เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2557 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว "ชูวิทย์ I′m No.5" กรณี"รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์" ที่มีกระแสออกมาก่อนหน้านี้ว่าขาดทุนย่อยยับว่า
"รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์" เป็นโครงการระดับหมื่นล้าน ที่สูญเสียเงินงบประมาณ ตั้งแต่เปิดให้บริการปี 2553 จนถึงบัดนี้ ยังไม่มีแม้แต่วันเดียวที่มีรายได้คุ้มค่า
ตามมาด้วยค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานดอกเบี้ยค่าบำรุงรักษาการก่อสร้างเพิ่มเติมทางเดิน ทางเชื่อม ทางลอยฟ้า ที่ทำให้ต้องเติมเงินเข้าไปไม่จบไม่สิ้น แต่ก็ยังไม่มีคนมาใช้บริการอยู่ดี
โครงการแอร์พอร์ตลิงค์เส้นทางสายด่วนพิเศษ (Express Line) มักกะสัน–สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยวัตถุประสงค์ในการ "ขนถ่ายผู้โดยสารจากในเมืองไปสู่สนามบิน" แต่ปัจจุบันยังคงมีสภาพร้าง
- เวลาประมาณบ่ายโมงครึ่ง ทั้งขบวนมีผู้โดยสารอยู่ 5 คน
- ไม่มีผู้ใช้บริการขนย้ายกระเป๋า เคาน์เตอร์เช็คอินว่างเปล่า สายการบินอื่นไม่มี หนีหายหมด เหลือเพียงสายการบินไทยทนทู่ซี้อยู่เจ้าเดียว (มิน่า ทำไมการบินไทยถึงขาดทุน)
- ทั้งสถานีมีนักท่องเที่ยวเดินลากกระเป๋าอยู่ 2 คน
- พื้นที่ร้านค้าภายในไม่เคยเปิดให้บริการตั้งแต่ต้น
นี่หากเป็นธุรกิจเอกชน ป่านนี้เจ้าของคงต้องเอาปืนจ่อขมับ หรือไม่ก็กระโดดตึกตาย
วันนี้ผมขอแนะนำให้ปิดบริการสถานีมักกะสันโซน Express Line เสียก่อน เพราะไม่คุ้มค่าใช้จ่าย และให้ห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่มาประมูลพื้นที่ เพื่อนำไปทำเป็นศูนย์การค้าปลอดภาษีให้กับคนไทยและคนต่างชาติ เมื่อมีคนมามากจึงค่อยกลับมาเปิด ทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง ตอนนี้คิดจะทำอะไรก็ไม่มีคน จึงดูวังเวงน่ากลัว
โครงการแอร์พอร์ตลิงค์ เป็นการทำงานที่เรียกว่า "ขี่ช้างจับตั๊กแตน" ลงทุนมากมายมหาศาล แต่ไม่ได้ประโยชน์เลยแม้แต่นิดเดียว เพราะนอกจากจะจับตั๊กแตนไม่ได้แล้ว ยังตกจากช้าง ถูกเสือคาบไปกินอีก

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ส่วนตัวคิดว่าเลิกสาย Express line แล้วเอาขวนไปเพิ่ม City Line ทุกวันนี้รอรถนานแล้วร้อนมากกว่าะจมาแต่ละขนวน สถานะมะกะสัน / รามคำแหง / อื่นๆ นี่ยืนรอเป็นเตาอบสุดๆ แล้วอีกเรื่องนึงที่น่าเป็นห่วง ห้างสรรพสินค้า A-link Square จำได้ว่าเลยกำหนดเปิดนานแล้ว ปัจจุบันลองแวะไปมีร้านค้ามาเปิดหยอมแย๋มมาก ไม่ค่อยมีคนเดินเลย และกำลังสร้างห่งเฟสสองข้างๆ ไม่รู้ว่าจะยังไงต่อ... คิดเห็นยังไงกันบ้างครับ
ที่มา: มติชน:
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1406026279
ชูวิทย์ จวกแอร์พอร์ตลิงค์ เหมือนขี่ช้างจับตั๊กแตน แนะให้ปิดบริการสาย Express Line
"รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์" เป็นโครงการระดับหมื่นล้าน ที่สูญเสียเงินงบประมาณ ตั้งแต่เปิดให้บริการปี 2553 จนถึงบัดนี้ ยังไม่มีแม้แต่วันเดียวที่มีรายได้คุ้มค่า
ตามมาด้วยค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานดอกเบี้ยค่าบำรุงรักษาการก่อสร้างเพิ่มเติมทางเดิน ทางเชื่อม ทางลอยฟ้า ที่ทำให้ต้องเติมเงินเข้าไปไม่จบไม่สิ้น แต่ก็ยังไม่มีคนมาใช้บริการอยู่ดี
โครงการแอร์พอร์ตลิงค์เส้นทางสายด่วนพิเศษ (Express Line) มักกะสัน–สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยวัตถุประสงค์ในการ "ขนถ่ายผู้โดยสารจากในเมืองไปสู่สนามบิน" แต่ปัจจุบันยังคงมีสภาพร้าง
- เวลาประมาณบ่ายโมงครึ่ง ทั้งขบวนมีผู้โดยสารอยู่ 5 คน
- ไม่มีผู้ใช้บริการขนย้ายกระเป๋า เคาน์เตอร์เช็คอินว่างเปล่า สายการบินอื่นไม่มี หนีหายหมด เหลือเพียงสายการบินไทยทนทู่ซี้อยู่เจ้าเดียว (มิน่า ทำไมการบินไทยถึงขาดทุน)
- ทั้งสถานีมีนักท่องเที่ยวเดินลากกระเป๋าอยู่ 2 คน
- พื้นที่ร้านค้าภายในไม่เคยเปิดให้บริการตั้งแต่ต้น
นี่หากเป็นธุรกิจเอกชน ป่านนี้เจ้าของคงต้องเอาปืนจ่อขมับ หรือไม่ก็กระโดดตึกตาย
วันนี้ผมขอแนะนำให้ปิดบริการสถานีมักกะสันโซน Express Line เสียก่อน เพราะไม่คุ้มค่าใช้จ่าย และให้ห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่มาประมูลพื้นที่ เพื่อนำไปทำเป็นศูนย์การค้าปลอดภาษีให้กับคนไทยและคนต่างชาติ เมื่อมีคนมามากจึงค่อยกลับมาเปิด ทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง ตอนนี้คิดจะทำอะไรก็ไม่มีคน จึงดูวังเวงน่ากลัว
โครงการแอร์พอร์ตลิงค์ เป็นการทำงานที่เรียกว่า "ขี่ช้างจับตั๊กแตน" ลงทุนมากมายมหาศาล แต่ไม่ได้ประโยชน์เลยแม้แต่นิดเดียว เพราะนอกจากจะจับตั๊กแตนไม่ได้แล้ว ยังตกจากช้าง ถูกเสือคาบไปกินอีก
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ส่วนตัวคิดว่าเลิกสาย Express line แล้วเอาขวนไปเพิ่ม City Line ทุกวันนี้รอรถนานแล้วร้อนมากกว่าะจมาแต่ละขนวน สถานะมะกะสัน / รามคำแหง / อื่นๆ นี่ยืนรอเป็นเตาอบสุดๆ แล้วอีกเรื่องนึงที่น่าเป็นห่วง ห้างสรรพสินค้า A-link Square จำได้ว่าเลยกำหนดเปิดนานแล้ว ปัจจุบันลองแวะไปมีร้านค้ามาเปิดหยอมแย๋มมาก ไม่ค่อยมีคนเดินเลย และกำลังสร้างห่งเฟสสองข้างๆ ไม่รู้ว่าจะยังไงต่อ... คิดเห็นยังไงกันบ้างครับ
ที่มา: มติชน: http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1406026279