ต้องบอกก่อนว่า ก่อนหน้านี้ค่อนข้างบ้ามือถือ เปลี่ยนมือถือบ่อยเป็นว่าเล่น
และถ้าว่างเมื่อไรเป็นต้องหยิบมันขึ้นมาดู ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะดูอะไรนักหนา 555
ช่วงหลังๆ เห็นกระแสสังคมก้มหน้าระบาดหนักไปทั่วโลก
และก็มีเหตุการณ์บ่อยครั้งที่ได้ไปประสบเจอมาด้วยตัวเอง
เช่นพวกที่เดินขึ้นลงบันได แชทๆ ระหว่างเดิน
พวกที่กำลังข้ามถนนก็ดูเหมือนจะสนใจมือถือมากกว่ารถที่วิ่งไปมา
กับตัวเองก็เคยเป็นครับ กำลังขับรถแล้วหยิบมาดูไลน์เพื่อนที่ส่งมา
คือถ้าเป็นถนนรถติดในกรุงเทพฯ ช่วงติดไฟแดงก็คงไม่มีปัญหาอะไร
แต่นี่มันถนนทางไกลต่างจังหวัด นับว่าอันตรายมากๆ
ไม่รู้ว่าทำไปได้ยังไงนะตอนนั้น
ตอนนี้ขายสมาร์ทโฟนทิ้งไปหมดแล้ว เปลี่ยนมาใช้เครื่องโนเกีย 590 บาท
ทำให้หยิบมือถือออกจากกระเป๋าน้อยลง
ถ้าไม่ได้ยินเสียงใครโทรเข้ามา มันก็แทบจะไม่ได้ออกมาเห็นแสงตะวันเลย
รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ไม่ต้องมีรายจ่ายค่า 3G ด้วย
ใช้แค่โปรฯ โทร 400 นาที 299 บาท
แต่ข้อเสียของการขาดสมาร์ทโฟนไป ก็มีหลายอย่าง
1. ความคล่องตัวในการโอนเงินออนไลน์ ต้องขาดหายไป
2. รูปถ่ายและวีดีโอที่เคยเป็นคนชอบถ่ายสิ่งต่างๆ รอบตัว ก็จะไม่มีอีกแล้ว
3. ไม่มีตัวกระจาย Hot Spot ให้กับโน๊ตบุ๊ค
4. การเดินทางไปสถานที่ไม่คุ้นเคยค่อนข้างลำบาก เพราะไม่มี Google Map
5. ไม่มีอุปกรณ์ฟังเพลง
6. ไม่มีอุปกรณ์ช่วยอำนวยความสะดวกขณะออกกำลังกาย
7. ไม่มีตัวช่วยการจดบันทึก
8. เพื่อนๆ ไม่สามารถส่งรูปเวลาไปเที่ยวมาอวดผ่าน Line ได้
คืออนาคตถ้าจะต้องกลับมาใช้สมาร์ทโฟนอีกครั้ง
ก็คงสาเหตุเพราะการขาด 7-8 ข้อที่กล่าวมาข้างบนมันมีผลกระทบกับชีวิต
ซึ่งตอนนี้ผ่านไปแล้วเกือบ 2 เดือน ยอมรับว่ามีผลกระทบค่อนข้างมาก
โดยเฉพาะข้อ 1, 2, 3 และ 4
สำหรับคนที่ใช้มันเป็น สมาร์ทโฟนคือนวัตกรรมที่มีประโยชน์สูงสุดอันดับ 1 ของยุคนี้
ซึ่งผมมองว่ามันก็เหมือนบัตรเครดิตน่านแหล่ะ มันจะมีประโยชน์สูงสุดสำหรับคนที่ใช้มันเป็น
แต่สำหรับผมแล้ว ณ ตอนนี้ถ้ามี 2 สิ่งนี้อยู่ในมือ มันคือหายนะดีๆ นี่เอง
ถ้าคิดว่าเมื่อไรที่ตัวเองสามารถควบคุมมันได้อย่างสมบูรณ์
ก็คงจะได้กลับไปเจอทั้ง 2 อีกครั้งในเร็ววัน
ถ้าผมจะมีอคติกับคนที่ชอบหยิบมือถือขึ้นมาดูตลอดเวลา จะมีคนมองว่าผมเป็นคนขวางโลกมั๊ยครับ
และถ้าว่างเมื่อไรเป็นต้องหยิบมันขึ้นมาดู ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะดูอะไรนักหนา 555
ช่วงหลังๆ เห็นกระแสสังคมก้มหน้าระบาดหนักไปทั่วโลก
และก็มีเหตุการณ์บ่อยครั้งที่ได้ไปประสบเจอมาด้วยตัวเอง
เช่นพวกที่เดินขึ้นลงบันได แชทๆ ระหว่างเดิน
พวกที่กำลังข้ามถนนก็ดูเหมือนจะสนใจมือถือมากกว่ารถที่วิ่งไปมา
กับตัวเองก็เคยเป็นครับ กำลังขับรถแล้วหยิบมาดูไลน์เพื่อนที่ส่งมา
คือถ้าเป็นถนนรถติดในกรุงเทพฯ ช่วงติดไฟแดงก็คงไม่มีปัญหาอะไร
แต่นี่มันถนนทางไกลต่างจังหวัด นับว่าอันตรายมากๆ
ไม่รู้ว่าทำไปได้ยังไงนะตอนนั้น
ตอนนี้ขายสมาร์ทโฟนทิ้งไปหมดแล้ว เปลี่ยนมาใช้เครื่องโนเกีย 590 บาท
ทำให้หยิบมือถือออกจากกระเป๋าน้อยลง
ถ้าไม่ได้ยินเสียงใครโทรเข้ามา มันก็แทบจะไม่ได้ออกมาเห็นแสงตะวันเลย
รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ไม่ต้องมีรายจ่ายค่า 3G ด้วย
ใช้แค่โปรฯ โทร 400 นาที 299 บาท
แต่ข้อเสียของการขาดสมาร์ทโฟนไป ก็มีหลายอย่าง
1. ความคล่องตัวในการโอนเงินออนไลน์ ต้องขาดหายไป
2. รูปถ่ายและวีดีโอที่เคยเป็นคนชอบถ่ายสิ่งต่างๆ รอบตัว ก็จะไม่มีอีกแล้ว
3. ไม่มีตัวกระจาย Hot Spot ให้กับโน๊ตบุ๊ค
4. การเดินทางไปสถานที่ไม่คุ้นเคยค่อนข้างลำบาก เพราะไม่มี Google Map
5. ไม่มีอุปกรณ์ฟังเพลง
6. ไม่มีอุปกรณ์ช่วยอำนวยความสะดวกขณะออกกำลังกาย
7. ไม่มีตัวช่วยการจดบันทึก
8. เพื่อนๆ ไม่สามารถส่งรูปเวลาไปเที่ยวมาอวดผ่าน Line ได้
คืออนาคตถ้าจะต้องกลับมาใช้สมาร์ทโฟนอีกครั้ง
ก็คงสาเหตุเพราะการขาด 7-8 ข้อที่กล่าวมาข้างบนมันมีผลกระทบกับชีวิต
ซึ่งตอนนี้ผ่านไปแล้วเกือบ 2 เดือน ยอมรับว่ามีผลกระทบค่อนข้างมาก
โดยเฉพาะข้อ 1, 2, 3 และ 4
สำหรับคนที่ใช้มันเป็น สมาร์ทโฟนคือนวัตกรรมที่มีประโยชน์สูงสุดอันดับ 1 ของยุคนี้
ซึ่งผมมองว่ามันก็เหมือนบัตรเครดิตน่านแหล่ะ มันจะมีประโยชน์สูงสุดสำหรับคนที่ใช้มันเป็น
แต่สำหรับผมแล้ว ณ ตอนนี้ถ้ามี 2 สิ่งนี้อยู่ในมือ มันคือหายนะดีๆ นี่เอง
ถ้าคิดว่าเมื่อไรที่ตัวเองสามารถควบคุมมันได้อย่างสมบูรณ์
ก็คงจะได้กลับไปเจอทั้ง 2 อีกครั้งในเร็ววัน