เราขอนำเรื่องราวของเพื่อนเรานี้ เป็นอุทาหรณ์ให้แก่ทุกคนที่มีความรัก กำลังจะมีความรัก หรือแม้แต่คนโสดก็ตามค่ะ
จริงๆเพื่อนเราเคยโพสแล้ว แต่เรากลัวว่าเค้าจะลบเพราะสงสารแฟนเก่า เพราะแฟนเก่าเค้ารู้แล้วขอร้องให้ลบ เราไม่ยอมค่ะ
ทำร้ายเพื่อนเราขนาดนั้นเพื่อนเรายังจะสงสารอีก ไม่เข้าใจจริงๆ

เรื่องราวตามนี้เลยนะคะ
----------------------------------------------------------
แชร์เรื่องราวความรักของเราที่คบกับแฟนมา 9 ปี
เราอยากมาแบ่งปันประสบการณ์ให้เพื่อนๆได้อ่านกัน เพราะแต่ก่อนเราเป็นคนมองความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม เป็นสีชมพู เป็นอะไรที่ดีงามมาก จนมาเจอเหตุการณ์นี้ จึงทำให้เราเปลี่ยนไป เปลี่ยนทัศนคติต่อความรักและโลกรอบตัวไปอย่างสิ้นเชิง เปลี่ยนไปมองโลกในแง่จริงมากขึ้น
เรากับแฟนเก่าคบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลายจนถึงปีนี้ก็เข้าปีที่ 9 แล้วแล้วมีแผนว่าจะแต่งงานกันหลังจากที่เรียนจบ เรากับเอ(เราขอแทนแฟนเก่าเราด้วยชื่อว่าเอนะคะ)รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เพราะแม่ของเราสองคนทำงานที่เดียวกัน และยังเรียนที่เดียวกันตั้งแต่ ม.1 อยู่วงดนตรีไทยด้วยกัน และยังได้ไปทัศนศึกษาด้วยกันที่ต่างประเทศ ทำให้เราสนิทกันมากขึ้น เมื่อเวลาแม่ของเราสองคนไม่ว่างไปประชุม เราก็มักจะมาเล่นด้วยกัน แต่ความสัมพันธ์ในตอนนั้นก็ยังเป็นแค่เพื่อน เพราะเราสองคนต่างมีคนที่ชอบอยู่แล้ว
พอขึ้นม.ปลาย เราก็ยังสนิทกันเหมือนเดิม มีแกล้งกันบ้าง หยอกล้อกันบ้าง และเราก็ได้ไปเที่ยวด้วยกันที่ห้างฯบ่อยๆ ความสัมพันธ์ของเราเริ่มสนิทกันมากขึ้น เค้าเริ่มโทรมาหาเราที่บ้านบ่อยๆ และเราสองคนก็คุยกันทุกวัน จนเป็นเหมือนกิจวัตร และมารู้ตัวอีกทีเราก็ชอบเค้าไปแล้ว … เราสองคนสนิทกันแบบนี้ประมาณ1ปีได้ จนอาจารย์ที่โรงเรียนและเพื่อนๆก็เริ่มแซว แต่เค้าก็ไม่ได้เขินหรือมีปฏิกิริยาอะไร ยังชอบเดินผ่านห้องเรียนของเรา มาหาเราที่ห้องตอนหมดคาบ และยังเอาตารางสอนเราทำให้เป็นรูปน่ารักๆอีกด้วย และวันนึงเราก็ตกลงเป็นแฟนกับเอ ตอนประมาณชั้น ม.5
เอเป็นคนน่ารักมาก ดูแลเราดีมาก และเค้าน่ารักแม้กระทั่งกับเพื่อนเรา เวลาเพื่อนเรามีปัญหาเอก็จะมาช่วยเหลือเสมอ เราสองคนแทบไม่เคยทะเลาะกันเลย และถ้าทะเลาะกัน จะตกลงกันว่าเราจะไม่เดินหนีกัน เคลียร์ปัญหาให้จบตอนนั้นเลย ไม่ให้มีอะไรค้างคา
จนเราสองคนเข้ามหาลัย เอก็ยังน่ารักเหมือนเดิม เราเรียนที่ต่างจากหวัดไม่ไกลจากกรุงเทพฯมาก ส่วนเค้าได้เรียนอยู่กรุงเทพฯ เราสองคนก็จะได้เจอกันอาทิตย์ละสามวัน คือ ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เป็นแบบนี้มาโดยตลอดที่เรียนมหาวิทยาลัย ไม่เคยรู้สึกขาดหรืออะไรเลย เพราะเค้าน่ารักมากตลอด อยู่มหาวิทยาลัยก็คุยโทรศัพท์กันทุกคืน ถ้ายุ่งมากแค่ไหนอย่างน้อยก็จะโทรบอกว่าจะนอนแล้ว เวลามาบ้านบางทีก็มาช่วยทำความสะอาดด้วย ทำกับข้าวกัน ช่วยกันล้างรถ เก็บข้าวของ
ช่วงปิดเทอมครั้งนึงเราไปโครงการ work and travel ที่อเมริกาสามเดือน เอโทรมาครั้งแรกตอนเราถึงอเมริกาเค้าร้องไห้บอกว่าคิดถึง อยากให้กลับไวๆ เราจะร้องไปด้วยเลย ไม่คิดว่าเค้าจะติดเราขนาดนั้น บางทีเอก็มาเซอร์ไพรส์เราที่มหาลัย ชีวิตรักของเราสองคนก็เป็นมาได้ด้วยดีเรื่อยๆ ไม่มีปัญหาอะไร แต่ว่ารู้สึกรักเค้ามากขึ้นเรื่อยๆ จนไม่รู้ว่าจะหยุดรักได้อย่างไร ใครๆก็บอกเราว่าเธอกับแฟนน่ารักจังเลย อาจจะเป็นเพราะเราสองคนไม่ทะเลาะกัน คือค่อนข้างใจเย็นทั้งคู่ แล้วเค้าก็ไม่เคยมีเรื่องนอกใจมีผู้หญิงอื่นๆเลย เปิดเผยมากว่ามีเราเป็นแฟน
พอเราสองคนเรียนจบมหาวิทยาลัย เราได้ทำงานที่ต้องทำงานเป็นกะ ไม่ได้หยุดเหมือนคนอื่น แต่เอเรียนต่อป.โท วันไหนเราว่างเราก็จะนัดกันไปเที่ยวข้างนอก หรือบางทีเค้าก็มาหาเราที่บ้าน ช่วงนี้เค้าเริ่มเปลี่ยนไปนิดหน่อยทางด้านอารมณ์ คือ อารมณ์ร้อนขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเป็นคนสองบุคลิก ครั้งหนึ่งเราสองคนทะเลาะกัน ตอนนั้นไม่มีคนอยู่บ้าน พอมาอีกครั้ง เค้าก็หงุดหงิดใส่เรา ตะโกนด่าเรา เสียงดัง แล้วก็ทุบตีทำร้ายร่างกายเรา (เราจำรายละเอียดที่เอทำร้ายร่างกายเราไม่ได้) ตอนนั้นแม่กะน้องชายเราอยู่ แม่เราตกใจมากวิ่งมาดูที่ห้องเรา เอล็อคประตูแล้วก็เขวี้ยงแก้วใส่ประตูบอกแม่อย่ามายุ่ง จากนั้นพอตื่นมาเค้าก็เหมือนเป็นคนละคนคือ กลับมาน่ารักเหมือนเดิม แล้วก็เอาน้ำแข็งมาช่วยประคบรอยฟกซ้ำตามตัวเรา ตอนนั้นเราอยากเลิกกะเค้ามาก เพราะเราไม่รู้ต่อไปเราจะต้องเจออะไรอีกบ้าง เราพยายามบอกเค้าอ้อมๆ แต่เค้าดูเหมือนจะของขึ้นอีก เราเลยไม่กล้าเลิกจริงๆ มีครั้งนึงเค้าก็ตบเราเข้าที่หน้าแล้วก็ทำร้ายร่างกายเหมือนเดิม ตอนนั้นอยู่ที่บ้านเค้า พ่อเค้าก็วิ่งมาดู เค้าก็ล็อคประตูเหมือนเดิม พอตื่นมาเราอ้าปากแทบไม่ได้ เพราะกรามเรามันชามาก เราขอให้เค้าพาไปหาหมอเค้าก็บอกไม่เป็นไรหรอก เค้าก็เหมือนเดิม คือเอาน้ำแข็งมาประคบแล้วก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เอาใจเราเหมือนเดิม เราช้ำทั้งกายช้ำทั้งใจไม่รู้จะทำยังไง เราไม่กล้าปรึกษาใครเลย
อุทาหรณ์สอนใจหญิงค่ะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับความรักของเพื่อนเรา
จริงๆเพื่อนเราเคยโพสแล้ว แต่เรากลัวว่าเค้าจะลบเพราะสงสารแฟนเก่า เพราะแฟนเก่าเค้ารู้แล้วขอร้องให้ลบ เราไม่ยอมค่ะ
ทำร้ายเพื่อนเราขนาดนั้นเพื่อนเรายังจะสงสารอีก ไม่เข้าใจจริงๆ
เรื่องราวตามนี้เลยนะคะ
----------------------------------------------------------
แชร์เรื่องราวความรักของเราที่คบกับแฟนมา 9 ปี
เราอยากมาแบ่งปันประสบการณ์ให้เพื่อนๆได้อ่านกัน เพราะแต่ก่อนเราเป็นคนมองความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม เป็นสีชมพู เป็นอะไรที่ดีงามมาก จนมาเจอเหตุการณ์นี้ จึงทำให้เราเปลี่ยนไป เปลี่ยนทัศนคติต่อความรักและโลกรอบตัวไปอย่างสิ้นเชิง เปลี่ยนไปมองโลกในแง่จริงมากขึ้น
เรากับแฟนเก่าคบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลายจนถึงปีนี้ก็เข้าปีที่ 9 แล้วแล้วมีแผนว่าจะแต่งงานกันหลังจากที่เรียนจบ เรากับเอ(เราขอแทนแฟนเก่าเราด้วยชื่อว่าเอนะคะ)รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เพราะแม่ของเราสองคนทำงานที่เดียวกัน และยังเรียนที่เดียวกันตั้งแต่ ม.1 อยู่วงดนตรีไทยด้วยกัน และยังได้ไปทัศนศึกษาด้วยกันที่ต่างประเทศ ทำให้เราสนิทกันมากขึ้น เมื่อเวลาแม่ของเราสองคนไม่ว่างไปประชุม เราก็มักจะมาเล่นด้วยกัน แต่ความสัมพันธ์ในตอนนั้นก็ยังเป็นแค่เพื่อน เพราะเราสองคนต่างมีคนที่ชอบอยู่แล้ว
พอขึ้นม.ปลาย เราก็ยังสนิทกันเหมือนเดิม มีแกล้งกันบ้าง หยอกล้อกันบ้าง และเราก็ได้ไปเที่ยวด้วยกันที่ห้างฯบ่อยๆ ความสัมพันธ์ของเราเริ่มสนิทกันมากขึ้น เค้าเริ่มโทรมาหาเราที่บ้านบ่อยๆ และเราสองคนก็คุยกันทุกวัน จนเป็นเหมือนกิจวัตร และมารู้ตัวอีกทีเราก็ชอบเค้าไปแล้ว … เราสองคนสนิทกันแบบนี้ประมาณ1ปีได้ จนอาจารย์ที่โรงเรียนและเพื่อนๆก็เริ่มแซว แต่เค้าก็ไม่ได้เขินหรือมีปฏิกิริยาอะไร ยังชอบเดินผ่านห้องเรียนของเรา มาหาเราที่ห้องตอนหมดคาบ และยังเอาตารางสอนเราทำให้เป็นรูปน่ารักๆอีกด้วย และวันนึงเราก็ตกลงเป็นแฟนกับเอ ตอนประมาณชั้น ม.5
เอเป็นคนน่ารักมาก ดูแลเราดีมาก และเค้าน่ารักแม้กระทั่งกับเพื่อนเรา เวลาเพื่อนเรามีปัญหาเอก็จะมาช่วยเหลือเสมอ เราสองคนแทบไม่เคยทะเลาะกันเลย และถ้าทะเลาะกัน จะตกลงกันว่าเราจะไม่เดินหนีกัน เคลียร์ปัญหาให้จบตอนนั้นเลย ไม่ให้มีอะไรค้างคา
จนเราสองคนเข้ามหาลัย เอก็ยังน่ารักเหมือนเดิม เราเรียนที่ต่างจากหวัดไม่ไกลจากกรุงเทพฯมาก ส่วนเค้าได้เรียนอยู่กรุงเทพฯ เราสองคนก็จะได้เจอกันอาทิตย์ละสามวัน คือ ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เป็นแบบนี้มาโดยตลอดที่เรียนมหาวิทยาลัย ไม่เคยรู้สึกขาดหรืออะไรเลย เพราะเค้าน่ารักมากตลอด อยู่มหาวิทยาลัยก็คุยโทรศัพท์กันทุกคืน ถ้ายุ่งมากแค่ไหนอย่างน้อยก็จะโทรบอกว่าจะนอนแล้ว เวลามาบ้านบางทีก็มาช่วยทำความสะอาดด้วย ทำกับข้าวกัน ช่วยกันล้างรถ เก็บข้าวของ
ช่วงปิดเทอมครั้งนึงเราไปโครงการ work and travel ที่อเมริกาสามเดือน เอโทรมาครั้งแรกตอนเราถึงอเมริกาเค้าร้องไห้บอกว่าคิดถึง อยากให้กลับไวๆ เราจะร้องไปด้วยเลย ไม่คิดว่าเค้าจะติดเราขนาดนั้น บางทีเอก็มาเซอร์ไพรส์เราที่มหาลัย ชีวิตรักของเราสองคนก็เป็นมาได้ด้วยดีเรื่อยๆ ไม่มีปัญหาอะไร แต่ว่ารู้สึกรักเค้ามากขึ้นเรื่อยๆ จนไม่รู้ว่าจะหยุดรักได้อย่างไร ใครๆก็บอกเราว่าเธอกับแฟนน่ารักจังเลย อาจจะเป็นเพราะเราสองคนไม่ทะเลาะกัน คือค่อนข้างใจเย็นทั้งคู่ แล้วเค้าก็ไม่เคยมีเรื่องนอกใจมีผู้หญิงอื่นๆเลย เปิดเผยมากว่ามีเราเป็นแฟน
พอเราสองคนเรียนจบมหาวิทยาลัย เราได้ทำงานที่ต้องทำงานเป็นกะ ไม่ได้หยุดเหมือนคนอื่น แต่เอเรียนต่อป.โท วันไหนเราว่างเราก็จะนัดกันไปเที่ยวข้างนอก หรือบางทีเค้าก็มาหาเราที่บ้าน ช่วงนี้เค้าเริ่มเปลี่ยนไปนิดหน่อยทางด้านอารมณ์ คือ อารมณ์ร้อนขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเป็นคนสองบุคลิก ครั้งหนึ่งเราสองคนทะเลาะกัน ตอนนั้นไม่มีคนอยู่บ้าน พอมาอีกครั้ง เค้าก็หงุดหงิดใส่เรา ตะโกนด่าเรา เสียงดัง แล้วก็ทุบตีทำร้ายร่างกายเรา (เราจำรายละเอียดที่เอทำร้ายร่างกายเราไม่ได้) ตอนนั้นแม่กะน้องชายเราอยู่ แม่เราตกใจมากวิ่งมาดูที่ห้องเรา เอล็อคประตูแล้วก็เขวี้ยงแก้วใส่ประตูบอกแม่อย่ามายุ่ง จากนั้นพอตื่นมาเค้าก็เหมือนเป็นคนละคนคือ กลับมาน่ารักเหมือนเดิม แล้วก็เอาน้ำแข็งมาช่วยประคบรอยฟกซ้ำตามตัวเรา ตอนนั้นเราอยากเลิกกะเค้ามาก เพราะเราไม่รู้ต่อไปเราจะต้องเจออะไรอีกบ้าง เราพยายามบอกเค้าอ้อมๆ แต่เค้าดูเหมือนจะของขึ้นอีก เราเลยไม่กล้าเลิกจริงๆ มีครั้งนึงเค้าก็ตบเราเข้าที่หน้าแล้วก็ทำร้ายร่างกายเหมือนเดิม ตอนนั้นอยู่ที่บ้านเค้า พ่อเค้าก็วิ่งมาดู เค้าก็ล็อคประตูเหมือนเดิม พอตื่นมาเราอ้าปากแทบไม่ได้ เพราะกรามเรามันชามาก เราขอให้เค้าพาไปหาหมอเค้าก็บอกไม่เป็นไรหรอก เค้าก็เหมือนเดิม คือเอาน้ำแข็งมาประคบแล้วก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เอาใจเราเหมือนเดิม เราช้ำทั้งกายช้ำทั้งใจไม่รู้จะทำยังไง เราไม่กล้าปรึกษาใครเลย