ปัญหาครอบครัวแบบนี้ควรหยุดนิ่งหรือแก้ไข

กระทู้สนทนา
สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปค่ะปกติเข้ามาอ่านอย่างเดียวไม่ได้ตั้งกระทู้ครั้งนี้เป็นครั้งแรกอยากจะระบายค่ะ
เรื่องมันมีอยู่ว่เมื่อ 39 ปีที่แล้วแม่ได้มาแต่งงานอยู่กินกับพ่อแม่ย้ายเข้ามาอยู่บ้านพ่อได้เพียงปีเดียวแม่ก็ตั้งท้องพี่สาวค่ะปู่เห็นว่ามันเริ่มแออัดเลยแยกบ้านให้พ่อเพราะปู่มีลูกทั้งหมด 8 คน พ่อออกเรือนคนแรกปู่เลยสร้างบ้านให้ค่ะ ด้วยความที่ออกเรือนคนแรกพี่ๆน้องๆพ่อก็เริ่มอิจฉากัน ต่างพากันต่อต้านแม่อ้างว่าแม่มาจากครอบครัวคนจนบ้าง ยุสารพัดเรื่อง บอกแม่ว่าพ่อขี้เกียจบ้าง จนบัดนี้ล่วงเลยมาพี่สาวอายุปาเข้าไป38ปีแล้วค่ะ พวกพี่ๆน้องพ่อก็ก็ยังไม่ชอบครอบครัวเราอยู่เหมือนเดิมค่ะแต่ในความไม่ชอบพวกป้าและอาๆก้อยังรักษาความเป็นพี่เป็นน้องกับพ่อไว้อยู่ แต่ระยะหลังๆ ดูเหมือนว่าพวกเค้าจะเริ่มรุนแรงขึ้นทุกวัน ต้องเท้าความไปถึง ครอบครัวพ่อมีพี่น้องแปดคนพ่อเป็นคนที่ 2 ค่ะ ส่วนครอบครัวแม่มีพี่น้องทั้งหมด 5 คนค่ะ ครอบครัวพ่อทำไร่ทำสวนทำกันทั้งปีค่ะปู่เลยมีเงินเก็บ ส่วนครอบครัวแม่ตาดิชี้นตายจากไปตั้งแต่แม่ยังเล็กๆยายเลยเลี้ยงดูลูกๆตามอัตภาพ รับจ้างเล็กๆน้อยๆ ส่วนที่ทางก้อมีแค่ที่ตรงบ้านชึ่งมีไม่มาก เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้ครอบครัวพ่อไม่ค่อยชอบแม่สักเท่าไหร่ในตอนแรกๆ ชึ่งดิชั้นกับพี่สาวต่างทราบดีว่าป้าและอาๆไม่ชอบครอบครัวเราเท่าไหร่ เวลากลับบ้านนอกทีป้าก็จะคอยพูดกับดิชั้นตลอดว่า "พ่ออ่ะขี้เกียจพอว่างปุ๊บก็เอาแต่นอน สันหลังยาว","แม่อ่ะปากดีรู้ทุกเรื่องนี่ขนาดไม่ได้เรียนหนังสือนะ ยังรู้ดีทุกเรื่องถ้าเรียนแม่คงเป็น ดร."นี่คือคำพูดของป้าที่ดิชั้นได้ยินมาตั้งแต่ดิชั้นเด็กๆเลยค่ะ พ่อดิชั้นเลี้ยงวัวค่ะเลี้ยงตั้งแต่พ่อแต่งงานกับแม่เลยปู่ชื้อให้ 1 ตัว ตัวเมียค่ะ พ่ออาศัยพามันไปขอผสมพันธ์กับเพื่อนบ้านบ้าง จนขยายพันธ์สืบลูกหลานมาถึงทุกวันนี้ 70 กว่าตัวค่ะ ชึ่งดิชั้นมองว่าพ่อดิชั้นเก่งมากเพราะเลี้ยงวัวเหนื่อยมาก ร้อน ไล่ต้อนวัวไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ส่วนแม่ เป็นแม่บ้านคะรับจ้างดูแลบ้านสวนให้กับคนที่อยู่กรุงเทพฯที่เค้ามาชื้อสวนทิ้งไว้ได้เงินเดือนๆนึงแกเก็บอย่างเดียวค่ะ เพราะแกมีอาชีพเสริมของแกคือปลูกผักปลอดสาร เลี้ยงกบเลี้ยงปลาดุกขายในหมู่บ้านค่ะได้เงินจากตรงนี้เอามาใช้จ่ายในบ้าน ชื้อกับข้าวกับปลาจุนเจืองคนในครอบครัว ใช้เงินส่วนนี้ส่งเสียให้ดิชั้นเรียน มีส่วนไหนจำเป็นต้องใช้เงินมากๆพ่อจะขายวัวค่ะแกขายของกะทุกปี ทะยอยขายนี่ถ้าแกไม่ขายแกคงมีวัวมากกว่า200ตัวแน่นอนค่ะ การดำรงชีวิตของครอบครัวเราเลยแตกต่างจากญาติพี่น้องของพ่อค่ะ เรื่องราวของพ่อ-แม่ กับพี่น้องพ่อดำเนินมาเรื่อยๆส่วนมากเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆค่ะ แต่ก่อนเวลาเค้าต่อว่าแม่ดิชั้นแม่ก้อจะโกรธค่ะแต่แกโกรธของแกแป๊ปเดียว พ่อกับดิชั้นจะคอยเตือนตลอดเพราะพ่อกับดิชั้นมีความคิดเหมือนกันคือ คนเราถ้าได้ลองเกลียดกันแล้วต่อให้ทำดีชักเท่าไหร่ก็ไม่มีทางที่จะทำให้เค้านิยมชมชอบสนิทใจค่ะ แต่สำหรับความคิดแม่ กลับกันกับความคิดของเราพ่อลูกมาก มีเหตุการณ์ล่าสุดเลยตอนที่ดีๆกัน(ดีแค่บางทีเท่านั้นค่ะ)อาคนสุดท้องแกขายขนมถังทอง(ขนมถังแตก)แกต้องใช้มะพร้าวขูดจำนวณมากเพื่อเอาไปขายตามตลาดนัดค่ะ แม่เห็นว่าไม่มีคนช่วยแกเลยไปช่วยขูดมะพร้าวเป็นสิบๆลูกเลยค่ะดิชั้นห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ฟังเพราะแม่มีแผลผ่าตัดพังผืดที่มือข้างขวา แม่ยืนยันคำเดิมว่าถ้าเราเชื่อว่าเราทำดีเราต้องทำสักวันเบื้องบนต้องรู้และเห็นใจ ดิชั้นได้ยินแล้วก็ไม่อยากพูดอะไรต่อเลยปล่อยแกไป พอขูดมะพร้าว ช่วยทำฝอยทอง อาคนที่ว่าก็เริ่มจากบทสนทนาตั้งแตอดีตพยายามดึงแม่เข้าไปเกี่ยวข้องแล้วโยนมาให้ว่าเป็นความผิดของแม่ ชึ่งแม่กลับมาบ้านก็ต้องมานั่งร้องไห้เสียใจ เจ็บใจที่เถียงอาเท่าไหร่ไม่เคยชนะ และแน่นอนดิชั้นต้องต่อว่าแม่แน่นอนเพราะแม่ไม่ฟังดิชั้นตั้งแรดค่ะ แต่สิ่งที่ดิชั้นได้ยินกลับมาคือ "นางร้ายในละครยังกลับตัวกลับใจได้แม่คิดว่าสักวันเค้าก็จะคิดได้เช่นกัน" ดิชั้นเดินหนีเลยค่ะ หนีไปร้องไห้ สงสารแม่ ทำไมความคิดแม่ช่างเป็นนางเอกเช่นนี้ หลังๆมาน้องพ่อชึงมีอยู่คนนึงเห็นว่าเรื่องนี้ควรจะหันหน้าเข้าหากันเพื่อให้เกียรติกันและให้เกียรติพ่อเนื่องจากแม่และป้า-อาทะเลาะกันถึงขึ้นตัดขาดกันเลย พ่อเองได้แต่บอกแม่ว่าชั่งเขาเถอะ ส่วนดิชั้นไม่ต้องการให้เครียร์ค่ะ สาเหตุ เรื่องต่อหลายเรื่องที่พวกเขาขุดขึ้นมาล้วนแล้วแต่สาเหตุเดิมคือไม่ชอบแม่ของดิชั้นตั้งแต่แรก ส่วนเรื่องให้เกียรติพ่อ พวกน้องๆคงไม่ให้เกียรติพ่อตั้งแต่แรกค่ะเพราะถ้าให้เกียรติกันบางเรื่องควรงดเว้นไม่ใช่จับผิดค่ะ เราคิดว่าเราอยู่ได้และต่อๆไปพ่อและแม่จะไม่ต้องได้ฟังเรื่องที่ทำให้ตัวเองคิดว่าเป็นความผิดของตัวเองอีก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่