ผมได้คอยแอบอ่านพี่น้องมาเล่าประสบการณ์เริ่มต้นธุรกิจของตัวเองในบอร์ดพันทิปมานานมากๆแล้วครับ หลายกระทู้สร้างความกล้า+แรงบันดาล+ให้ความรู้ ได้ประโยชน์เยอะมากๆครับ วันนี้ตัดสินใจขอเป็นฝ่ายมาแชร์ให้เพื่อนๆ ฟังบ้างครับ
ผมว่าเพื่อนๆ หลายๆ คนอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง หลายๆ คนคงเหมือนผม อ่านกระทู้คนอื่นแล้วมันมีแรงฮึกเหิม อยากทำอะไรซักอย่างนึงที่เป็นของตัวเอง แต่คำถามยอดฮิตคือ ทำอะไรดี? ผมเคยอ่านเจอที่ไหนไม่รู้ เค้าบอกว่า ทำอะไรก็ได้ ที่ทำแล้วเรามีความสุข แล้วเราจะรู้สึกเหมือนไม่ต้องทำงานไปทั้งชีวิต ผมได้ยินคนพูดลักษณะนี้มาตลอด ประเด็นคือพูดง่ายแต่เอาจริงๆ มันก็ทำยากเนอะ
จุดประสงค์ของการเล่าประสบการณ์ของผมให้เพื่อนๆ ฟังนี้คือ เอาไว้เป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆ ในการเริ่มธุรกิจผมทำแล้วมีความสุขมาก เราก้าวย่างออกจากพื้นที่ปลอดภัย มาผจญภัยในร้านเล็กๆ ของครอบครัวเรา เริ่มต้นอย่างมีความหวัง มาดูกันว่าผมค้นพบมันได้ยังไงครับ เริ่มกันเลยดีกว่าครับ
ผมอยู่ในวัย 30 กว่าๆ ทำงานมาแล้ว 10 ปี จริงๆหลายคนคงเหมือนผม เราจะมีทั้งเพื่อนที่ประสบความสำเร็จรอบตัวมากมาย คนนี้ไปเปิดกิจการไอ้นั่น คนนู้นไปทำไอ้นี่ บางคนก็เจ๊ง บางคนก็รวย บางคนเจ๊งก่อนแล้วค่อยรวย ผมได้แต่เฝ้าดูเพื่อนๆ ลองทำนู่นทำนี่กัน เหมือนรอเวลาอะไรบางอย่าง ถึงเพื่อนบางคนจะทำแล้วเจ๊ง อย่างน้อยเค้าก็ยังกล้าลงมือทำ ผมเห็นแล้วมันคันมือมาก!!! อยากทำอะไรกะเค้าบ้าง!
เราเป็นครอบครัวเล็กๆ มีผม ภรรยาผม แล้วก็ลูกชายปัจจุบันวัย 2.7 ขวบ กับลูกสาววัย 7 เดือน บ้านเราเป็นครอบครัวเล็กๆ ที่เลี้ยงลูกกันเองครับ ผมออกไปทำงานประจำทุกวัน ภรรยาผมอยู่บ้านดูแลลูกทั้งสองคนโดยมีน้องสาวของภรรยาผมมาช่วยกันเลี้ยงอีกแรงครับ
ไอเดียแรกเริ่มจากวันนึงในห้องครัวเรา มีถาดกระดาษใส่ผลไม้เหลือใช้มา ผมเลยเอามาเล่นกับลูกชาย ให้เค้านั่งแล้วลากไปมา ปรากฏว่าลูกชอบมาก ผมคิดในใจความสุขของเด็กนี่เรียบง่ายดีเนอะ เด็กๆ ไม่สนใจหรอกว่าของเล่นต้องแพงต้องไฮโซยังไงถึงจะสนุก
ทำให้นึกย้อนไปถึงอีกครั้งนึงว่า แค่ลูกลงไปนั่งในตระกร้าผ้าก็สนุกแล้ว มันไม่ได้สำคัญเลยว่าของเล่นต้องหรูยังไง พ่อแม่เล่นด้วยกับเค้าน่าจะสำคัญกว่ามาก (อีพ่ออีแม่ถ่ายรูปใหญ่ หลงลูกตัวเองตามเรื่องครับ)
ผมลงรูปพวกนี้ในเฟสบุ้คตามสไตล์คนเห่อลูก แล้วก็มีรุ่นพี่คนนี้มาคอมเม้นท์ว่า "พ่อแม่คือของเล่นที่ดี่สุดของลูก" ผมจำขึ้นใจเลยครับตั้งแต่วันนั้น
ไม่ว่าเราจะมีตังค์ซื้อของเล่นให้ลูกมากเพียงไร มันไม่สำคัญเท่ากับ ที่เราอยู่เล่นกับลูก
ท้าวความนิดนึงครับ บ้านผมทำโรงงานกล่องกระดาษลูกฟูกครับ ตอนที่เล่นถาดกระดาษกับลูก ทำให้นึกได้ว่าเราก็ทำกล่องนิ เดี๋ยวเราเอากระดาษเหลือใช้จากโรงงานมาประดิษฐ์ให้ลูกเล่นดีกว่า โดยพื้นฐานก่อนลูกจะเกิดปกติผมก็ชอบประดิษฐ์อะไรเล่นเองจากกระดาษอยู่แล้ว เช่น
เก้าอี้จากกระดาษ
ชั้นวางหนังสือจากกระดาษ
อันนี้คือแท่นวางไอโฟนแบบเสียบชาร์จได้ แถมยังวางแนวนอนได้ด้วยนะ กะทำแจกเพื่อนๆ ให้ใช้บนโต๊ะทำงาน แต่มันดูอัปลักษณ์เกิน ผมเลยไม่ได้ทำต่อ 55555
อันนี้คือกล่องใส่ปลั๊กสามตาครับ เอาไว้จัดระเบียบปลั๊กสามตาแบบยาวที่เวลามีอะไรมาเสียบเยอะๆแล้วมันดูยุ่งเหยิง เราก็มาเอาใส่กล่องนี้แล้วปิดฝา บริเวณนั้นก็จะดูเรียบร้อยขึ้น รูเจาะรูปมิกกี้เม้าส์คือกะให้ช่วยระบายความร้อนครับ แต่สุดท้ายดูๆ ผมห่วงเรื่องความร้อนสะสมภายในกล่องเลยไม่ได้เอามาใช้ครับ (Disney จะฟ้องผมมั้ยเนี่ยะ 555)
เริ่มออกทะเลเล็กน้อย 555 แต่ผมอยากปูพื้นว่าผมเป็นคนชอบประดิษฐ์ครับ ^^" ของทุกชิ้นนี้เราตัดออกมาอย่างละชิ้น มาใช้เองภายในบ้านแบบสนุกๆ ครับ
*** ถ้าเพื่อนๆ อ่านแล้วเห็นว่าเป็นประโยชน์ รบกวนช่วยกันกดโหวตที่เครื่องหมายบวก กระทู้จะได้อยู่นานๆ ให้เพื่อนๆที่ตามมาอ่านทีหลังด้วยนะครับ ^__^
แชร์ประสบการณ์ เค้าบอกว่าลูกเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตพ่อแม่ แม้กระทั่งเป็นแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจ
ผมว่าเพื่อนๆ หลายๆ คนอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง หลายๆ คนคงเหมือนผม อ่านกระทู้คนอื่นแล้วมันมีแรงฮึกเหิม อยากทำอะไรซักอย่างนึงที่เป็นของตัวเอง แต่คำถามยอดฮิตคือ ทำอะไรดี? ผมเคยอ่านเจอที่ไหนไม่รู้ เค้าบอกว่า ทำอะไรก็ได้ ที่ทำแล้วเรามีความสุข แล้วเราจะรู้สึกเหมือนไม่ต้องทำงานไปทั้งชีวิต ผมได้ยินคนพูดลักษณะนี้มาตลอด ประเด็นคือพูดง่ายแต่เอาจริงๆ มันก็ทำยากเนอะ
จุดประสงค์ของการเล่าประสบการณ์ของผมให้เพื่อนๆ ฟังนี้คือ เอาไว้เป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆ ในการเริ่มธุรกิจผมทำแล้วมีความสุขมาก เราก้าวย่างออกจากพื้นที่ปลอดภัย มาผจญภัยในร้านเล็กๆ ของครอบครัวเรา เริ่มต้นอย่างมีความหวัง มาดูกันว่าผมค้นพบมันได้ยังไงครับ เริ่มกันเลยดีกว่าครับ
ผมอยู่ในวัย 30 กว่าๆ ทำงานมาแล้ว 10 ปี จริงๆหลายคนคงเหมือนผม เราจะมีทั้งเพื่อนที่ประสบความสำเร็จรอบตัวมากมาย คนนี้ไปเปิดกิจการไอ้นั่น คนนู้นไปทำไอ้นี่ บางคนก็เจ๊ง บางคนก็รวย บางคนเจ๊งก่อนแล้วค่อยรวย ผมได้แต่เฝ้าดูเพื่อนๆ ลองทำนู่นทำนี่กัน เหมือนรอเวลาอะไรบางอย่าง ถึงเพื่อนบางคนจะทำแล้วเจ๊ง อย่างน้อยเค้าก็ยังกล้าลงมือทำ ผมเห็นแล้วมันคันมือมาก!!! อยากทำอะไรกะเค้าบ้าง!
เราเป็นครอบครัวเล็กๆ มีผม ภรรยาผม แล้วก็ลูกชายปัจจุบันวัย 2.7 ขวบ กับลูกสาววัย 7 เดือน บ้านเราเป็นครอบครัวเล็กๆ ที่เลี้ยงลูกกันเองครับ ผมออกไปทำงานประจำทุกวัน ภรรยาผมอยู่บ้านดูแลลูกทั้งสองคนโดยมีน้องสาวของภรรยาผมมาช่วยกันเลี้ยงอีกแรงครับ
ไอเดียแรกเริ่มจากวันนึงในห้องครัวเรา มีถาดกระดาษใส่ผลไม้เหลือใช้มา ผมเลยเอามาเล่นกับลูกชาย ให้เค้านั่งแล้วลากไปมา ปรากฏว่าลูกชอบมาก ผมคิดในใจความสุขของเด็กนี่เรียบง่ายดีเนอะ เด็กๆ ไม่สนใจหรอกว่าของเล่นต้องแพงต้องไฮโซยังไงถึงจะสนุก
ทำให้นึกย้อนไปถึงอีกครั้งนึงว่า แค่ลูกลงไปนั่งในตระกร้าผ้าก็สนุกแล้ว มันไม่ได้สำคัญเลยว่าของเล่นต้องหรูยังไง พ่อแม่เล่นด้วยกับเค้าน่าจะสำคัญกว่ามาก (อีพ่ออีแม่ถ่ายรูปใหญ่ หลงลูกตัวเองตามเรื่องครับ)
ผมลงรูปพวกนี้ในเฟสบุ้คตามสไตล์คนเห่อลูก แล้วก็มีรุ่นพี่คนนี้มาคอมเม้นท์ว่า "พ่อแม่คือของเล่นที่ดี่สุดของลูก" ผมจำขึ้นใจเลยครับตั้งแต่วันนั้น
ไม่ว่าเราจะมีตังค์ซื้อของเล่นให้ลูกมากเพียงไร มันไม่สำคัญเท่ากับ ที่เราอยู่เล่นกับลูก
ท้าวความนิดนึงครับ บ้านผมทำโรงงานกล่องกระดาษลูกฟูกครับ ตอนที่เล่นถาดกระดาษกับลูก ทำให้นึกได้ว่าเราก็ทำกล่องนิ เดี๋ยวเราเอากระดาษเหลือใช้จากโรงงานมาประดิษฐ์ให้ลูกเล่นดีกว่า โดยพื้นฐานก่อนลูกจะเกิดปกติผมก็ชอบประดิษฐ์อะไรเล่นเองจากกระดาษอยู่แล้ว เช่น
เก้าอี้จากกระดาษ
ชั้นวางหนังสือจากกระดาษ
อันนี้คือแท่นวางไอโฟนแบบเสียบชาร์จได้ แถมยังวางแนวนอนได้ด้วยนะ กะทำแจกเพื่อนๆ ให้ใช้บนโต๊ะทำงาน แต่มันดูอัปลักษณ์เกิน ผมเลยไม่ได้ทำต่อ 55555
อันนี้คือกล่องใส่ปลั๊กสามตาครับ เอาไว้จัดระเบียบปลั๊กสามตาแบบยาวที่เวลามีอะไรมาเสียบเยอะๆแล้วมันดูยุ่งเหยิง เราก็มาเอาใส่กล่องนี้แล้วปิดฝา บริเวณนั้นก็จะดูเรียบร้อยขึ้น รูเจาะรูปมิกกี้เม้าส์คือกะให้ช่วยระบายความร้อนครับ แต่สุดท้ายดูๆ ผมห่วงเรื่องความร้อนสะสมภายในกล่องเลยไม่ได้เอามาใช้ครับ (Disney จะฟ้องผมมั้ยเนี่ยะ 555)
เริ่มออกทะเลเล็กน้อย 555 แต่ผมอยากปูพื้นว่าผมเป็นคนชอบประดิษฐ์ครับ ^^" ของทุกชิ้นนี้เราตัดออกมาอย่างละชิ้น มาใช้เองภายในบ้านแบบสนุกๆ ครับ
*** ถ้าเพื่อนๆ อ่านแล้วเห็นว่าเป็นประโยชน์ รบกวนช่วยกันกดโหวตที่เครื่องหมายบวก กระทู้จะได้อยู่นานๆ ให้เพื่อนๆที่ตามมาอ่านทีหลังด้วยนะครับ ^__^