เส้นทาง การเมือง เส้นทาง ประชาธิปัตย์ ในความถดถอย
ความพยายามของ นายอลงกรณ์ พลบุตร มาจากความปรารถนาดี แต่ไม่ง่ายหรอกที่ข้อเสนอ
ของ นายอลงกรณ์ พลบุตร จะได้รับการขานรับ
แม้ว่าบทสรุปหลายบทสรุปจะเป็น ความจริง
แต่ นายอลงกรณ์ พลบุตร อาจลืมผลึกในทางความคิดที่สำคัญที่ว่า ความจริงเป็นสิ่งที่ไม่ตาย
แต่คนพูดความจริงมักต้องตาย
ตาย เพราะความจริงมักไม่เสนาะหู จึงไม่ค่อยมีคนอยากได้ยิน
ความจริง 1 ที่ นายอลงกรณ์ พลบุตร เสนอเป็นพื้นฐานรองรับความชอบธรรมในการปฏิรูป
พรรคประชาธิปัตย์ คือ ความจริงที่พรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งมาอย่างต่อเนื่อง
กล่าวเฉพาะต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ตั้งแต่เมื่อปี 2544
ไม่ว่าเมื่อเดือนมกราคม 2544 ก็แพ้ ไม่ว่าเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2548 ก็แพ้ ไม่ว่าเมื่อ
เดือนธันวาคม 2550 ก็แพ้ ไม่ว่าเมื่อเดือนกรกฎาคม 2554 ก็แพ้
เป็นการแพ้ในท่ามกลาง ตัวช่วย
ในความเป็นจริง พรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งตั้งแต่เมื่อเดือน
กรกฎาคม 2538 มาแล้ว แม้ว่าจะเพิ่งเป็นรัฐบาล
เป็นการพ่ายแพ้แก่พรรคชาติไทยของ นายบรรหาร ศิลปอาชา
ไม่เพียงแต่เท่านั้นในการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายน 2539 พรรคประชาธิปัตย์
ก็พ่ายแพ้ให้แก่พรรคความหวังใหม่ของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ
แต่ก็มี �ตัวช่วย� ให้ได้เป็นรัฐบาลในเดือนพฤศจิกายน 2540
ทั้งๆ ที่เป็นรัฐบาลบริหารประเทศ แต่พอยุบสภาเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งใน
เดือนมกราคม 2544 พรรคประชาธิปัตย์ก็แพ้ให้แก่พรรคไทยรักไทย จากนั้น
ก็พ่ายแพ้อย่างต่อเนื่องไม่ว่าต่อพรรคพลังประชาชน ไม่ว่าพรรคเพื่อไทย
เลือกตั้งอีกในปี 2558 ก็น่าจะแพ้
จุดเริ่มต้นในการเรียกร้องการปฏิรูปจาก นายอลงกรณ์ พลบุตร มาจากความรู้สึก
ที่ว่าหากไม่มีการปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์ก็น่าจะต้องแพ้ซ้ำซาก
เพราะ �ตัวช่วย� ก็จะค่อยถอยห่างออกไป
ตัวช่วยอันได้มาจากการรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ก็เริ่มอ่อนแรง
และถูกคัดค้านต่อต้านเป็นอย่างสูง
ยิ่งพรรคประชาธิปัตย์ถลาเข้าไปปกป้องยิ่งเป็นอันตราย
ขณะเดียวกัน การที่จะให้พรรคประชาธิปัตย์ถอยห่างออกจาก �ตัวช่วย�
ที่อุ้มจากค่ายทหารได้เป็นรัฐบาลทั้งๆ ที่พ่ายแพ้ในสนามการเลือกตั้ง ก็ยิ่ง
ทำให้หมดพลังเป็นลำดับ
ตรงนี้แหละคือปัญหาในการปฏิรูป
แท้จริงแล้ว ปัญหาของพรรคประชาธิปัตย์คือปัญหาอันเด่นชัดของสังคมประเทศไทย
ภาวะถดถอยของพรรคประชาธิปัตย์ดำรงอยู่ในท่ามกลางการถดถอย
ของพลังอนุรักษ์อันดำรงอยู่อย่างดูหมิ่นและรังเกียจประชาชนเพราะ
เห็นว่าโง่เง่า ไร้การศึกษา
เพราะยิ่งดูหมิ่นยิ่งเหินห่างจากประชาชน
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMk5qQXpPRGcyTVE9PQ==§ionid=
ข่าวสด ...มาช้าไปหน่อย ...แต่ก็ยังดีกว่า ไม่มาเลย แบบ "แนวหน้า"
เพราะประเด็นนี้ "แนวหน้า" เสนอแค่ข่าว แต่ไม่แตะต้องในการวิจารณ์เลย ..
นั่นสินะ ...ทำไมเราต้องไปวุ่นวายกับ "แนวหน้า" ด้วย ก็เพราะเขามีบ.ก. เป็นส.ส. ปชป. น่ะสิ ...
ปฏิรูปพรรค...ความฝันของประชาธิปัตย์ ...หรือ..แค่ความฝันของ..อลงกรณ์ พลบุตร ..เชิญติดตาม
ความพยายามของ นายอลงกรณ์ พลบุตร มาจากความปรารถนาดี แต่ไม่ง่ายหรอกที่ข้อเสนอ
ของ นายอลงกรณ์ พลบุตร จะได้รับการขานรับ
แม้ว่าบทสรุปหลายบทสรุปจะเป็น ความจริง
แต่ นายอลงกรณ์ พลบุตร อาจลืมผลึกในทางความคิดที่สำคัญที่ว่า ความจริงเป็นสิ่งที่ไม่ตาย
แต่คนพูดความจริงมักต้องตาย
ตาย เพราะความจริงมักไม่เสนาะหู จึงไม่ค่อยมีคนอยากได้ยิน
ความจริง 1 ที่ นายอลงกรณ์ พลบุตร เสนอเป็นพื้นฐานรองรับความชอบธรรมในการปฏิรูป
พรรคประชาธิปัตย์ คือ ความจริงที่พรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งมาอย่างต่อเนื่อง
กล่าวเฉพาะต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ตั้งแต่เมื่อปี 2544
ไม่ว่าเมื่อเดือนมกราคม 2544 ก็แพ้ ไม่ว่าเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2548 ก็แพ้ ไม่ว่าเมื่อ
เดือนธันวาคม 2550 ก็แพ้ ไม่ว่าเมื่อเดือนกรกฎาคม 2554 ก็แพ้
เป็นการแพ้ในท่ามกลาง ตัวช่วย
ในความเป็นจริง พรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งตั้งแต่เมื่อเดือน
กรกฎาคม 2538 มาแล้ว แม้ว่าจะเพิ่งเป็นรัฐบาล
เป็นการพ่ายแพ้แก่พรรคชาติไทยของ นายบรรหาร ศิลปอาชา
ไม่เพียงแต่เท่านั้นในการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายน 2539 พรรคประชาธิปัตย์
ก็พ่ายแพ้ให้แก่พรรคความหวังใหม่ของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ
แต่ก็มี �ตัวช่วย� ให้ได้เป็นรัฐบาลในเดือนพฤศจิกายน 2540
ทั้งๆ ที่เป็นรัฐบาลบริหารประเทศ แต่พอยุบสภาเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งใน
เดือนมกราคม 2544 พรรคประชาธิปัตย์ก็แพ้ให้แก่พรรคไทยรักไทย จากนั้น
ก็พ่ายแพ้อย่างต่อเนื่องไม่ว่าต่อพรรคพลังประชาชน ไม่ว่าพรรคเพื่อไทย
เลือกตั้งอีกในปี 2558 ก็น่าจะแพ้
จุดเริ่มต้นในการเรียกร้องการปฏิรูปจาก นายอลงกรณ์ พลบุตร มาจากความรู้สึก
ที่ว่าหากไม่มีการปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์ก็น่าจะต้องแพ้ซ้ำซาก
เพราะ �ตัวช่วย� ก็จะค่อยถอยห่างออกไป
ตัวช่วยอันได้มาจากการรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ก็เริ่มอ่อนแรง
และถูกคัดค้านต่อต้านเป็นอย่างสูง
ยิ่งพรรคประชาธิปัตย์ถลาเข้าไปปกป้องยิ่งเป็นอันตราย
ขณะเดียวกัน การที่จะให้พรรคประชาธิปัตย์ถอยห่างออกจาก �ตัวช่วย�
ที่อุ้มจากค่ายทหารได้เป็นรัฐบาลทั้งๆ ที่พ่ายแพ้ในสนามการเลือกตั้ง ก็ยิ่ง
ทำให้หมดพลังเป็นลำดับ
ตรงนี้แหละคือปัญหาในการปฏิรูป
แท้จริงแล้ว ปัญหาของพรรคประชาธิปัตย์คือปัญหาอันเด่นชัดของสังคมประเทศไทย
ภาวะถดถอยของพรรคประชาธิปัตย์ดำรงอยู่ในท่ามกลางการถดถอย
ของพลังอนุรักษ์อันดำรงอยู่อย่างดูหมิ่นและรังเกียจประชาชนเพราะ
เห็นว่าโง่เง่า ไร้การศึกษา
เพราะยิ่งดูหมิ่นยิ่งเหินห่างจากประชาชน
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMk5qQXpPRGcyTVE9PQ==§ionid=
ข่าวสด ...มาช้าไปหน่อย ...แต่ก็ยังดีกว่า ไม่มาเลย แบบ "แนวหน้า"
เพราะประเด็นนี้ "แนวหน้า" เสนอแค่ข่าว แต่ไม่แตะต้องในการวิจารณ์เลย ..
นั่นสินะ ...ทำไมเราต้องไปวุ่นวายกับ "แนวหน้า" ด้วย ก็เพราะเขามีบ.ก. เป็นส.ส. ปชป. น่ะสิ ...