3-4 วันก่อน ฟ้าฝนเป็นใจ หยุดตกเปิดโอกาสให้ได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ ท่องเที่ยวชมธรรมชาติ
ท้องทุ่งนายามฟ้าฉ่ำฝน สองข้างทางเห็นต้นบะลิดไม้ (เพกา ลิ้นฟ้า) ต้องรีบเหลียวมอง
ทันที ไม่ว่าจะเป็นต้นใด ก็จะเป็นดังภาพนี้ทุกต้นทีเดียว
นึกในใจเป็นอย่างนี้เมื่อไหร่จะได้กินสักทีวุ๊ย แต่... คนเราบทจะมีโชคปากมันก็มาเอาง่าย ๆ
เมื่อวานตอนเย็นไปเดินเล่นกาดคนเดิน เจอเข้าอย่างจังทั้งตลาด มีอยู่ฝักเดียว ถามราคา
แม่ค้าบอก 15 บาท
ปกติแม่ค้าจะเอาใจลูกค้าโดยมีบริการเผาขูดเปลือกมาเรียบร้อย อาจมี + ราคานิดหน่อย
แต่วันนี้ไม่ ต้องเอาเผาเอง ขูดเปลือก ล้างน้ำเอง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากถ้าเทียบกับความ
อยากกิน
บะลิดไม้อย่างเดียวออกจะขมหน่อย ๆ วันนี้ตั้งใจเอามาคั่ว ป้าต่วมเคยบอกเคล็ดไว้
นานแล้ว และก็ทำตามมาตลอด นั่นก็คือให้เอาหน่อไม้ต้มผสมเข้าไปด้วย มันจะไปดึง
กันเอง ระหว่างขมกับหวาน ให้มีรสชาติกำลังเหมาะ
ซอยบาง ๆ เตรียมไว้ ครึ่งต่อครึ่ง
สามชั้น กับน้ำพริกเมือง (กระเทียม หอมแดง พริกหนุ่ม กะปิ) อาจคั่วใส่หมูบด หรือแหนมหมูก็ได้
จัดการเอาน้ำพริกลงผัด ตามด้วยหมู และบะลิดไม้ตามลำดับ งานนี้ไม่ใช้เอาลงผัดแป๊บเดียวเอาขึ้น
เหมือนผัดผักทั่วไป ต้องเติมน้ำ ลดไฟ คั่วให้เข้าน้ำเข้าเนื้อ ใช้เวลาพอสมควร
ดูโฉมนะครับ หลังจาก ชิม ปรุงรสเรียบร้อย จะออกขมนิด ๆ เผ็ดเค็มหน่อย ๆ กลมกล่อมกำลังเหมาะ
เป็นวิธีการนำเอาฝักเพกา มาปรุงเป็นอาหารแบบพื้นบ้านทางเหนือที่ขอแนะนำอีกเมนูหนึ่งละครับ
ถ้ามีโอกาสก็ขอเชิญชวน รับรองติดใจโดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวก สว.ชายที่ชอบของขมละครับ
สวัสดีครับ
"บะลิดไม้" ฝักแรกแห่งปี เย็นนี้คั่วใส่หมูสามชั้น จัดไปให้หายอยากไปเลย
ท้องทุ่งนายามฟ้าฉ่ำฝน สองข้างทางเห็นต้นบะลิดไม้ (เพกา ลิ้นฟ้า) ต้องรีบเหลียวมอง
ทันที ไม่ว่าจะเป็นต้นใด ก็จะเป็นดังภาพนี้ทุกต้นทีเดียว
นึกในใจเป็นอย่างนี้เมื่อไหร่จะได้กินสักทีวุ๊ย แต่... คนเราบทจะมีโชคปากมันก็มาเอาง่าย ๆ
เมื่อวานตอนเย็นไปเดินเล่นกาดคนเดิน เจอเข้าอย่างจังทั้งตลาด มีอยู่ฝักเดียว ถามราคา
แม่ค้าบอก 15 บาท
ปกติแม่ค้าจะเอาใจลูกค้าโดยมีบริการเผาขูดเปลือกมาเรียบร้อย อาจมี + ราคานิดหน่อย
แต่วันนี้ไม่ ต้องเอาเผาเอง ขูดเปลือก ล้างน้ำเอง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากถ้าเทียบกับความ
อยากกิน
บะลิดไม้อย่างเดียวออกจะขมหน่อย ๆ วันนี้ตั้งใจเอามาคั่ว ป้าต่วมเคยบอกเคล็ดไว้
นานแล้ว และก็ทำตามมาตลอด นั่นก็คือให้เอาหน่อไม้ต้มผสมเข้าไปด้วย มันจะไปดึง
กันเอง ระหว่างขมกับหวาน ให้มีรสชาติกำลังเหมาะ
ซอยบาง ๆ เตรียมไว้ ครึ่งต่อครึ่ง
สามชั้น กับน้ำพริกเมือง (กระเทียม หอมแดง พริกหนุ่ม กะปิ) อาจคั่วใส่หมูบด หรือแหนมหมูก็ได้
จัดการเอาน้ำพริกลงผัด ตามด้วยหมู และบะลิดไม้ตามลำดับ งานนี้ไม่ใช้เอาลงผัดแป๊บเดียวเอาขึ้น
เหมือนผัดผักทั่วไป ต้องเติมน้ำ ลดไฟ คั่วให้เข้าน้ำเข้าเนื้อ ใช้เวลาพอสมควร
ดูโฉมนะครับ หลังจาก ชิม ปรุงรสเรียบร้อย จะออกขมนิด ๆ เผ็ดเค็มหน่อย ๆ กลมกล่อมกำลังเหมาะ
เป็นวิธีการนำเอาฝักเพกา มาปรุงเป็นอาหารแบบพื้นบ้านทางเหนือที่ขอแนะนำอีกเมนูหนึ่งละครับ
ถ้ามีโอกาสก็ขอเชิญชวน รับรองติดใจโดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวก สว.ชายที่ชอบของขมละครับ
สวัสดีครับ