นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการพิเศษ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการเก็บตัวอย่างถาด และภาชนะโลหะเคลือบ ที่นิยมนำมาใส่ส้มตำ ทำเป็นจุดขายจนได้รับความสนใจจากประชาชน นิยมบริโภคกันมากในเวลานี้ นำมาทดลองทั้งหมด 30 ตัวอย่าง ด้วยการหยดกรดอะซิติก หรือกรดน้ำส้มสายชู และแช่ไว้ในอุณหภูมิ 22 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ผลของการทดลองพบว่า ตัวอย่างเกือบทั้งหมดมีปริมาณสารแคดเมียมเกินมาตรฐานกว่า 3 เท่า หากบริโภคมากจะมีอันตรายคือ ปวดท้องเฉียบพลัน คลื่นไส้ มึนศีรษะ และถ้าสะสมในร่างกายจะปวดกระดูก มีผลต่อตับไตในระยะยาว
สำหรับถาดโลหะ หรือสังกะสี จึงไม่เหมาะกับการใส่อาหารที่มีรสเปรี้ยว เช่น ส้มตำ หรือยำ เพราะสุ่มเสี่ยงการรับประทานอาหารที่มีสารเคมีปนเปื้อน แม้บางร้านจะเลี่ยงใช้ใบตองมารอง แต่ว่าส้มตำมีน้ำปรุงรสที่เปรี้ยวเป็นกรดอยู่แล้ว จึงไม่ควรนำมาใช้บรรจุในถาด หรือจานชามพ่นสี
ที่มา: PPtv Thailand #ยกทัพข่าวเช้า #PPTV #PPTVHD #PPTVHD36
[สุขภาพ] ส้มตำถาดเสี่ยงปวดท้อง คลื่อไส้ มีผลต่อ ตับไต ในระยะยาว
นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการพิเศษ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการเก็บตัวอย่างถาด และภาชนะโลหะเคลือบ ที่นิยมนำมาใส่ส้มตำ ทำเป็นจุดขายจนได้รับความสนใจจากประชาชน นิยมบริโภคกันมากในเวลานี้ นำมาทดลองทั้งหมด 30 ตัวอย่าง ด้วยการหยดกรดอะซิติก หรือกรดน้ำส้มสายชู และแช่ไว้ในอุณหภูมิ 22 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ผลของการทดลองพบว่า ตัวอย่างเกือบทั้งหมดมีปริมาณสารแคดเมียมเกินมาตรฐานกว่า 3 เท่า หากบริโภคมากจะมีอันตรายคือ ปวดท้องเฉียบพลัน คลื่นไส้ มึนศีรษะ และถ้าสะสมในร่างกายจะปวดกระดูก มีผลต่อตับไตในระยะยาว
สำหรับถาดโลหะ หรือสังกะสี จึงไม่เหมาะกับการใส่อาหารที่มีรสเปรี้ยว เช่น ส้มตำ หรือยำ เพราะสุ่มเสี่ยงการรับประทานอาหารที่มีสารเคมีปนเปื้อน แม้บางร้านจะเลี่ยงใช้ใบตองมารอง แต่ว่าส้มตำมีน้ำปรุงรสที่เปรี้ยวเป็นกรดอยู่แล้ว จึงไม่ควรนำมาใช้บรรจุในถาด หรือจานชามพ่นสี
ที่มา: PPtv Thailand #ยกทัพข่าวเช้า #PPTV #PPTVHD #PPTVHD36