ข้อหา "ใช้ทางร่วมกับรถยนต์" จ่ายได้ แต่ทัศนะคติเปลี่ยน

ก่อนอื่นผมคิดๆ ไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นข้อหา ใช้สะพาน ใช้อุโมง ใช้ทางอื่นๆ
ที่จำกัดเฉพาะให้รถยนต์วิ่ง ผมคิดว่าเราควรเรียกข้อหาประเภทนี้ว่า "ข้อหาใช้ทางร่วมกับรถยนต์"
โดยไม่ต้องหวังว่าใครจะมาปรับปรุงกฎหมายให้ และตอกย้ำว่ามอไซค์เป็นชนชั้น 2
แต่หวังว่าเมื่อคนขับรถยนต์ในยุคต่อไปเมื่อได้ยินคำนี้จะหันมามองถึงความยุติธรรมบ้าง

เมื่อวานนี้เพิ่งโดนมาครับ เพราะวิ่งช่องทางด่วนวิภาวดี ที่โดนก็คงเพราะผมวิ่งประจำ
แต่วิ่งเท่าที่คิดว่าจำเป็นเท่านั้น ผมเห็นจ่ามาสังเกตุการณ์หลายวันแล้ว คงตั้งใจจะจับผมจริงๆนั่นแหละ
แต่จ่าแกก็บ่นว่า

"มีคนโทรร้องเรียนไปส่วนกลางเลย ว่ามอไซค์ชอบวิ่งเฉี่ยวเค้า ผมก็ไม่รู้จะว่าไง
มอไซค์เค้าก็บอกเสียภาษีทำไมวิ่งไม่ได้ รถยนต์ก็ชอบโทรแจ้ง นิดๆหน่อยก็โทรแจ้ง เห็นก็ยกหู เห็นก็ยกหู"


ทุกครั้งที่ผมโดน ผมก็ยอมรับผิด ไม่หนี แต่ผมจ่ายสดด้วยความที่ว่าผมคงไม่มีเวลาพอที่จะไปเอาใบขับขี่
แต่คราวนี้มันต่างกันตรงที่ ผมรู้สึกสบายใจที่ผมจ่ายให้จ่า ไม่ได้จ่ายให้กฎหมายที่รังแกผม

ถ้าว่าด้วยเรื่องเกี่ยว ขูด อะไรกับรถยนต์แล้ว ผมเองไม่เคยทำ ตอนรถติดผมมักจะระวังเสมอ
ด้วยผมคิดว่า ตอนผมขับรถยนต์ผมก็คงไม่อยากโดนมอไซค์มาขูด แต่ในขณะเดียวกัน
ผมก็ไม่อยากให้มอไซค์ผมไม่ขูดกับอะไร เพราะยังไงมันก็เกิดรอยทั้งคู่ แต่ปัญหามันก็ไม่ได้เกี่ยวกับเส้นทางที่วิ่ง

แต่ก็ต้องติชาวมอไซค์โดยเฉพาะ BB เหมือนกันที่ผมเห็นว่าซัดกันเต็มๆ แม้รถจะหนาแน่น ปาดไปปาดมา กล้าได้กล้าเสียมาก
ต้องยอมรับว่ารถยนต์เค้ากลัว โดยเฉพาะคนขับที่เป็นผู้หญิง บางคนผมไม่แซง ก็ขี่ตามไป แต่ให้เห็นในกระจก ก็ขับส่ายไปมาซะแล้ว

ฉนั้นไม่ว่าจ่าจะไถ หรือใครจะร้องเรียน ผมก็จ่ายได้ครับ ถือเสียว่าจ่ายค่าทางด่วน
ถ้าผมเอารถยนต์ไปทำงาน ผมก็ต้องจ่ายค่าทางด่วนอยู่แล้ว
แต่หากเป็นเคสร้องเรียน ขอให้ทราบไว้ว่าผมจะไม่จ่ายให้หลวงอย่างที่คุณๆคิดไว้เด็ดขาด
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่