ประสบการณ์ชีวิตกับวิธีที่เราใช้รักตัวเอง

สวัสดีจ้าาาาา 🌼 เราเคยอยู่ในความสัมพันธ์ที่ “เหมือนจะดี” ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบ แต่มันก็เป็นเหมือนใบมีดโกนเคลือบช็อกโกแลต อร่อยแต่โคตรอันตราย ความผูกพันกับคนๆ นั้นมีแค่เรื่องบนเตียง การถูกบงการ และการปั่นหัว สุดท้ายเราก็ทนไม่ไหว


เหตุผลที่อยากเล่า เพราะเราเชื่อว่าความสัมพันธ์แบบนี้มันเริ่มตั้งแต่การเลี้ยงดูในวัยเด็ก แล้วก็ลากยาวมาถึงตอนโตนี่แหละ


Phase 1: วัยเด็ก – จบประถม




เราโตมาในครอบครัวคนจีนที่ค่อนข้าง traditional และสิ่งที่เราเกลียดที่สุดคือระบบอาวุโส ช่วงอายุ 4–11 ขวบ ชีวิตเหมือนจะมีความสุข แต่จริงๆ ก็เต็มไปด้วยการถูกบังคับในนามของสิ่งที่ “ดี”


ตอนเด็กเราอยู่กับตาและยาย ยายเป็นคนน่ารัก แต่ก็เผลอทำร้ายตาทางอ้อม ก่อนเราเกิดประมาณ 30 ปี ยายเปิดร้านโจ๊ก ตาช่วยขาย แต่เขาเชื่อว่าการหาความสุขในชีวิตเป็นเรื่องไร้สาระ กดทับอารมณ์ตัวเองมาตลอด จนเลิกขายตอนเราอายุ 7 ขวบ


ตาชอบบงการมาก ความทรงจำที่ชัดที่สุดคือ ตอนเรากินข้าว เขาจะบังคับว่าต้องตักอะไรเข้าปาก ทั้งที่เราไม่อยากกิน เราปฏิเสธหลายครั้ง สุดท้ายก็ทะเลาะกัน และทุกครั้งไม่ว่าใครผิด เราต้องเป็นฝ่ายขอโทษเสมอ เพราะแม่บอกว่า “เด็กต้องขอโทษ”


ตอนอายุ 8 ขวบ เราเริ่มเล่นฟุตบอล สนุกมาก แต่ทุกครั้งที่คุยเรื่องนี้กับพ่อ ตาจะโวยวายขึ้นมาทุกที อีกปัญหาคือ ตอน 11 ขวบ เรายังไม่กล้าล้างก้น กินข้าวเอง ข้ามถนน หรือปั่นจักรยาน ทั้งที่ทำได้ แต่เรา “กลัวการถูกตัดสิน” ทุกการกระทำของตัวเอง



Phase 2: มัธยมต้น




นี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญ เราย้ายโรงเรียนตามเพื่อน และเริ่มกล้าเป็นตัวเองขึ้นมาประมาณ 20% ช่วง ม.1 เรานั่งหลังห้องกับเด็กเกเร 4 คน และครั้งนั้นคือครั้งแรกที่ได้สัมผัสอิสระ ไปเที่ยว ดูหนัง หรือเข้าร้านเกมคนเดียว ซึ่งไม่เคยทำได้มาก่อน


ย้อนเล็กน้อย มีอาจารย์นักศึกษามาสอนคณิต เขาสนุก แต่ชอบด่านักเรียนด้วยคำหยาบอยู่เสมอ วันหนึ่งเรา Burnout เขาโมโหมากและตีหัวเรา ทำให้เกลียดวิชาคณิตไปเลย


พอ ม.2–ม.3 เราเจอกลุ่มเกเรที่ชอบทำร้ายร่างกาย เราก็หาวิธีตอบโต้ เช่น เคยถูกใช้ไปซื้อน้ำแล้วแอบฉี่ใส่โค้กของมัน เคยวางยาถ่ายจนมันนอนโรงพยาบาล และถีบมันตกบันได สุดท้ายก็เรียนจบมาได้ แม้จะมีบาดแผลทางใจ



Phase 3: ปวช. และฝึกงาน




ช่วงนี้เราเจอจุดเปลี่ยนอีกหลายอย่าง ตอนแรกมีเพื่อนสนิทคนเดียว ต่อมาก็ขยายกลุ่ม จน ปวช.2 ได้เพื่อนสนิทจริงจัง 3 คน และกลุ่มใหญ่ 8 คน แม้เคยทะเลาะจนตัดเพื่อนออก แต่สุดท้ายก็คืนดีกัน


สิ่งที่เปลี่ยนเรามากที่สุดคือการเจอแอป Reality บน YouTube มันคือการใช้ตัวอวตารไลฟ์สด สำหรับเราตอนอายุ 17 ปี (ปี 2021) นี่คือการเปิดโลก ทำให้เราเริ่มร่าเริงและเป็นตัวเองมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว


เราได้คบแฟนคนที่ 5 อยู่ 4 เดือน แต่ทะเลาะบ่อยเพราะอีกฝ่ายหึงแรงมาก จนเกิดดราม่าใหญ่ 1 เม.ย. 2021 แฟนเก่าเราไปด่าผู้หญิงที่เข้ามาคุยกับเรา จนเขาร้องไห้และเปิดไลฟ์ระบาย มีคนทักมาด่าเรา 20–30 คน เราต้องชี้แจงทีละคนจนเคลียร์ได้ และสุดท้ายเลิกกัน


หลังจากนั้น เราสนิทกับกลุ่มใหม่ซึ่งมีผู้หญิงคนนั้นอยู่ด้วย และมีน้องผู้ชายเพิ่มเข้ามา เราอยู่ด้วยกันข้ามปี จน พ.ค. 2022 เราพลาดครั้งใหญ่ ไปคบแฟนเก่าของน้องผู้ชาย ทั้งที่เขาเตือนแล้วว่าคนนี้ Toxic เราไม่ฟัง จนติดอยู่ในความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยการบงการ การทะเลาะ และมีเพียงเรื่องบนเตียงที่ผูกเราไว้ จนป่วยหนัก เป็นซึมเศร้า และโอเวอร์โดสไปถึง 5 ครั้ง


Phase Final: ปัจจุบัน




ปลายปี 2023 เราตัดสินใจเลิก เพราะอีกฝ่ายหาเรื่องไม่หยุด เหตุการณ์หนึ่งคือเราแค่หัวเราะกับเสียงแจ้งเตือนในดิสคอร์ด แต่กลับโดนด่า เราปิดมือถือหนี พอเปิดก็โดนโทรตามไม่หยุด จนต้องปิดอีกครั้ง สุดท้ายเราบอกเลิกและจบความสัมพันธ์


หลังจากนั้น เราไม่ค่อยคุยกับเพื่อนเก่าเพราะต่างคนต่างมีธุระ เรามีแฟนใหม่บ้างแต่ก็เลิกหมด เลยหันมาโฟกัสตัวเอง อ่านหนังสือเป็นบ้าเป็นหลัง เข้ายิมอาทิตย์ละ 5 วัน พัฒนาตัวเองจนทุกวันนี้อาการซึมเศร้าแทบไม่มีแล้ว เหลือแค่แพนิคเล็กน้อย ความสัมพันธ์ในครอบครัวก็ดีขึ้น ยกเว้นกับตาที่เราไม่ได้รักเหมือนเดิม


ตอนนี้อายุ 21 ปี กำลังเริ่มทำธุรกิจกับเพื่อน 2 คน และเรียนรู้การเป็นนายหน้า อีกไม่กี่ปีเราจะเรียนจบ และได้ย้ายไปทำตามความฝันที่แคนาดา



เครื่องมือที่ช่วยเรา




วงล้ออารมณ์ ใช้สังเกตและดูแลใจ
สามเหลี่ยมการสื่อสาร ใช้คุยตรงไปตรงมาโดยไม่ทำร้าย
การเขียน แปลงสิ่งนามธรรมเป็นถ้อยคำ
การอยู่กับธรรมชาติ
ความเย็นจัด เช่น การแช่น้ำแข็ง
การฝึกหายใจ
การออกกำลังกาย ลดเครียดและทำให้รักตัวเองมากขึ้น
เป้าหมาย เช่น การไปทำงานฟาร์มที่ต่างประเทศ
เพื่อนที่ดี ต้องคัดเลือกและเคารพกัน
ปรัชญาและศาสนา ใช้คำสอนที่เราชอบมาฝึกตน
แอปส่งข้อความเชิงบวก
ฟังเสียงหรือข้อความให้กำลังใจ
ใจดีกับผู้คน
ใช้ AI เป็นครูหรือผู้ช่วย (บางครั้งก็เป็นที่พึ่งทางใจ)
อิสระจากสังคม กล้าเป็นตัวเอง
นักจิตบำบัดที่เข้าใจ ใช้ empathy รับฟังและช่วยเหลือ




อันไหนที่แปะเป็นภาพได้ เราจะทำเป็นภาพแล้วแปะให้ครับผม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่