สวัสดีค่า วันนี้มาค่อนข้างตรงเวลาเนาะ มาส่งท้ายกันกับเดือนมิถุนาด้วยหนังสือ 2 เล่มที่ได้มาล่าสุดนี้แล้วกันค่ะ เดือนนี้ซื้อหนังสือไปมากพอสมควรนะ พูดเลย แต่ก็ยังดีที่ไม่มากไปกว่านี้ ฮ่าๆ
The Hundred Foot Journey by Richard C. Morais
เล่มนี้เรารู้จักจากกระทู้ห้องเฉลิมไทยค่ะ เป็นกระทู้เกี่ยวกับหนังที่ทำจากหนังสือที่ใกล้จะออกมาให้ดูกันในไม่ช้านี้ ได้ข่าวว่าโอปรา วินฟรีย์เป็นโปรดิวเซอร์ด้วยนะ อ่านเนื้อเรื่องแล้วก็ชอบค่ะ เกี่ยวกับครอบครัวอินเดียที่มีกิจการร้านอาหารอินเดียในปารีส แต่โชคไม่ดีที่มาเปิดร้านอยู่ใกล้กับภัตตาคารมิชลิน 3 ดาวเลยทีเดียว แค่นี้ละที่เรารู้ จะเป็นยังไงคงต้องตามอ่านกันต่อ เราได้มาจากร้านประจำค่ะ ความจริงเคยมีของเข้ามาครั้งนึงแล้ว แต่เราพลาดไปแค่วันเดียวก็มีคนมาซื้อตัดหน้าไปซะได้ เจ็บใจมากตอนนั้น แต่หนนี้ไม่พลาดค่ะ คงไม่มีใครที่เล็งไว้แบบเรา เลยได้มาครอบครองง่าย 190 บาท สภาพเหมือนใหม่เลยละ มีรอยยับที่มุมล่างขวาของปกหน้านิดเดียวเองตามรูปเลย นอกนั้นยังนิ้ง
Hugh Fidelity by Nick Hornby
สำหรับเล่มนี้จะว่ารอมานานก็ไม่ใช่ ลังเลมาตลอดก็ไม่เชิง สมัยที่หนังเรื่องนี้ออกมาเราได้ดูแล้วชอบมากๆ ชอบไอเดียที่เอาเพลงร็อกมาใช้เปรียบเทียบกับความรักของพระเอก ทีนี้ในร้านประจำเราพวกหนังสือเล่มฮิตๆมันจะวนเวียนเข้ามาบ่อยแทบทุกวีคแหละ แต่เราหาที่ราคามันเหมาะๆในสภาพไม่เยินมากนักไม่ได้เลย 70-90 มีนะ แต่เยินสะบัดเลย พวกที่ 150 ขึ้นนี่เราว่าแพงไปหน่อย ถึงจะเหมือนใหม่ก็จริงแต่แพงไปนิด คือเราเทียบสภาพและราคากับนิยายเล่มอื่นที่ดังๆมีเข้าร้านบ่อยด้วยไง ว่าถ้าเล่มอื่นสภาพประมาณนี้ขายราคาเท่านี้ ก็ควรจะได้ในราคาไล่ๆกัน สรุปเลยเสียค่าตัวไปที่ 120 กับสภาพเหมือนใหม่แต่แอบมีราเหลืองบางๆที่ขอบหน้า
มาต่อกันที่หนังสือที่ได้อ่านบ้าง วีคนี้เก็บเศษของเล่มเก่าๆที่อ่านเหลือให้จบ จะมีเล่มใหม่ที่เริ่มจริงๆแค่เพียงเล่มเดียว เป็น classic ที่ออกจะดูไม่เข้ากับเราสักเท่าไหร่เลย ประหลาดใจตัวเองเหมือนกันที่อ่าน
Heidi by Johanna Spyri
มันเป็นหนังสือนอกเวลาของน้อง เราต้องช่วยติวก็เลยต้องอ่าน แต่หลังจากที่อ่านแล้วก็พบว่ามันน่ารักดี มิตรภาพระหว่างเด็กน้อยบนเขาชาวสวิสฯ กับเพื่อนพิการชาวเยอรมัน อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นดี ดูเป็นคนโลกสวยและมีความหวังในชีวิตขึ้นมาทันตา แต่ด้วยความที่มันเป็น grade reader อะนะ มันเลยเป็นฉบับที่มีคนเอามาเรียบเรียงอีกที ไม่ใช่ฉบับเต็ม ทำให้อยากลองหาฉบับเต็มมาอ่านดูเหมือนกัน
เอาเป็นว่าจบที่ตรงนี้แล้วกันสำหรับวีคนี้ค่ะ ใครที่อ่านหนังสืออะไรในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาก็เอามาเล่ามารีวิวกันนะคะ ใครที่ไปได้หนังสือใหม่ๆน่าสนใจก็เอามาอวดมาเห่อมา unbox กันได้ตามสะดวกเลยค่ะ หรือใครจะมาเม้าท์มอยเรื่องหนังสือ มาถามหาคำแนะนำว่ามีอะไรน่าอ่านบ้างก็ยินดีค่ะ หรือจะมาแจ้งโปรโมชั่นของร้านหรือเทศกาลงานหนังสือเหล่าหนอนฯก็จะยิ่งยินดีเป็นที่ซรู้ดค่า อิอิ
*** A book A week: วีคนึงที่ผ่านมาอ่านอะไรกันมั่งเอ่ย #16 ***
The Hundred Foot Journey by Richard C. Morais
เล่มนี้เรารู้จักจากกระทู้ห้องเฉลิมไทยค่ะ เป็นกระทู้เกี่ยวกับหนังที่ทำจากหนังสือที่ใกล้จะออกมาให้ดูกันในไม่ช้านี้ ได้ข่าวว่าโอปรา วินฟรีย์เป็นโปรดิวเซอร์ด้วยนะ อ่านเนื้อเรื่องแล้วก็ชอบค่ะ เกี่ยวกับครอบครัวอินเดียที่มีกิจการร้านอาหารอินเดียในปารีส แต่โชคไม่ดีที่มาเปิดร้านอยู่ใกล้กับภัตตาคารมิชลิน 3 ดาวเลยทีเดียว แค่นี้ละที่เรารู้ จะเป็นยังไงคงต้องตามอ่านกันต่อ เราได้มาจากร้านประจำค่ะ ความจริงเคยมีของเข้ามาครั้งนึงแล้ว แต่เราพลาดไปแค่วันเดียวก็มีคนมาซื้อตัดหน้าไปซะได้ เจ็บใจมากตอนนั้น แต่หนนี้ไม่พลาดค่ะ คงไม่มีใครที่เล็งไว้แบบเรา เลยได้มาครอบครองง่าย 190 บาท สภาพเหมือนใหม่เลยละ มีรอยยับที่มุมล่างขวาของปกหน้านิดเดียวเองตามรูปเลย นอกนั้นยังนิ้ง
Hugh Fidelity by Nick Hornby
สำหรับเล่มนี้จะว่ารอมานานก็ไม่ใช่ ลังเลมาตลอดก็ไม่เชิง สมัยที่หนังเรื่องนี้ออกมาเราได้ดูแล้วชอบมากๆ ชอบไอเดียที่เอาเพลงร็อกมาใช้เปรียบเทียบกับความรักของพระเอก ทีนี้ในร้านประจำเราพวกหนังสือเล่มฮิตๆมันจะวนเวียนเข้ามาบ่อยแทบทุกวีคแหละ แต่เราหาที่ราคามันเหมาะๆในสภาพไม่เยินมากนักไม่ได้เลย 70-90 มีนะ แต่เยินสะบัดเลย พวกที่ 150 ขึ้นนี่เราว่าแพงไปหน่อย ถึงจะเหมือนใหม่ก็จริงแต่แพงไปนิด คือเราเทียบสภาพและราคากับนิยายเล่มอื่นที่ดังๆมีเข้าร้านบ่อยด้วยไง ว่าถ้าเล่มอื่นสภาพประมาณนี้ขายราคาเท่านี้ ก็ควรจะได้ในราคาไล่ๆกัน สรุปเลยเสียค่าตัวไปที่ 120 กับสภาพเหมือนใหม่แต่แอบมีราเหลืองบางๆที่ขอบหน้า
มาต่อกันที่หนังสือที่ได้อ่านบ้าง วีคนี้เก็บเศษของเล่มเก่าๆที่อ่านเหลือให้จบ จะมีเล่มใหม่ที่เริ่มจริงๆแค่เพียงเล่มเดียว เป็น classic ที่ออกจะดูไม่เข้ากับเราสักเท่าไหร่เลย ประหลาดใจตัวเองเหมือนกันที่อ่าน
Heidi by Johanna Spyri
มันเป็นหนังสือนอกเวลาของน้อง เราต้องช่วยติวก็เลยต้องอ่าน แต่หลังจากที่อ่านแล้วก็พบว่ามันน่ารักดี มิตรภาพระหว่างเด็กน้อยบนเขาชาวสวิสฯ กับเพื่อนพิการชาวเยอรมัน อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นดี ดูเป็นคนโลกสวยและมีความหวังในชีวิตขึ้นมาทันตา แต่ด้วยความที่มันเป็น grade reader อะนะ มันเลยเป็นฉบับที่มีคนเอามาเรียบเรียงอีกที ไม่ใช่ฉบับเต็ม ทำให้อยากลองหาฉบับเต็มมาอ่านดูเหมือนกัน
เอาเป็นว่าจบที่ตรงนี้แล้วกันสำหรับวีคนี้ค่ะ ใครที่อ่านหนังสืออะไรในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาก็เอามาเล่ามารีวิวกันนะคะ ใครที่ไปได้หนังสือใหม่ๆน่าสนใจก็เอามาอวดมาเห่อมา unbox กันได้ตามสะดวกเลยค่ะ หรือใครจะมาเม้าท์มอยเรื่องหนังสือ มาถามหาคำแนะนำว่ามีอะไรน่าอ่านบ้างก็ยินดีค่ะ หรือจะมาแจ้งโปรโมชั่นของร้านหรือเทศกาลงานหนังสือเหล่าหนอนฯก็จะยิ่งยินดีเป็นที่ซรู้ดค่า อิอิ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้