คือ วันนี้ ผมไปเวียนเทียนมาครับ ผมมีคำถามหลายอย่างที่ไม่เข้าใจ
ต้องออกตัวก่อน ผมอายุ 17 ปีนี้ต้องเข้ามหาลัย ก็เลยมีความรู้สดใหม่ใสปิ๊งที่พึ่งไปเรียนมา
ซึ่ง มันทำให้ผม สงสัยมาก เพราะเรื่องที่เรียน กับ สิ่งที่เราได้รับการปลูกฝัง มันขัดแย้งกัน
เอาละครับ เริ่มกันเลยดีกว่า
ในตอนแรกที่ ผมไปเวียนเทียน เราก็ต้องนั่งสวด คำสวดก่อนใช่ไหมครับ ทั้ง บทบูชารัตนไตร และอื่นๆ ผมต้องขอโทษด้วยที่จำไม่ได้เพราะมันเยอะมาก 55 5 55 แต่ที่ผมสงสัยคือ "คำนำถวายดอกไม้ธูปเทียน"
"เราทั้งหลายถึงซึ่งพระผู้มีพระภาคพระองค์ใดว่าเป็นที่พึ่ง, พระผู้มีพระภาคพระองค์ใดเป็นศาสดาของเราทั้งหลาย แลเราทั้งหลายชอบซึ่งธรรมของพระผู้มีพระภาคพระองค์ใด, พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นแล ได้อุบัติแล้วในหมู่มนุษย์ ชาวอริยกะในมัชฌิมชนบท, พระองค์เป็นกษัตริย์โดยพระชาติ เป็นโคดมโดยพระโคตร, เป็นศากยบุตรเสด็จออกบรรพชาแล้วแต่ศากยสกุล เป็นผู้ตรัสรู้พร้อมเฉพาะแล้วซึ่งพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ในโลกทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมู่สัตว์ทั้งสมณพราหมณ์เทวดาแลมนุษย์ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้นเป็นพระอรหันต์ เป็นผู้ตรัสรู้ชอบเอง เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว เป็นผู้รู้แจ้งโลก เป็นสารถีแห่งบุรุษควรฝึกได้ ไม่มีผู้อื่นยิ่งไปกว่า เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้ตื่นแล้ว เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้มีโชค โดยไม่ต้องสงสัยแล อนึ่ง พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคเจ้านั้นตรัสดีแล้ว อันผู้บรรลุจะพึงเห็นเอง ไม่ประกอบด้วยกาล ควรเรียกให้มาดู ควรน้อมเข้ามา อันวิญญูชนพึงรู้เฉพาะตน และพระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ปฏิบัติดีแล้วแล เป็นผู้ปฏิบัติตรงแล้ว เป็นผู้ปฏิบัติเป็นธรรม, เป็นผู้ปฏิบัติสมควร, นี้คือคู่แห่งบุรุษสี่ บุรุษบุคคลแปด, นี่พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาค, เป็นผู้ควรของคำนับ เป็นผู้ควรของต้อนรับ เป็นผู้ควรของทำบุญ เป็นผู้ควรทำอัญชลี (ประนมมือไหว้) เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า
พระสถูป
พระปฏิมา นี้แล
นักปราชญ์ ได้อุทิศเฉพาะต่อพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น สร้างไว้แล้วเพียงเพื่อระลึกถึงพระผู้มีพระภาคเจ้านั้นด้วยทรรศนะแล้ว ได้ความเลื่อมใสแลสังเวช บัดนี้เราทั้งหลายมาถึง กาลวิสาขปุรณมี เป็นที่รู้กันว่า กาลเป็นที่ประสูติ ตรัสรู้ แลเสด็จปรินิพพานแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น (ถ้าวันอัฏฐมี เปลี่ยน ข้อความที่ขีดเส้นใต้ เป็น กาลที่ครบ ๘ เบื้องหน้าแต่วันวิสาขปุรณมี เป็นที่รู้กันว่า กาลเป็นที่ถวายพระเพลิงพระสรีระ แห่งพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น) จึงมาประชุมกันแล้ว ณ ที่นี้ ถือสักการะมีประทีปด้ามแลธูปเป็นต้นเหล่านี้ ทำกายของตนให้เป็นดังภาชนะรับเครื่องสักการะ ระลึกถึงพระคุณตามเป็นจริงทั้งหลายของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น บูชาด้วยสักการะอันถือไว้แล้วอย่างไรจักทำประทักษิณสิ้นวาระสามรอบ ซึ่ง
พระสถูป
พระปฏิมากร นี้ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ขอเชิญพระผู้มีพระภาคเจ้าแม้เสด็จปรินิพพานนานมาแล้ว ยังปรากฏอยู่ด้วยพระคุณสมบัติอันข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย จะพึงรู้โดยความเป็นอตีตารมณ์ จงทรงรับซึ่งเครื่องสักการะอันข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายถือไว้แล้วนี้ เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายสิ้นกาลนาน เทอญ"
(อ้างอิง :
http://th.wikisource.org/wiki/%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B8%96%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%98%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%9A%E0%B8%B9%E0%B8%8A%E0%B8%B2 )
ผมไม่เข้าใจตรงช่วงท้ายที่กล่าวว่า
"เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายสิ้นกาลนาน เทอญ"
ซึ่งในทุกบทขอคำถวาย มักจบด้วยคำนี้ ตามความเข้าใจของผม หมายถึงว่า
เราบูชาเพื่อประโยชน์ และความสุขของตัวเรา ตลอดกาล และตลอดไป
ซึ่งมันหมายถึงว่า ที่ผม ทำนี้คือ ทำเพื่อตัวเอง ถูกไหมครับ ??
เพราะ คำกล่าว สุดท้าย บ่งบอกถึงเจตนาของเรา ว่าเรา ทำไปทำไม
นั้นคือคำถามข้อแรกนะครับ ^^
[สำหรับคำถามข้อแรก ผมได้คำตอบหลังไมค์แล้วนะครับขออนุญาติแชร์]
[ส่วนใหญ่ที่กล่าวถึงจะเป็นคำแต่งใหม่ แต่ก็มีบทนี้ที่เอาคำของพระศาสดามาร้อยเรียง ปนลูกผสมอยู่ ปะหัวต่อท้าย งงเหมือนกัน
มีแต่ช่วงนี้ที่ฟันธงให้ว่าเป็นคำของพระศาสดา คือ
..พระผู้มีพระภาคเจ้านั้นเป็นพระอรหันต์ เป็นผู้ตรัสรู้ชอบเอง เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว เป็นผู้รู้แจ้งโลก เป็นสารถีแห่งบุรุษควรฝึกได้ ไม่มีผู้อื่นยิ่งไปกว่า เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้ตื่นแล้ว เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้มีโชค โดยไม่ต้องสงสัยแล อนึ่ง พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคเจ้านั้นตรัสดีแล้ว อันผู้บรรลุจะพึงเห็นเอง ไม่ประกอบด้วยกาล ควรเรียกให้มาดู ควรน้อมเข้ามา อันวิญญูชนพึงรู้เฉพาะตน และพระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ปฏิบัติดีแล้วแล เป็นผู้ปฏิบัติตรงแล้ว เป็นผู้ปฏิบัติเป็นธรรม, เป็นผู้ปฏิบัติสมควร, นี้คือคู่แห่งบุรุษสี่ บุรุษบุคคลแปด, นี่พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาค, เป็นผู้ควรของคำนับ เป็นผู้ควรของต้อนรับ เป็นผู้ควรของทำบุญ เป็นผู้ควรทำอัญชลี (ประนมมือไหว้) เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า
มีแค่ตอนหัวที่เกือบจะเทียบเคียงกับคำของพระศาสดาได้อยู่นิดๆ
นอกนั้นเป็นคำที่สาวกแต่งใหม่ทั้งนั้นเลย อ่านแล้วปวดหัวมากครับ -*-


ขอบคุณพี่ offserver มากๆครับ ^^ เป็นคำตอบที่ผมกำลังตามหา]
เอาละต่อเลยนะครับ
ในการ เวียนเทียน อ่ะครับ เราต้องจุดธูป จุดเทียน มีดอกบัว ที่ผมสงสัย ไม่ใช่ว่าทำไมต้องมี(ก็สงสัยแหละแต่ไม่ใช่ประเด็นหลัก) แต่ที่ผมเรียนมา เรากำลังพูดถึงควันของ ทั้ง ธูป และเทียน ซึ่งธูป นี้สุดๆ เลยครับ 55 55
หลังจากกลับมาจากวัดและแวะกินบะหมี่หมูแดงไป
ผมก็ลองหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต เกี่ยวกับควันธูป เพราะผมรู้สึกไม่สบายใจเลย ตอนที่เวียนเทียน บอกตามตรง ประมาณรอบที่ 2 ผมมีอาการ คล้าย จะหน้ามืดเหมือนสมัย ยืนทำพิธี รด รู้สึก ฉุนกลิ่น ทั้งน้ำหอมและ กลิ่มธูป จนผมต้องเดินออกมาวงนอกสุด เพื่อสูดอากาศ
พอดี วันนี้ ผมพึ่งปิดคอร์สเคมีของ อาจารย์ชื่อดังไป การเผาไหม้ของธูป ต้องใช้ O2 ถูกไหมครับ ทั้งธูปและเทียน และ เมื่อเผาไหม้เสร็จก็จะให้ CO2 หรือ CO ก็อาจจะเกิดขึ้นทั้ง 2 กรณี ซึ่งผม ก็นั่งเทียน คิดเองว่า ผมคงได้รับ อากาศบริสุทธิ์ น้อยไป นั้นคือสาเหตุของคำถามข้อที่สอง
สิ่งที่เรากำลังทำ เราทำเพื่อประโยชน์ของตน (จากข้อ1) แต่มันจะเป็นการสร้าง มลพิษทางอากาศมหาศาล ผมอาจจะทำให้ Hb ในเลือดของ คนที่มาเวียนเทียน จับตัวกับ CO ที่ปล่อยมาจากธูปของผม เท่ากับว่าผมทำร้ายเขาและ ซึ่งผิดศิลข้อ 1 ไปแบบเต็มๆ งั้นแสดงว่าที่ผมทำก็เห็นแก่ตัวนะสิ เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ถึงขนาด ทำให้ผู้อื่นมีโอกาส เสียชีวิตได้เลยนะเอ้อ!!!
แล้วแบบนี้ ที่ผมทำไปผมทำถูกไหมครับ ? เพราะหน้าที่ชาวพุทธ ที่ผู้ใหญ่สอนมาคือ เมื่อวันวิสาข ต้องเข้าวัดเวียนเทียน มันขัดกันแปลกๆ??
พิษร้ายควันธูป
http://www.manager.co.th/QOL/viewnews.aspx?NewsID=9570000011231
มหาภัยควันธูป
http://www.stou.ac.th/study/sumrit/2-56/page4-2-56.html
ควันธูป ภัยใกล้ตัว
www.nstda.or.th/sci2pub/thaismc/factsheet/hotnews/FS-008.pdf
อันนี้คือข้อมูลในเน็ตคล่าวๆ ที่ไม่รู้ว่าถูกจริงหรือมั่วนิ่มนะครับ แต่....เยอะมากที่บอกว่า ควันธูป อันตรายนะตัวเธอว์!!!!!
เอาละมาถึงคำถามข้อที่ 3
ในตอนท้ายของการเวียนเทียน เราก็เอาธูป เทียน และดอกดไม้เราไป วางไปตรงตำแหน่ง ที่เข้าจัดเตรียมไว้ให้ (ข้ออภัยนะครับ ผมไม่ทราบจริงๆว่าเขาเรียกว่าอะไร) คำถามนี้ง่ายๆสั้นๆ ครับ
คือ ตอนเราวางธูป เนี้ย เราต้องปักลงบนกระถางธูป ถูกไหมครับ และคนที่มาเวียนเทียนก็ไม่ใช่หลักหน่วย แต่มากันเป็นสิบ อาจถึงร้อยในบางที่ ทุกคนอาจจะเคยหรือไม่เคยประสบกับการวางธูป ยาก !!!! เพราะ คนที่วางก่อนหน้าเรา ธูปของเขาจะเหมือน แหนมแหลมปลายร้อนที่ค่อย ทิ่งแทง แขนเรา ถ้าพี่ๆ เคยประสบก็ จะเข้าใจครับ ผมไม่รู้จะอธิบายยังไง 55 55 แต่เอาเป็นว่า
ถ้าผมไปปักคนแรก ธูป ของผม ก็จะคอยทิ่มแทง แขนของคนอื่น หรือทำให้ คนอื่นรำบากมากขึ้นในการวางธูป ซึ่งก็จะโยงไปที่ ศีลข้อ 1 อกีแล้วว วันนี้ ผมมีไอเดียนี้ขึ้นมา ผมก็เลย.......
เอาหัวส่วนที่เป็นไฟ จิ้มลงไปแทน........ผมทำผิดไหมครับแบบนี้ แล้วจะถือว่าผม เป็นคนไม่รักศาสนา ตาม 3 สิ่งที่เราควรรักไหมอ่ะ ผมค่อนข้างกังวลก็เลยรอให้มันดับ แล้วก็ จับมันปักเหมือนเดิม แต่ดับแล้วนะครับ
อาจมีคำถามในส่วนอื่นๆ อีกมากมาย แต่ ผม อยากเข้าใจทั้ง 3 ข้อที่ผม ถามไป ก่อนนะครับ...
เอ้อๆๆๆ ผมก็เลยไปถาม พ่อ+แม่ ว่า เนี้ย ที่มาเวียนเทียนเนี้ย มันเป็นสิ่งที่ถูกแล้วหรือป่าว ?
แม่ผมก็เลยตอบ มันก็ตอบไม่ได้ บางครั้งสิ่งที่ผู้ใหญ่เขาสอนมาก็ใช่ว่าจะผิด แต่สิ่งที่วิทยาศาสตร์ปัจจุบัน(ในประเทศไทย) ก็ใช่ว่าจะถูก
ผมต้องสอบเข้า มหาลัยปีนี้ ผมหวังว่า ผมคงไม่ได้ไปขัดความเชื่อใคร ผมใช้หลักเหตุผล ที่ได้เรียนมาแล้วเอามาวิเคราะห์(เล็กน้อยตามกำลังสมองของผม 55 5)
ผมไม่รู้ว่าควรจะเชื่อ ความรู้ที่พิสูจน์และถูกสอนให้ใช้เหตุผลดี หรือควรจะเชื่อ ว่าสิ่งที่คนส่วนมากและคนเก่าคนแก่คิดว่านี้คือสิ่งที่ต้องทำดี
ขอบคุณครับ ที่อ่านจนจบ ผมอยากรู้คำตอบจริงๆนะครับ ผมไม่ได้เกลียดศาสนาเลยนะผมแค่อยากเข้าใจมันเหมือนวิทยาศาสตร์ที่มีเหตุผล
ปล.ต้องขออภัย บางคำศัพท์ที่ผมเผลอพิมพ์ไป แต่ผมไม่อยากอ้างหลักการแบบเด็กเนิร์ดติดหนังสือ ก็เลยพยายามพิมพ์เหมือนพูดคุย
ปล2. หวังว่าผมคงไม่ถูกนักสืบพันธิปตามสืบ หรือ ดราม่าลงเว็บจ่าแล้วก็โดนคนทั้งประเทศเกลียดนะครับ ผมคิดหนักจริงๆนะก่อนลงเนี้ยคิดแล้วคิดอีก
*********ขอบคุณความเห็นที่ 4 ที่บอกถึงจุดที่ทำให้ผมไม่ได้คำตอบ*************
ขอโทษครับ ผม มีตัวตนจริงๆ ผมไม่มีเจตนาก่อกวน ในตอนหลังผมเลยบอกว่า ผมต้องขอโทษในคำพูดไม่เหมาะสม ผมเชื่อในศาสนาพุทธ ผมได้รับคำตั้งแต่เด็ก ทั้งสอนให้รักความเป็นไทยมากมาย ผมแค่ต้องการจะหาเหตุผล ผมศรัทรานะ ผมแค่อยากทราบเหตุผล ผมไม่อยากจะต้องเชื่อเพราะความจำไม่ใช่ความเข้าใจ ผู้ใหญ่ก็เคยพูดว่า ศาสนาพุทธคือศาสนาที่มีเหตุผล ซึ่งในคำสอนแก่นของ ศาสนาที่ว่า ทำความดีละเว้นความชั่วนั้นคือ สิ่งที่ผมเชื่อและศรัทรามาก แต่ผมแค่อยากหาเหตุผล
https://www.facebook.com/chitiprat.chonlatee นี้ FB ผม ผมชื่อ ชิติพัทธ์ ชลธี เป็น นร.ม.6 เปิดเทอม วันศุกร์นี้ อยุ่ห้อง 2 จารย์ที่ปรึกษา อ.ชูศักดิ์ ผมกล้าที่จะเปิดเผยว่าผมเป็นใคร เพราะผมมาเพื่อหาคำตอบของคำถาม
ต้องขออภัยจริงๆ นะครับ หากคำพูดดูเหมือนการก่อกวน ผมแค่พยายามให้มันไม่เครียด เพราะมีหลายครั้งที่เด็กแบบผม ต้องการคำตอบจากเรื่องแบบนี้แล้วมาในแนวเครียดๆ และสังคมก็จะ Anti อย่างรุนแรงตลอด ผมไม่ผิดใช่ไหมที่ผมสงสัย :'(
วันวิสาขบูชา ต้องการเหตุผลครับ คำถามที่เด็กอายุ 17 ต้องการคำตอบ
ต้องออกตัวก่อน ผมอายุ 17 ปีนี้ต้องเข้ามหาลัย ก็เลยมีความรู้สดใหม่ใสปิ๊งที่พึ่งไปเรียนมา
ซึ่ง มันทำให้ผม สงสัยมาก เพราะเรื่องที่เรียน กับ สิ่งที่เราได้รับการปลูกฝัง มันขัดแย้งกัน
เอาละครับ เริ่มกันเลยดีกว่า
ในตอนแรกที่ ผมไปเวียนเทียน เราก็ต้องนั่งสวด คำสวดก่อนใช่ไหมครับ ทั้ง บทบูชารัตนไตร และอื่นๆ ผมต้องขอโทษด้วยที่จำไม่ได้เพราะมันเยอะมาก 55 5 55 แต่ที่ผมสงสัยคือ "คำนำถวายดอกไม้ธูปเทียน"
"เราทั้งหลายถึงซึ่งพระผู้มีพระภาคพระองค์ใดว่าเป็นที่พึ่ง, พระผู้มีพระภาคพระองค์ใดเป็นศาสดาของเราทั้งหลาย แลเราทั้งหลายชอบซึ่งธรรมของพระผู้มีพระภาคพระองค์ใด, พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นแล ได้อุบัติแล้วในหมู่มนุษย์ ชาวอริยกะในมัชฌิมชนบท, พระองค์เป็นกษัตริย์โดยพระชาติ เป็นโคดมโดยพระโคตร, เป็นศากยบุตรเสด็จออกบรรพชาแล้วแต่ศากยสกุล เป็นผู้ตรัสรู้พร้อมเฉพาะแล้วซึ่งพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ในโลกทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมู่สัตว์ทั้งสมณพราหมณ์เทวดาแลมนุษย์ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้นเป็นพระอรหันต์ เป็นผู้ตรัสรู้ชอบเอง เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว เป็นผู้รู้แจ้งโลก เป็นสารถีแห่งบุรุษควรฝึกได้ ไม่มีผู้อื่นยิ่งไปกว่า เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้ตื่นแล้ว เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้มีโชค โดยไม่ต้องสงสัยแล อนึ่ง พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคเจ้านั้นตรัสดีแล้ว อันผู้บรรลุจะพึงเห็นเอง ไม่ประกอบด้วยกาล ควรเรียกให้มาดู ควรน้อมเข้ามา อันวิญญูชนพึงรู้เฉพาะตน และพระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ปฏิบัติดีแล้วแล เป็นผู้ปฏิบัติตรงแล้ว เป็นผู้ปฏิบัติเป็นธรรม, เป็นผู้ปฏิบัติสมควร, นี้คือคู่แห่งบุรุษสี่ บุรุษบุคคลแปด, นี่พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาค, เป็นผู้ควรของคำนับ เป็นผู้ควรของต้อนรับ เป็นผู้ควรของทำบุญ เป็นผู้ควรทำอัญชลี (ประนมมือไหว้) เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า
พระสถูป
พระปฏิมา นี้แล
นักปราชญ์ ได้อุทิศเฉพาะต่อพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น สร้างไว้แล้วเพียงเพื่อระลึกถึงพระผู้มีพระภาคเจ้านั้นด้วยทรรศนะแล้ว ได้ความเลื่อมใสแลสังเวช บัดนี้เราทั้งหลายมาถึง กาลวิสาขปุรณมี เป็นที่รู้กันว่า กาลเป็นที่ประสูติ ตรัสรู้ แลเสด็จปรินิพพานแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น (ถ้าวันอัฏฐมี เปลี่ยน ข้อความที่ขีดเส้นใต้ เป็น กาลที่ครบ ๘ เบื้องหน้าแต่วันวิสาขปุรณมี เป็นที่รู้กันว่า กาลเป็นที่ถวายพระเพลิงพระสรีระ แห่งพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น) จึงมาประชุมกันแล้ว ณ ที่นี้ ถือสักการะมีประทีปด้ามแลธูปเป็นต้นเหล่านี้ ทำกายของตนให้เป็นดังภาชนะรับเครื่องสักการะ ระลึกถึงพระคุณตามเป็นจริงทั้งหลายของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น บูชาด้วยสักการะอันถือไว้แล้วอย่างไรจักทำประทักษิณสิ้นวาระสามรอบ ซึ่ง
พระสถูป
พระปฏิมากร นี้ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ขอเชิญพระผู้มีพระภาคเจ้าแม้เสด็จปรินิพพานนานมาแล้ว ยังปรากฏอยู่ด้วยพระคุณสมบัติอันข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย จะพึงรู้โดยความเป็นอตีตารมณ์ จงทรงรับซึ่งเครื่องสักการะอันข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายถือไว้แล้วนี้ เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายสิ้นกาลนาน เทอญ"
(อ้างอิง :http://th.wikisource.org/wiki/%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B8%96%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%98%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%9A%E0%B8%B9%E0%B8%8A%E0%B8%B2 )
ผมไม่เข้าใจตรงช่วงท้ายที่กล่าวว่า
"เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายสิ้นกาลนาน เทอญ"
ซึ่งในทุกบทขอคำถวาย มักจบด้วยคำนี้ ตามความเข้าใจของผม หมายถึงว่า
เราบูชาเพื่อประโยชน์ และความสุขของตัวเรา ตลอดกาล และตลอดไป
ซึ่งมันหมายถึงว่า ที่ผม ทำนี้คือ ทำเพื่อตัวเอง ถูกไหมครับ ??
เพราะ คำกล่าว สุดท้าย บ่งบอกถึงเจตนาของเรา ว่าเรา ทำไปทำไม
นั้นคือคำถามข้อแรกนะครับ ^^
[สำหรับคำถามข้อแรก ผมได้คำตอบหลังไมค์แล้วนะครับขออนุญาติแชร์]
[ส่วนใหญ่ที่กล่าวถึงจะเป็นคำแต่งใหม่ แต่ก็มีบทนี้ที่เอาคำของพระศาสดามาร้อยเรียง ปนลูกผสมอยู่ ปะหัวต่อท้าย งงเหมือนกัน
มีแต่ช่วงนี้ที่ฟันธงให้ว่าเป็นคำของพระศาสดา คือ
..พระผู้มีพระภาคเจ้านั้นเป็นพระอรหันต์ เป็นผู้ตรัสรู้ชอบเอง เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว เป็นผู้รู้แจ้งโลก เป็นสารถีแห่งบุรุษควรฝึกได้ ไม่มีผู้อื่นยิ่งไปกว่า เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้ตื่นแล้ว เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้มีโชค โดยไม่ต้องสงสัยแล อนึ่ง พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคเจ้านั้นตรัสดีแล้ว อันผู้บรรลุจะพึงเห็นเอง ไม่ประกอบด้วยกาล ควรเรียกให้มาดู ควรน้อมเข้ามา อันวิญญูชนพึงรู้เฉพาะตน และพระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ปฏิบัติดีแล้วแล เป็นผู้ปฏิบัติตรงแล้ว เป็นผู้ปฏิบัติเป็นธรรม, เป็นผู้ปฏิบัติสมควร, นี้คือคู่แห่งบุรุษสี่ บุรุษบุคคลแปด, นี่พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาค, เป็นผู้ควรของคำนับ เป็นผู้ควรของต้อนรับ เป็นผู้ควรของทำบุญ เป็นผู้ควรทำอัญชลี (ประนมมือไหว้) เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า
มีแค่ตอนหัวที่เกือบจะเทียบเคียงกับคำของพระศาสดาได้อยู่นิดๆ
นอกนั้นเป็นคำที่สาวกแต่งใหม่ทั้งนั้นเลย อ่านแล้วปวดหัวมากครับ -*-
เอาละต่อเลยนะครับ
ในการ เวียนเทียน อ่ะครับ เราต้องจุดธูป จุดเทียน มีดอกบัว ที่ผมสงสัย ไม่ใช่ว่าทำไมต้องมี(ก็สงสัยแหละแต่ไม่ใช่ประเด็นหลัก) แต่ที่ผมเรียนมา เรากำลังพูดถึงควันของ ทั้ง ธูป และเทียน ซึ่งธูป นี้สุดๆ เลยครับ 55 55
หลังจากกลับมาจากวัดและแวะกินบะหมี่หมูแดงไป
ผมก็ลองหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต เกี่ยวกับควันธูป เพราะผมรู้สึกไม่สบายใจเลย ตอนที่เวียนเทียน บอกตามตรง ประมาณรอบที่ 2 ผมมีอาการ คล้าย จะหน้ามืดเหมือนสมัย ยืนทำพิธี รด รู้สึก ฉุนกลิ่น ทั้งน้ำหอมและ กลิ่มธูป จนผมต้องเดินออกมาวงนอกสุด เพื่อสูดอากาศ
พอดี วันนี้ ผมพึ่งปิดคอร์สเคมีของ อาจารย์ชื่อดังไป การเผาไหม้ของธูป ต้องใช้ O2 ถูกไหมครับ ทั้งธูปและเทียน และ เมื่อเผาไหม้เสร็จก็จะให้ CO2 หรือ CO ก็อาจจะเกิดขึ้นทั้ง 2 กรณี ซึ่งผม ก็นั่งเทียน คิดเองว่า ผมคงได้รับ อากาศบริสุทธิ์ น้อยไป นั้นคือสาเหตุของคำถามข้อที่สอง
สิ่งที่เรากำลังทำ เราทำเพื่อประโยชน์ของตน (จากข้อ1) แต่มันจะเป็นการสร้าง มลพิษทางอากาศมหาศาล ผมอาจจะทำให้ Hb ในเลือดของ คนที่มาเวียนเทียน จับตัวกับ CO ที่ปล่อยมาจากธูปของผม เท่ากับว่าผมทำร้ายเขาและ ซึ่งผิดศิลข้อ 1 ไปแบบเต็มๆ งั้นแสดงว่าที่ผมทำก็เห็นแก่ตัวนะสิ เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ถึงขนาด ทำให้ผู้อื่นมีโอกาส เสียชีวิตได้เลยนะเอ้อ!!!
แล้วแบบนี้ ที่ผมทำไปผมทำถูกไหมครับ ? เพราะหน้าที่ชาวพุทธ ที่ผู้ใหญ่สอนมาคือ เมื่อวันวิสาข ต้องเข้าวัดเวียนเทียน มันขัดกันแปลกๆ??
พิษร้ายควันธูป
http://www.manager.co.th/QOL/viewnews.aspx?NewsID=9570000011231
มหาภัยควันธูป
http://www.stou.ac.th/study/sumrit/2-56/page4-2-56.html
ควันธูป ภัยใกล้ตัว
www.nstda.or.th/sci2pub/thaismc/factsheet/hotnews/FS-008.pdf
อันนี้คือข้อมูลในเน็ตคล่าวๆ ที่ไม่รู้ว่าถูกจริงหรือมั่วนิ่มนะครับ แต่....เยอะมากที่บอกว่า ควันธูป อันตรายนะตัวเธอว์!!!!!
เอาละมาถึงคำถามข้อที่ 3
ในตอนท้ายของการเวียนเทียน เราก็เอาธูป เทียน และดอกดไม้เราไป วางไปตรงตำแหน่ง ที่เข้าจัดเตรียมไว้ให้ (ข้ออภัยนะครับ ผมไม่ทราบจริงๆว่าเขาเรียกว่าอะไร) คำถามนี้ง่ายๆสั้นๆ ครับ
คือ ตอนเราวางธูป เนี้ย เราต้องปักลงบนกระถางธูป ถูกไหมครับ และคนที่มาเวียนเทียนก็ไม่ใช่หลักหน่วย แต่มากันเป็นสิบ อาจถึงร้อยในบางที่ ทุกคนอาจจะเคยหรือไม่เคยประสบกับการวางธูป ยาก !!!! เพราะ คนที่วางก่อนหน้าเรา ธูปของเขาจะเหมือน แหนมแหลมปลายร้อนที่ค่อย ทิ่งแทง แขนเรา ถ้าพี่ๆ เคยประสบก็ จะเข้าใจครับ ผมไม่รู้จะอธิบายยังไง 55 55 แต่เอาเป็นว่า
ถ้าผมไปปักคนแรก ธูป ของผม ก็จะคอยทิ่มแทง แขนของคนอื่น หรือทำให้ คนอื่นรำบากมากขึ้นในการวางธูป ซึ่งก็จะโยงไปที่ ศีลข้อ 1 อกีแล้วว วันนี้ ผมมีไอเดียนี้ขึ้นมา ผมก็เลย.......
เอาหัวส่วนที่เป็นไฟ จิ้มลงไปแทน........ผมทำผิดไหมครับแบบนี้ แล้วจะถือว่าผม เป็นคนไม่รักศาสนา ตาม 3 สิ่งที่เราควรรักไหมอ่ะ ผมค่อนข้างกังวลก็เลยรอให้มันดับ แล้วก็ จับมันปักเหมือนเดิม แต่ดับแล้วนะครับ
อาจมีคำถามในส่วนอื่นๆ อีกมากมาย แต่ ผม อยากเข้าใจทั้ง 3 ข้อที่ผม ถามไป ก่อนนะครับ...
เอ้อๆๆๆ ผมก็เลยไปถาม พ่อ+แม่ ว่า เนี้ย ที่มาเวียนเทียนเนี้ย มันเป็นสิ่งที่ถูกแล้วหรือป่าว ?
แม่ผมก็เลยตอบ มันก็ตอบไม่ได้ บางครั้งสิ่งที่ผู้ใหญ่เขาสอนมาก็ใช่ว่าจะผิด แต่สิ่งที่วิทยาศาสตร์ปัจจุบัน(ในประเทศไทย) ก็ใช่ว่าจะถูก
ผมต้องสอบเข้า มหาลัยปีนี้ ผมหวังว่า ผมคงไม่ได้ไปขัดความเชื่อใคร ผมใช้หลักเหตุผล ที่ได้เรียนมาแล้วเอามาวิเคราะห์(เล็กน้อยตามกำลังสมองของผม 55 5)
ผมไม่รู้ว่าควรจะเชื่อ ความรู้ที่พิสูจน์และถูกสอนให้ใช้เหตุผลดี หรือควรจะเชื่อ ว่าสิ่งที่คนส่วนมากและคนเก่าคนแก่คิดว่านี้คือสิ่งที่ต้องทำดี
ขอบคุณครับ ที่อ่านจนจบ ผมอยากรู้คำตอบจริงๆนะครับ ผมไม่ได้เกลียดศาสนาเลยนะผมแค่อยากเข้าใจมันเหมือนวิทยาศาสตร์ที่มีเหตุผล
ปล.ต้องขออภัย บางคำศัพท์ที่ผมเผลอพิมพ์ไป แต่ผมไม่อยากอ้างหลักการแบบเด็กเนิร์ดติดหนังสือ ก็เลยพยายามพิมพ์เหมือนพูดคุย
ปล2. หวังว่าผมคงไม่ถูกนักสืบพันธิปตามสืบ หรือ ดราม่าลงเว็บจ่าแล้วก็โดนคนทั้งประเทศเกลียดนะครับ ผมคิดหนักจริงๆนะก่อนลงเนี้ยคิดแล้วคิดอีก
*********ขอบคุณความเห็นที่ 4 ที่บอกถึงจุดที่ทำให้ผมไม่ได้คำตอบ*************
ขอโทษครับ ผม มีตัวตนจริงๆ ผมไม่มีเจตนาก่อกวน ในตอนหลังผมเลยบอกว่า ผมต้องขอโทษในคำพูดไม่เหมาะสม ผมเชื่อในศาสนาพุทธ ผมได้รับคำตั้งแต่เด็ก ทั้งสอนให้รักความเป็นไทยมากมาย ผมแค่ต้องการจะหาเหตุผล ผมศรัทรานะ ผมแค่อยากทราบเหตุผล ผมไม่อยากจะต้องเชื่อเพราะความจำไม่ใช่ความเข้าใจ ผู้ใหญ่ก็เคยพูดว่า ศาสนาพุทธคือศาสนาที่มีเหตุผล ซึ่งในคำสอนแก่นของ ศาสนาที่ว่า ทำความดีละเว้นความชั่วนั้นคือ สิ่งที่ผมเชื่อและศรัทรามาก แต่ผมแค่อยากหาเหตุผล
https://www.facebook.com/chitiprat.chonlatee นี้ FB ผม ผมชื่อ ชิติพัทธ์ ชลธี เป็น นร.ม.6 เปิดเทอม วันศุกร์นี้ อยุ่ห้อง 2 จารย์ที่ปรึกษา อ.ชูศักดิ์ ผมกล้าที่จะเปิดเผยว่าผมเป็นใคร เพราะผมมาเพื่อหาคำตอบของคำถาม
ต้องขออภัยจริงๆ นะครับ หากคำพูดดูเหมือนการก่อกวน ผมแค่พยายามให้มันไม่เครียด เพราะมีหลายครั้งที่เด็กแบบผม ต้องการคำตอบจากเรื่องแบบนี้แล้วมาในแนวเครียดๆ และสังคมก็จะ Anti อย่างรุนแรงตลอด ผมไม่ผิดใช่ไหมที่ผมสงสัย :'(