เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก เครื่องลงคะแนนเลือกตั้ง
กกต. เล็งแก้กฎหมาย เพื่อนำเครื่องลงคะแนนเลือกตั้งอิเล็กทรอนิกส์ รุ่นที่ 4 ใช้ในการเลือกตั้งท้องถิ่น ชี้คุณสมบัติเด่นประหยัดงบประมาณและป้องกันการทุจริต
วันนี้ (19 มิถุนายน 2557) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. พร้อมด้วย นายบุญส่ง น้อยโสภณ และนายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กกต. ได้ร่วมติดตามความคืบหน้าการพัฒนาเครื่องลงคะแนนเลือกตั้งอิเล็กทรอนิกส์ รุ่นที่ 4 โดยนายศุภชัย กล่าวว่า หากสามารถนำเครื่องดังกล่าวมาใช้ในการเลือกตั้งได้ จะช่วยประหยัดงบประมาณ เนื่องจากไม่ต้องจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้ง แต่ต้องทำการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจและยังต้องแก้ไขกฎหมายเพื่อให้มีการนำเครื่องลงคะแนนมาใช้ได้อย่างถูกต้อง
สำหรับเครื่องลงคะแนนเลือกตั้งดังกล่าว สำนักงาน กกต. ได้เริ่มต้นโครงการเมื่อปี 2546 โดยร่วมมือกับบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด โดยรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 4 ถือว่าเป็นรุ่นที่มีความสมบูรณ์มากที่สุด มีระบบลงคะแนนโดยตรง ไม่ต้องใช้บัตรเลือกตั้ง รองรับบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด มีอักษรเบลล์สำหรับผู้พิการทางสายตา มีคูหาในตัวและมีเสียงแจ้งการเริ่มและสิ้นสุดการลงคะแนน ทั้งนี้ เมื่อเปิดใช้งานแล้วเครื่องจะเก็บข้อมูลไว้ในกล่องดำที่ถูกกำหนดให้ไม่สามารถแก้ไขหรือลบข้อมูลออกได้ตามเวลาที่กำหนด นอกจากนี้ ตัวเครื่องฯ ยังเป็นระบบปิด ไม่มีการเชื่อมโยงอินเทอร์เน็ต ทำให้สามารถป้องกันการเข้ามาเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้
โดยทาง กกต. ได้ให้บริษัทวิทยุการบินฯ ผลิตเครื่องลงคะแนนฯ ต้นแบบ จำนวน 200 ชุด วงเงิน 40 ล้านบาท ตกชุดละประมาณ 2 แสนบาท นำไปให้สหกรณ์และโรงเรียนที่มีการเลือกตั้งได้ทดลองใช้ และล่าสุด นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ได้มีนโยบายนำร่องแนวทางในการนำเครื่องฯ มาใช้ในการเลือกตั้งท้องถิ่น รวมทั้งในช่วงที่จะมีสภานิติบัญญัติแห่งชาติและจะมีการผลักดันให้มีการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้นำเครื่องลงคะแนนไปใช้ในการเลือกตั้งท้องถิ่นต่อไป
http://hilight.kapook.com/view/103965
กกต. เล็งแก้กฎหมาย ใช้เครื่องลงคะแนนอัตโนมัติเลือกตั้งท้องถิ่น
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก เครื่องลงคะแนนเลือกตั้ง
กกต. เล็งแก้กฎหมาย เพื่อนำเครื่องลงคะแนนเลือกตั้งอิเล็กทรอนิกส์ รุ่นที่ 4 ใช้ในการเลือกตั้งท้องถิ่น ชี้คุณสมบัติเด่นประหยัดงบประมาณและป้องกันการทุจริต
วันนี้ (19 มิถุนายน 2557) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. พร้อมด้วย นายบุญส่ง น้อยโสภณ และนายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กกต. ได้ร่วมติดตามความคืบหน้าการพัฒนาเครื่องลงคะแนนเลือกตั้งอิเล็กทรอนิกส์ รุ่นที่ 4 โดยนายศุภชัย กล่าวว่า หากสามารถนำเครื่องดังกล่าวมาใช้ในการเลือกตั้งได้ จะช่วยประหยัดงบประมาณ เนื่องจากไม่ต้องจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้ง แต่ต้องทำการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจและยังต้องแก้ไขกฎหมายเพื่อให้มีการนำเครื่องลงคะแนนมาใช้ได้อย่างถูกต้อง
สำหรับเครื่องลงคะแนนเลือกตั้งดังกล่าว สำนักงาน กกต. ได้เริ่มต้นโครงการเมื่อปี 2546 โดยร่วมมือกับบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด โดยรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 4 ถือว่าเป็นรุ่นที่มีความสมบูรณ์มากที่สุด มีระบบลงคะแนนโดยตรง ไม่ต้องใช้บัตรเลือกตั้ง รองรับบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด มีอักษรเบลล์สำหรับผู้พิการทางสายตา มีคูหาในตัวและมีเสียงแจ้งการเริ่มและสิ้นสุดการลงคะแนน ทั้งนี้ เมื่อเปิดใช้งานแล้วเครื่องจะเก็บข้อมูลไว้ในกล่องดำที่ถูกกำหนดให้ไม่สามารถแก้ไขหรือลบข้อมูลออกได้ตามเวลาที่กำหนด นอกจากนี้ ตัวเครื่องฯ ยังเป็นระบบปิด ไม่มีการเชื่อมโยงอินเทอร์เน็ต ทำให้สามารถป้องกันการเข้ามาเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้
โดยทาง กกต. ได้ให้บริษัทวิทยุการบินฯ ผลิตเครื่องลงคะแนนฯ ต้นแบบ จำนวน 200 ชุด วงเงิน 40 ล้านบาท ตกชุดละประมาณ 2 แสนบาท นำไปให้สหกรณ์และโรงเรียนที่มีการเลือกตั้งได้ทดลองใช้ และล่าสุด นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ได้มีนโยบายนำร่องแนวทางในการนำเครื่องฯ มาใช้ในการเลือกตั้งท้องถิ่น รวมทั้งในช่วงที่จะมีสภานิติบัญญัติแห่งชาติและจะมีการผลักดันให้มีการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้นำเครื่องลงคะแนนไปใช้ในการเลือกตั้งท้องถิ่นต่อไป
http://hilight.kapook.com/view/103965