข้างในเป็นไอศรีมวนิลา อร่อยมาก
รอบ ๆ ด้านนอกเป็นแอปเปิ้ลเชื่อม ร้านนี้ต้องไปอีกเหมือนกัน
แต่ละร้านพอเรากินเสร็จ ตอนจ่ายเงินก็เอาพาสปอร์ตให้เขาแสตมป์ด้วย ว่ามากินแล้วนะจ๊ะ
หรือบางร้าน ตอนเรากินอยู่ เขามาแสตมป์ให้ก็มีค่ะ
ลองดูร้านอื่น ๆ ร้านที่น่าจะคุ้มที่สุดในแง่ของราคาคือร้านนี้
ราคาเต็ม 1200 เยน อ่านใน IG คนที่ไปกินมาแล้ว เขาบอกว่าอร่อยดี คงต้องไปลองบ้าง
ร้านอาหารไทยก็มีอยู่หลายร้าน ส่วนมากเป็นเมนูผัดกระเพรา แกงเขียวหวาน
สรุป จากที่ลองไปกินมา 5 ร้าน
ข้อดี คือ ทำให้เราได้ลองไปชิมอาหารหลาย ๆ ร้านได้ในราคา 500 เยน บางร้านปกติไม่เคยคิดจะเข้าไปกิน
พอลองได้ชิมแล้วติดใจ ถ้ามีโอกาสคงไปกินอีก
ข้อเสีย คือ เงื่อนไขเรื่องเวลา ร้านแทบจะส่วนใหญ่ ห้ามใช้ว้นเสาร์อาทิตย์ วันหยุดราชการ
คนทำงานประจำ คงจะหาโอกาสใช้ยากหน่อย
[CR] (Japan) LUNCH PASSPORT พาสปอร์ตสำหรับคนชอบกิน
พาสปอร์ตนี้มีขายทั่วญี่ปุ่น ตามร้านหนังสือทั่วไป จะแบ่งเป็นพื้นที่ต่าง ๆ ที่เราซื้อมาคือที่ Tenjin - Hakata
ถ้าใครอยู่ญี่ปุ่น หรือไปเที่ยวพื้นที่ไหนนาน ๆ อยากลองชิมอาหารหลาย ๆ อย่าง ก็ลองดูนะคะ
ดูใน IG ของคนที่อยู่แถบ Sendai, Hokkaido มีร้านน่ากิน ๆ หลายร้านเลย
จุดเด่นของพาสปอร์ตนี้คือ สามารถกินเมนูที่กำหนดไว้ในเล่มนี้ ได้ทุกร้านในราคาเมนูละ 500 เยน
กินได้ร้านละ 3 ครั้ง ระยะเวลาคือ ตั้งแต่ 1 กรกฏาคม - 30 กันยายน
1 เล่ม ใช้ได้ 1 คน พอเปิดไปหน้าแรก เขาจะมีให้ติดรูป เขียน ชื่อ วันเดือนปีเกิด
แต่ไม่เขียนก็ไม่เป็นไร ตอนไปกินที่ร้าน ก็ไม่เห็นเขาดูตรงนี้
หน้าต่อ ๆ ไป ก็จะมีแผนที่ว่าร้านอยู่ตรงไหนบ้าง
ต่อไปก็เป็นเรื่องที่แจ้งให้ทราบและมารยาทในการใช้พาสปอร์ต
คร่าว ๆ ก็เช่น ทานเสร็จแล้วไม่นั่งนานเกินไป เมนูอาจมีการเปลี่ยนแปลง ให้ดูได้ที่เฟซบุ๊คหรือบล็อค
ต่อไปเป็นวิธีใช้
เราก็ดูว่าเราอยากไปกินร้านไหน ขั้นแรกดูเวลาที่สามารถใช้พาสปอร์ตได้
แต่ละร้านจะมีเงื่อนไขไม่เหมือนกัน ต้องดูดี ๆ ค่ะ
เช่น ร้านนี้ เราเลือกร้านที่เงื่อนไขเยอะ ๆ มาให้ดูเป็นตัวอย่าง
ใช้พาสปอร์ตได้เวลา 11.30 - 14.30
วันอังคาร พุธ เสาร์ อาทิตย์ วันหยุดราชการ ใช้ไม่ได้ (ตกลงใช้วันไหนได้บ้าง บอกซิ)
ใช้ร่วมกับคูปองอื่น ๆ ไม่ได้
ไปเริ่มกินกันเลยดีกว่า ร้านแรก เราไปร้านอุด้ง สิ่งสำคัญอย่างนึงที่เราจะตัดสินใจเลือกว่าจะไปร้านไหนคือ รูป
ถ้ารูปน่ากิน ก็เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ เลย
เงื่อนไขร้านนี้คือ ใช้ได้ 11.00 - 16.00 ยกเว้นวันอาทิตย์ วันหยุดราชการ
ร้านอยู่ในห้างที่เราไปบ่อยมาก แต่ไม่เคยเดินผ่านร้านนี้เลย เพราะร้านอยู่ในมุมอับ
เข้าไป เราต้องบอกทางร้านก่อนว่าจะใช้พาสปอร์ต
ซึ่งใช้พาสปอร์ตก็สะดวกอีกอย่างคือ ไม่ต้องพูดอะไรมาก บางร้านแค่เห็นพาสปอร์ตก็ไม่ต้องพูดอะไร
เพราะเมนูถูกกำหนดไว้แล้ว
เมนูของร้านนี้คือ อุด้งเย็น ใส่โกะโบทอด กับหัวไช้เท้าฝน
เส้นอุด้ง เส้นเล็กมาก เท่าเส้นพาสต้าเลย อร่อยมาก ไม่หนึบ ๆ ไม่นุ่มเหมือนเส้นอุด้งทั่ว ๆ ไปของฟุคุโอกะ
ร้านต่อไปที่ไปกินคือ พาสต้าเย็น (ช่วงหน้าร้อน จะมีเมนูเย็น ๆ ออกมาเยอะมาก)
ร้านนี้ปกติเขาจะขายเนื้อเป็นหลัก แต่คาดว่าถ้าเมนูเนื้อล้วน ๆ แค่ 500 เยน แถมร้านอยู่ในห้างกลางเมือง คงจะไม่ได้กำไร
เมนูเลยกลายเป็นพาสต้าแทน
ขอบอกว่า น่ากินมาก ๆ น่ากินกว่ารูปในหนังสือเยอะเลย
รสชาติก็อร่อยแบบเย็น ๆ
ร้านต่อไป ไปกิน French toast ดูในรูปธรรมดา แต่อยากกินของหวาน ก็เลยเลือกร้านนี้
เข้าไปในร้านคนเยอะพอสมควร เหลือว่างแค่ที่เดียว
บอกว่าจะใช้พาสปอร์ต เขาก็ถามจะสั่งน้ำอะไรมั้ย เราก็บอกไม่เอา
คือร้านเขาก็คงอยากจะขายอะไรเพิ่มด้วยมั้ง แต่ถ้าไม่สั่ง ก็ไม่ใช่ปัญหา
เขายกน้ำเปล่ามาให้ขวดนึง
จานนี้จัดจานน่ากิน และอร่อยมากกกกก ขนมปังกรอบนอกนุ่มใน ไม่เลี่ยน มีซ้ำแน่นอนร้านนี้
ร้านต่อไป เปลี่ยนแนวไปกินราเม็งบ้างดีกว่า ร้านดังเลย IPPUDO
ปีนี้เป็นปีแรกที่ IPPUDO เข้าร่วมรายการ มี 2 สาขาที่เข้าร่วม
เราไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไม IPPUDO เข้าร่วม เพราะปกติสองสาขานี้ คนก็ต่อคิวยาวตลอดอยู่แล้ว
แต่เราไปตอนร้านเปิด ก็เลยยังไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่
ในชุดที่เขากำหนดไว้ จะมีราเม็ง เกี๊ยวซ่า ข้าว 1 ถ้วย แต่เราไม่เอาข้าว
เกี๊ยวซ่าอร่อยมาก ๆ แต่ราเม็งกินกี่ครั้ง สำหรับเรา IPPUDO ก็ยังไม่ใช่
เจ้าอื่นที่ไม่ค่อยดัง แต่คนพื้นที่กินกันเยอะ ถูกปากเรามากกว่า
ร้านล่าสุดที่ไปกินมา เป็นคาเฟ่เก๋ ๆ แบบโอเพ่นแอร์ เคยเดินผ่านช่วงเสาร์อาทิตย์ คนนั่งกันเต็ม
แต่วันธรรมดา คนไม่ค่อยมี
ดูในรูปนึกไม่ค่อยออกว่าจะรสชาติเป็นยังไง พอยกออกมา จานอลังการงานสร้างมาก
ถ่ายรูปไม่ค่อยสวย ของจริง น่ากินกว่าในรูปเยอะค่ะ
รอบ ๆ เป็นพายกรอบ ๆ ข้างในเป็นไอศรีมวนิลา อร่อยมาก
รอบ ๆ ด้านนอกเป็นแอปเปิ้ลเชื่อม ร้านนี้ต้องไปอีกเหมือนกัน
แต่ละร้านพอเรากินเสร็จ ตอนจ่ายเงินก็เอาพาสปอร์ตให้เขาแสตมป์ด้วย ว่ามากินแล้วนะจ๊ะ
หรือบางร้าน ตอนเรากินอยู่ เขามาแสตมป์ให้ก็มีค่ะ
ลองดูร้านอื่น ๆ ร้านที่น่าจะคุ้มที่สุดในแง่ของราคาคือร้านนี้
ราคาเต็ม 1200 เยน อ่านใน IG คนที่ไปกินมาแล้ว เขาบอกว่าอร่อยดี คงต้องไปลองบ้าง
ร้านอาหารไทยก็มีอยู่หลายร้าน ส่วนมากเป็นเมนูผัดกระเพรา แกงเขียวหวาน
สรุป จากที่ลองไปกินมา 5 ร้าน
ข้อดี คือ ทำให้เราได้ลองไปชิมอาหารหลาย ๆ ร้านได้ในราคา 500 เยน บางร้านปกติไม่เคยคิดจะเข้าไปกิน
พอลองได้ชิมแล้วติดใจ ถ้ามีโอกาสคงไปกินอีก
ข้อเสีย คือ เงื่อนไขเรื่องเวลา ร้านแทบจะส่วนใหญ่ ห้ามใช้ว้นเสาร์อาทิตย์ วันหยุดราชการ
คนทำงานประจำ คงจะหาโอกาสใช้ยากหน่อย