====ปัญหาการตีความมาตรา 132 ของวุฒิสภาในสถานการณ์ปัจจุบัน====

เป็นโพสต์ของผมเกี่ยวกับแถลงการณ์ของสภาทนายความ ฉบับที่ 12/2557 นะครับ
http://www.lawyerscouncil.or.th/?name=news&file=readnews&id=150

เรียนสภาทนายความ

ตามความในรัฐธรรมนูญมาตรา 132
ในระหว่างที่อายุของสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง หรือสภาผู้แทนราษฎรถูกยุบ จะมีการประชุมวุฒิสภามิได้ เว้นแต่เป็นกรณีดังต่อไปนี้
(2) การประชุมที่ให้วุฒิสภาทำหน้าที่พิจารณาให้บุคคลดำรงตำแหน่งใดตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้


คำว่า "ทำหน้าที่ให้บุคคลดำรงตำแหน่งใดตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้" มิได้หมายถึงการที่วุฒิสภามีอำนาจเปิดประชุมเพื่อพิจารณาบุคคลใดๆ เพื่อดำรงตำแหน่งใดที่ "ปรากฏ" ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้

แต่คำว่า "ทำหน้าที่ (ให้บุคคลดำรงตำแหน่งใด) ตามบทบัญญัตินี้" (การใส่วงเล็บดังกล่าวเพื่อการอธิบายความที่ชัดเจน - ผู้เขียน) คำว่า "หน้าที่ตามบทบัญญัตินี้" ดังกล่าว หมายถึงหน้าที่ "ดั้งเดิม" ของวุฒิสภาเองตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ อันเกี่ยวกับการให้บุคคลดำรงตำแหน่ง เช่น การเสนอบุคคลผู้ได้รับการดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดิน กรรมการปปช. เป็นต้น ในกรณีเช่นนี้ รัฐธรรมนูญมาตรา 132 ให้อำนาจวุฒิสภาสามารถเปิดประชุมเพื่อทำหน้าที่ดังกล่าวได้ แม้ในกรณีที่สภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลงหรือถูกยุบก็ตาม

การตีความเกี่ยวกับ "หน้าที่" ของวุฒิสภาตามบทบัญญัติดังกล่าว ประกอบกับการเทียบเคียงว่านายกรัฐมนตรีเป็น "ตำแหน่งในรัฐธรรมนูญ" จึงทำให้วุฒิสภาพิจารณาเรื่องดังกล่าวได้ โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่าเป็นการตีความที่ใช้ไม่ได้อย่างยิ่ง เนื่องด้วยแย้งกันในลายลักษณ์อักษร อีกทั้งขัดกับเจตนารมณ์ของบทบัญญัติดังกล่าวอย่างสิ้นเชิง

ด้วยความเคารพอย่างสูง

เพิ่มอ้างอิง หน้าที่ของวุฒิสภา: การพิจารณาให้บุคคลดำรงตำแหน่ง
http://www.senate.go.th/main/senate/unit04.php

ส่วนตัวแล้วก็ยังยืนยันว่า จะมาตรา 7 หรือมาตรา 132(2) ก็ไม่สามารถตั้ง "นายกคนกลาง" ได้ เพราะ มาตรา 7 ต้องเป็นกรณีที่ "ไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับแก่กรณีใด" ซึ่งการได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรี มีบทบัญญัติไว้ในหมวด 7 คณะรัฐมนตรีครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่