ข้อแรกยังเห็นมีเด็กๆชอบหาทำกันอยู่ โดยเฉพาะงานแบบพาร์ทไทม์
งานระดับเริ่มต้นที่คนรุ่นก่อนๆ เคยยอมรับได้ และสมัครใจทำมันมายาวนานแบบไม่เกี่ยงงาน แต่พอมาถึงยุคนี้อาชีพเหล่านั้นกำลังถูกปฏิเสธโดยวัยทำงานรุ่น Gen Z (เกิดในระหว่างปี พ.ศ. 2538 - 2555 หรือมีอายุราวๆ 13-29 ปี) เพราะพวกเขาไม่ต้องการงานที่ค่าจ้างต่ำ ชั่วโมงทำงานเข้มงวด และไม่มีความยืดหยุ่น
อบิเกล ไรต์ (Abigail Wright) ที่ปรึกษาธุรกิจอาวุโสจาก ChamberofCommerce.org อธิบายว่า คนรุ่นใหม่นี้มองคำว่า “งาน” แตกต่างไปจากคนรุ่นก่อน
ข้อมูลจากการสำรวจของ Gallup พบว่า มีเพียง 31% ของแรงงานอเมริกันที่ “รู้สึกมีส่วนร่วมกับงาน” ซึ่งถือว่าต่ำสุดในรอบ 10 ปี และวัยทำงานกลุ่มอายุต่ำกว่า 35 ปี คือกลุ่มที่ความผูกพันกับงานลดลงมากที่สุด Gen Z จึงอาจเป็นรุ่นที่เลือกปฏิเสธงานที่คนรุ่นก่อนเคยยอมรับเป็น “ทางผ่าน” ของอาชีพ
ทั้งนี้ ไรต์ ระบุว่าอาชีพที่ Gen Z เมินมากที่สุด มักเป็นงานกลุ่มใช้แรงงาน และงานบริการลูกค้า ได้แก่
1. งานร้านค้าและร้านอาหาร
2. งานคอลเซ็นเตอร์และฝ่ายบริการลูกค้า
3. งานคลังสินค้าและใช้แรงงาน
4. งานออฟฟิศแบบเข้มงวดตาราง 9-to-5
5. งานขายที่รายได้ขึ้นกับค่าคอมมิชชั่นเพียงอย่างเดียว
นอกจากนี้ ยังรวมถึง "การฝึกงานแบบไม่จ่ายเงิน" อีกด้วย ส่วนสาเหตุที่ทำให้อาชีพและการฝึกงานข้างต้น ไม่เป็นที่ต้องการของคนรุ่นใหม่ ก็เพราะว่าเป็นงานที่ถูกมองว่า ค่าจ้างต่ำ ใช้งานหนัก และขาดศักดิ์ศรี หลายตำแหน่งยังเสี่ยงต่อการหมดไฟและสร้างภาระให้กับร่างกายมากเกินไป ทำให้ Gen Z ไม่รีบคว้าโอกาสงานเหล่านี้เหมือนรุ่นก่อน
ไรต์สรุปชัดว่า “Gen Z กำลังนิยามใหม่ว่า ‘งานดี’ หมายถึงอะไร หลายตำแหน่งที่คนรุ่นมิลเลนเนียลหรือ Gen X ยอมทนทำงานแลกเงิน แต่วันนี้มันกลับเป็นงานที่ถูกเรียกออกมาตรงๆ ว่า ค่าตอบแทนไม่ยุติธรรม ใช้งานหนักเกินไป และบั่นทอนจิตใจ”
อ่านต่อ:
https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/1200030
5 งานยอดแย่ในสายตา Gen Z ค่าจ้างต่ำ ใช้งานหนัก บั่นทอนจิตใจไร้ศักดิ์ศรี
งานระดับเริ่มต้นที่คนรุ่นก่อนๆ เคยยอมรับได้ และสมัครใจทำมันมายาวนานแบบไม่เกี่ยงงาน แต่พอมาถึงยุคนี้อาชีพเหล่านั้นกำลังถูกปฏิเสธโดยวัยทำงานรุ่น Gen Z (เกิดในระหว่างปี พ.ศ. 2538 - 2555 หรือมีอายุราวๆ 13-29 ปี) เพราะพวกเขาไม่ต้องการงานที่ค่าจ้างต่ำ ชั่วโมงทำงานเข้มงวด และไม่มีความยืดหยุ่น
อบิเกล ไรต์ (Abigail Wright) ที่ปรึกษาธุรกิจอาวุโสจาก ChamberofCommerce.org อธิบายว่า คนรุ่นใหม่นี้มองคำว่า “งาน” แตกต่างไปจากคนรุ่นก่อน
ข้อมูลจากการสำรวจของ Gallup พบว่า มีเพียง 31% ของแรงงานอเมริกันที่ “รู้สึกมีส่วนร่วมกับงาน” ซึ่งถือว่าต่ำสุดในรอบ 10 ปี และวัยทำงานกลุ่มอายุต่ำกว่า 35 ปี คือกลุ่มที่ความผูกพันกับงานลดลงมากที่สุด Gen Z จึงอาจเป็นรุ่นที่เลือกปฏิเสธงานที่คนรุ่นก่อนเคยยอมรับเป็น “ทางผ่าน” ของอาชีพ
ทั้งนี้ ไรต์ ระบุว่าอาชีพที่ Gen Z เมินมากที่สุด มักเป็นงานกลุ่มใช้แรงงาน และงานบริการลูกค้า ได้แก่
1. งานร้านค้าและร้านอาหาร
2. งานคอลเซ็นเตอร์และฝ่ายบริการลูกค้า
3. งานคลังสินค้าและใช้แรงงาน
4. งานออฟฟิศแบบเข้มงวดตาราง 9-to-5
5. งานขายที่รายได้ขึ้นกับค่าคอมมิชชั่นเพียงอย่างเดียว
นอกจากนี้ ยังรวมถึง "การฝึกงานแบบไม่จ่ายเงิน" อีกด้วย ส่วนสาเหตุที่ทำให้อาชีพและการฝึกงานข้างต้น ไม่เป็นที่ต้องการของคนรุ่นใหม่ ก็เพราะว่าเป็นงานที่ถูกมองว่า ค่าจ้างต่ำ ใช้งานหนัก และขาดศักดิ์ศรี หลายตำแหน่งยังเสี่ยงต่อการหมดไฟและสร้างภาระให้กับร่างกายมากเกินไป ทำให้ Gen Z ไม่รีบคว้าโอกาสงานเหล่านี้เหมือนรุ่นก่อน
ไรต์สรุปชัดว่า “Gen Z กำลังนิยามใหม่ว่า ‘งานดี’ หมายถึงอะไร หลายตำแหน่งที่คนรุ่นมิลเลนเนียลหรือ Gen X ยอมทนทำงานแลกเงิน แต่วันนี้มันกลับเป็นงานที่ถูกเรียกออกมาตรงๆ ว่า ค่าตอบแทนไม่ยุติธรรม ใช้งานหนักเกินไป และบั่นทอนจิตใจ”
อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/1200030