ท่านที่เคารพรักครับ หากใช้ความจัดเจนของศาสตร์ชั้นสูงอย่างหนึ่ง ที่เรียกกันในวงการว่า " กระแสสำนึก "
จะทำให้ท่านผู้อ่านเข้าถึง จิตใจของตัวละคร ที่กำลังดำเนินเรื่อง หรือตัวละครที่ใช้ชีวิตด้วยพฤติกรรม ที่กำลังเป็นอยู่
ตัวละครแสดงออกในอดีต ปัจจุบัน ที่ทำออกมาจากความรู้สึก ปมเด่น ปมด้อย หรือความทะเยอทะยานอยาก ของตัวละครนั้นๆ
ราวกับว่า เราคือตัวละครคนนั้น และเราคือภาพซ้อน ที่เหลื่อมล้ำกันกับตัวละครนั้นๆ
ทำให้เราเข้าถึงอารมณ์ เศร้า เหงา โกรธแค้น หึงหวง กักขฬะ อิจฉา ริษยา เจ้าเล่ห์ เพทุบาย เรียกง่ายๆว่า เหมือนเข้าไปอยู่ในจิตใจ คนๆนั้น
จนเป็นคนๆนั้น และทำอะไรออกมา เหมือนคนๆนั้น
ซึ่งในบริบทของสังคมเรา ที่ผ่านมา ก็มักจะมีคนออกมาพูดกันว่า รู้ทันคนนั้น รู้ทันคนนี้
แต่กลับไม่ปรากฏว่า คนที่อ้างว่ารู้ทันคนนั้น รู้ทันคนนี้ สามารถทำอะไร ได้อย่างคนๆนั้น หรือมีผลงานดีเท่าคนๆนั้น
แสดงว่า จริงๆแล้ว ไม่ได้รู้ทันอย่างเท่าเทียมภูมิปัญญา เพียงแต่เอาชื่อคนนั้นมาโหนกระแส สร้างชื่อเสียงให้ตนเอง
ย้อนกลับมา ในคำกล่าวที่ว่า ทำอย่างไร ประชาชนจะลืมท่านทักษิณเสียที
งั้นเรามาเริ่มกันดูว่า ใครกันที่ควรจะเป็นอย่างนี้ครับ
1 . ใครกันที่ อยากให้ประชาชน ลืม ท่านทักษิณ
2. และทำอย่างไร ประชาชน ถึงจะลืมท่านทักษิณ
ข้อที่ 1. คู่แข่งโดยตรงอย่าง ปชป ก็ยังเป็นเพียงวุ้น คำว่าปฏิรูปพรรค ยังเป็นไม้ตาย
ที่อลงกรณ์ฉลาดมาก จนใครที่ขยับคิดจะปรับปรุงพรรค แม้แต่ย้ายภารโรง แม่บ้าน คนขับรถ ก็ต้องเห็นใบหน้าอลงกรณ์ลอยมา
อลงกรณืทิ้งคำๆนี้ไว้ให้เป็นของแสลงหัวหน้าพรรค
แม้พรรค ปชป จะอยากให้ประชาชนลืมท่านทักษิณเพียงใด ก็ยังไม่มีน้ำยาที่จะทำได้
ตราบใดที่พรรคนี้ยังไม่มีการปฏิรูปพรรค ตราบนั้นก็อย่าพึ่งเสนอหน้าลงเลือกตั้ง
เพราะประชาชนจับตามองอยู่ตลอด อย่างรังเกลียด ปนรำคาญ
พรรคการเมืองอะไร ไม่มีนโยบายเสนอประชาชนไม่พอ ยังไม่ลงเลือกตั้งอีก และที่สำคัญ เกี่ยงงอน ไม่ปรับปรุงตัวเอง
ะการจะเล่นกับความรู้สึกประชาชน มีทางเดียวคือ แสร้งปฏิรูปพรรค และหาหัวหน้าพรรคคนใหม่นั่นแหละ
ถึงจะสามารถ แข่งขันในการเลือกตั้งได้
ซึ่งคนอย่าง นายกรณ์ นายอภิรักษ์ รอเวลาอย่างใจจด ใจจ่อ แต่ก็เป็นผลเสียต่อ อภิสิทธิ์ และเครือข่ายโยงใยของสุเทพที่วางเอาไว้
ในลักษณะ พรรคของคนภาคใต้ ที่สั่งซ้ายหัน ขวาหันได้
และหากมาร์คมีเหตุผลว่า ที่ยังอยู่ในตำแหน่ง ก็เพื่อเป็นเกราะป้องกันต่อสู้คดี หากคิดอย่างนี้ พรรคนี้อีกยี่สิบปี ก็คงไม่มีหัวหน้าพรรคเป็นแน่
และยิ่งในความเป็นจริงทุกวันนี้ พรรคการเมืองต่างๆ ก็ปรับปรุงพัฒนาพรรคกันเป็นการใหญ่ ต่างมีเป้าหมายที่ชัดเจน
เช่นพรรคบรรหาร พรรคของสนธยา คุณปลื้ม ที่ล้วนเป็นมิตรแท้กับพรรคเพื่อไทย
พรรคปชป เลยแทบจะกลายเป็นข้าวนอกนา ในระบบการเลือกตั้งของประเทศไปแล้ว เข้ากับชูวิทย์ก็ไม่ได้
พูดง่ายๆ พรรคนี้เอาตัวเองให้รอดก่อนเหอะ อย่าพึ่งไปห่วงท่านทักษิณเลย ไปๆมาๆ ประชาชนจะลืมพรรคนี้ ก่อนลืมทักษิณ
คราวนี้มาข้อ 2. ครับ
ทำอย่างไร ประชาชนถึงจะลืมท่านทักษิณ ข้อนี้เป็นข้อใหญ่ ที่สำคัญมาก เพราะตราบใดที่อีกฝ่ายยังก้าวไม่พ้นเงาท่านทักษิณ
ก็อย่าพึ่งไปคิดว่า ทำอย่างไร ประชาชนจะลืมท่านทักษิณ
เพราะลำพัง ฝ่ายตรงข้ามเอง ก็ยังไม่เคยลืม เอะอะอะไร ก็ทักษิณ เอะอะ อะไร ก็ทักษิณ แล้วเมื่อมีอำนาจ
แต่ไม่คิดนโยบายอะไร ดีๆ ไปแข่งขัน
แต่ดันไปใช้ความสามารถปลัดกระทรวง ที่เป็นข้าราชการประจำคิด
แน่นอนว่าเพราะไม่มีนักการเมืองเก่งๆให้ใช้ มีคำพูดหนึ่งที่ว่าพรรคที่ใหญ่ที่สุด ที่แอบแฝงระบบการเมืองไทยมานานที่สุด
ที่เล่าลือกันว่า คือพรรคราชการนั้นเอง ใครไม่รู้ทัน เป็นเสร็จ และเสร็จจริงๆ คือแพ้ทาง ข้อมูลที่รั่วไหล
การจะมุ่งหวัง ให้คนระดับนั้น มาออกความคิดแบบปัจจุบันทันด่วน เพื่อให้มีนโยบายที่ทำให้ประชาชนลืมท่านทักษิณนั้น
เหมือนกับการเพ้อฝัน และหลงทาง หรือให้ทำงานไปก่อนด่วน แบบให้ความหวังลมๆแล้งๆว่า อาจจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีตอบแทน
เท่ากับว่า ทำงานด้วยอคติ ไม่ใช่มุ่งพัฒนา แต่มุ่งทำลายกันทุกกระทรวง ถือว่าผิดหลักของการทำงาน พัฒนาประเทศ
จะเสียทั้งเวลา และงบประมาณไปแบบไร้ประโยชน์
อย่าลืมว่า ช่วงเวลานี้ คนระดับปลัดต่างๆ ต่างคน ต่างมีความหวัง ว่าจะได้เป็นรัฐมนตรีส้มหล่น
การเร่งรีบคิดอะไรแปลกๆ แผลงๆออกมาจากอารมณ์จริตส่วนลึก เพื่อให้เข้าตานั้น จึงผิดปรกติวิสัยการทำงาน ที่ผ่านๆมา
เมื่อจู่ๆต่อมทำงาน " ขยันผิดปรกติ " ( ฮา )
ความผิดพลาดด้านนโยบาย จึงมีสูงยิ่ง เพราะผ่านการไตร่ตรองมาน้อยและเร่งรีบทำงานแบบ เอาใจผู้มีอำนาจ
ไปๆมา ไปกระทบนโยบายดีๆ ที่ท่านทักษิณทำไว้ให้ประชาชน ไปๆมาๆ ยิ่งทำให้ประชาชนคิดถึงท่านทักษิณมากขึ้นอีก กลายเป็น
อยากให้ลืม กลับยิ่งจดจำ
นี่คือความแตกต่างระหว่าง การทำงานเพื่อประชาชนจริงๆ
กับการทำงานเพื่อผู้มีอำนาจ
สุดท้ายก่อนจะจบบทความนี้ ผมจะขอแนะนำ หรือบอกใบ้ว่า ทำอย่างไร ประชาชน ถึงจะลืมท่านทักษิณครับ
ก็คือ ทำอย่าง คุณยิ่งลักษณ์ ที่ผ่านมาสิครับ มีความรัก มีความเมตตาประชาชน จริงใจกับประชาชนเสมอต้น เสมอปลาย
พูดเหมือนง่ายๆ แต่ต้องทำออกมาจากใจจริงๆ เพื่อประชาชนจริงๆ
ประชาชนต้องการ ประชาธิปไตย ก็เคียงข้างประชาชนอย่างจริงใจ ความจริงที่ผ่านมา คนก็ลืมทักษิณไปแล้วนะครับ
ผมพูดจริงๆ เพราะประชาชน หันมารักคุณยิ่งลักษณ์แทนครับ
ทำอย่างไร ประชาชนจะลืมทักษิณเสียที
จะทำให้ท่านผู้อ่านเข้าถึง จิตใจของตัวละคร ที่กำลังดำเนินเรื่อง หรือตัวละครที่ใช้ชีวิตด้วยพฤติกรรม ที่กำลังเป็นอยู่
ตัวละครแสดงออกในอดีต ปัจจุบัน ที่ทำออกมาจากความรู้สึก ปมเด่น ปมด้อย หรือความทะเยอทะยานอยาก ของตัวละครนั้นๆ
ราวกับว่า เราคือตัวละครคนนั้น และเราคือภาพซ้อน ที่เหลื่อมล้ำกันกับตัวละครนั้นๆ
ทำให้เราเข้าถึงอารมณ์ เศร้า เหงา โกรธแค้น หึงหวง กักขฬะ อิจฉา ริษยา เจ้าเล่ห์ เพทุบาย เรียกง่ายๆว่า เหมือนเข้าไปอยู่ในจิตใจ คนๆนั้น
จนเป็นคนๆนั้น และทำอะไรออกมา เหมือนคนๆนั้น
ซึ่งในบริบทของสังคมเรา ที่ผ่านมา ก็มักจะมีคนออกมาพูดกันว่า รู้ทันคนนั้น รู้ทันคนนี้
แต่กลับไม่ปรากฏว่า คนที่อ้างว่ารู้ทันคนนั้น รู้ทันคนนี้ สามารถทำอะไร ได้อย่างคนๆนั้น หรือมีผลงานดีเท่าคนๆนั้น
แสดงว่า จริงๆแล้ว ไม่ได้รู้ทันอย่างเท่าเทียมภูมิปัญญา เพียงแต่เอาชื่อคนนั้นมาโหนกระแส สร้างชื่อเสียงให้ตนเอง
ย้อนกลับมา ในคำกล่าวที่ว่า ทำอย่างไร ประชาชนจะลืมท่านทักษิณเสียที
งั้นเรามาเริ่มกันดูว่า ใครกันที่ควรจะเป็นอย่างนี้ครับ
1 . ใครกันที่ อยากให้ประชาชน ลืม ท่านทักษิณ
2. และทำอย่างไร ประชาชน ถึงจะลืมท่านทักษิณ
ข้อที่ 1. คู่แข่งโดยตรงอย่าง ปชป ก็ยังเป็นเพียงวุ้น คำว่าปฏิรูปพรรค ยังเป็นไม้ตาย
ที่อลงกรณ์ฉลาดมาก จนใครที่ขยับคิดจะปรับปรุงพรรค แม้แต่ย้ายภารโรง แม่บ้าน คนขับรถ ก็ต้องเห็นใบหน้าอลงกรณ์ลอยมา
อลงกรณืทิ้งคำๆนี้ไว้ให้เป็นของแสลงหัวหน้าพรรค
แม้พรรค ปชป จะอยากให้ประชาชนลืมท่านทักษิณเพียงใด ก็ยังไม่มีน้ำยาที่จะทำได้
ตราบใดที่พรรคนี้ยังไม่มีการปฏิรูปพรรค ตราบนั้นก็อย่าพึ่งเสนอหน้าลงเลือกตั้ง
เพราะประชาชนจับตามองอยู่ตลอด อย่างรังเกลียด ปนรำคาญ
พรรคการเมืองอะไร ไม่มีนโยบายเสนอประชาชนไม่พอ ยังไม่ลงเลือกตั้งอีก และที่สำคัญ เกี่ยงงอน ไม่ปรับปรุงตัวเอง
ะการจะเล่นกับความรู้สึกประชาชน มีทางเดียวคือ แสร้งปฏิรูปพรรค และหาหัวหน้าพรรคคนใหม่นั่นแหละ
ถึงจะสามารถ แข่งขันในการเลือกตั้งได้
ซึ่งคนอย่าง นายกรณ์ นายอภิรักษ์ รอเวลาอย่างใจจด ใจจ่อ แต่ก็เป็นผลเสียต่อ อภิสิทธิ์ และเครือข่ายโยงใยของสุเทพที่วางเอาไว้
ในลักษณะ พรรคของคนภาคใต้ ที่สั่งซ้ายหัน ขวาหันได้
และหากมาร์คมีเหตุผลว่า ที่ยังอยู่ในตำแหน่ง ก็เพื่อเป็นเกราะป้องกันต่อสู้คดี หากคิดอย่างนี้ พรรคนี้อีกยี่สิบปี ก็คงไม่มีหัวหน้าพรรคเป็นแน่
และยิ่งในความเป็นจริงทุกวันนี้ พรรคการเมืองต่างๆ ก็ปรับปรุงพัฒนาพรรคกันเป็นการใหญ่ ต่างมีเป้าหมายที่ชัดเจน
เช่นพรรคบรรหาร พรรคของสนธยา คุณปลื้ม ที่ล้วนเป็นมิตรแท้กับพรรคเพื่อไทย
พรรคปชป เลยแทบจะกลายเป็นข้าวนอกนา ในระบบการเลือกตั้งของประเทศไปแล้ว เข้ากับชูวิทย์ก็ไม่ได้
พูดง่ายๆ พรรคนี้เอาตัวเองให้รอดก่อนเหอะ อย่าพึ่งไปห่วงท่านทักษิณเลย ไปๆมาๆ ประชาชนจะลืมพรรคนี้ ก่อนลืมทักษิณ
คราวนี้มาข้อ 2. ครับ
ทำอย่างไร ประชาชนถึงจะลืมท่านทักษิณ ข้อนี้เป็นข้อใหญ่ ที่สำคัญมาก เพราะตราบใดที่อีกฝ่ายยังก้าวไม่พ้นเงาท่านทักษิณ
ก็อย่าพึ่งไปคิดว่า ทำอย่างไร ประชาชนจะลืมท่านทักษิณ
เพราะลำพัง ฝ่ายตรงข้ามเอง ก็ยังไม่เคยลืม เอะอะอะไร ก็ทักษิณ เอะอะ อะไร ก็ทักษิณ แล้วเมื่อมีอำนาจ
แต่ไม่คิดนโยบายอะไร ดีๆ ไปแข่งขัน
แต่ดันไปใช้ความสามารถปลัดกระทรวง ที่เป็นข้าราชการประจำคิด
แน่นอนว่าเพราะไม่มีนักการเมืองเก่งๆให้ใช้ มีคำพูดหนึ่งที่ว่าพรรคที่ใหญ่ที่สุด ที่แอบแฝงระบบการเมืองไทยมานานที่สุด
ที่เล่าลือกันว่า คือพรรคราชการนั้นเอง ใครไม่รู้ทัน เป็นเสร็จ และเสร็จจริงๆ คือแพ้ทาง ข้อมูลที่รั่วไหล
การจะมุ่งหวัง ให้คนระดับนั้น มาออกความคิดแบบปัจจุบันทันด่วน เพื่อให้มีนโยบายที่ทำให้ประชาชนลืมท่านทักษิณนั้น
เหมือนกับการเพ้อฝัน และหลงทาง หรือให้ทำงานไปก่อนด่วน แบบให้ความหวังลมๆแล้งๆว่า อาจจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีตอบแทน
เท่ากับว่า ทำงานด้วยอคติ ไม่ใช่มุ่งพัฒนา แต่มุ่งทำลายกันทุกกระทรวง ถือว่าผิดหลักของการทำงาน พัฒนาประเทศ
จะเสียทั้งเวลา และงบประมาณไปแบบไร้ประโยชน์
อย่าลืมว่า ช่วงเวลานี้ คนระดับปลัดต่างๆ ต่างคน ต่างมีความหวัง ว่าจะได้เป็นรัฐมนตรีส้มหล่น
การเร่งรีบคิดอะไรแปลกๆ แผลงๆออกมาจากอารมณ์จริตส่วนลึก เพื่อให้เข้าตานั้น จึงผิดปรกติวิสัยการทำงาน ที่ผ่านๆมา
เมื่อจู่ๆต่อมทำงาน " ขยันผิดปรกติ " ( ฮา )
ความผิดพลาดด้านนโยบาย จึงมีสูงยิ่ง เพราะผ่านการไตร่ตรองมาน้อยและเร่งรีบทำงานแบบ เอาใจผู้มีอำนาจ
ไปๆมา ไปกระทบนโยบายดีๆ ที่ท่านทักษิณทำไว้ให้ประชาชน ไปๆมาๆ ยิ่งทำให้ประชาชนคิดถึงท่านทักษิณมากขึ้นอีก กลายเป็น
อยากให้ลืม กลับยิ่งจดจำ
นี่คือความแตกต่างระหว่าง การทำงานเพื่อประชาชนจริงๆ
กับการทำงานเพื่อผู้มีอำนาจ
สุดท้ายก่อนจะจบบทความนี้ ผมจะขอแนะนำ หรือบอกใบ้ว่า ทำอย่างไร ประชาชน ถึงจะลืมท่านทักษิณครับ
ก็คือ ทำอย่าง คุณยิ่งลักษณ์ ที่ผ่านมาสิครับ มีความรัก มีความเมตตาประชาชน จริงใจกับประชาชนเสมอต้น เสมอปลาย
พูดเหมือนง่ายๆ แต่ต้องทำออกมาจากใจจริงๆ เพื่อประชาชนจริงๆ
ประชาชนต้องการ ประชาธิปไตย ก็เคียงข้างประชาชนอย่างจริงใจ ความจริงที่ผ่านมา คนก็ลืมทักษิณไปแล้วนะครับ
ผมพูดจริงๆ เพราะประชาชน หันมารักคุณยิ่งลักษณ์แทนครับ