วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ วิพากษ์ ข้อเสนอ อภิสิทธิ์ ทางออก หรือ ทางตัน ?

กระทู้สนทนา


แนวทางที่คุณอภิสิทธิ์เสนอมา แม้อาจมองได้ว่าเป็นความหวังดี แต่ก็มีเนื้อหาที่ขัดแย้งต่อหลักการทางรัฐธรรมนูญ อย่างน้อย 4 ประการ

1. ข้อเสนอคุณอภิสิทธิ์ให้ชะลอการเลือกตั้งออกไปอีกประมาณ ครึ่งปี พร้อมสร้างสภาวะมีรัฐบาลชั่วคราวที่ไม่ได้รับการยอมรับ และไม่มีอำนาจเต็มต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะยิ่งทำให้เกิดความเสี่ยงต่อความไม่แน่นอน และความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงและถูกลากยาวออกไป อันเป็นการขัดต่อหลักการพื้นฐานทางรัฐธรรมนูญที่ต้องการให้มีอำนาจรัฐมีความมั่นคงต่อเนื่องและแน่นอน

2. การเสนอให้รัฐบาลที่ปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวลาออก แล้วให้ประธานวุฒิสภาทำหน้าที่สรรหารัฐบาลใหม่นั้น เท่ากับเป็นการปล้นอำนาจอธิปไตยของประชาชนไปไว้กับคนไม่กี่คน โดยที่ประชาชนไม่มีส่วนเลือกและไม่มีบทบัญญัติรัฐธรรมนูญรองรับ ยิ่งทำให้ความขัดแย้งขยายตัว ทั้งนี้ ส่วนการอ้างหลักการจารีตประเพณีไม่อาจอ้างได้ เพราะสิ่งที่จะถือว่าเป็นจารีตประเพณีใสทางกฎหมาย จะต้องมีการปฏิบัติต่อเนื่องและยอมรับความผูกพันโดยทั่วกัน มิใช่เป็นกรณีที่เคยทำเป็นครั้งคราวในอดีต และต้องไม่ขัดหรือแย้งที่บทบัญญัติลายลักษณ์อักษรที่มีความชัดเจนอยู่แล้ว

3. การทำประชามติโดยอาศัยข้อเสนอสภาปฏิรูปที่จัดทำโดยเครือข่ายเดินหน้าปฏิรูป ร่วมกับ กปปส.นอกจากมีปัญหาในรื่องข้อกฎหมายการทำประชามติแล้ว ยังเป็นเสมือนการมัดมือชกประชาชน เพราะเนื้อหาสาระของประชามติได้ถูกตีกรอบโดยผู้ที่ไม่ได้รับอาณัติจากประชาชน และไม่มีสถานะทางรัฐธรรมนูญรองรับ จะยิ่งทำให้การทำประชามติดังกล่าวขาดความชอบธรรมและยิ่งทำให้ความขัดแย้งบานปลายมากขึ้น

4. การสร้างเงื่อนไขให้ กกต. (หรือศาล) มีอำนาจใช้ดุลพินิจยุบพรรคที่ไม่สนับสนุนการปฏิรูป ซึ่งย่อมกระทบถึงฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ ย่อมเท่ากับเป็นการมอบอำนาจให้องค์กรอิสระหรือตุลาการเข้ามาครอบงำกระบวนการปฏิรูปประเทศ เป็นการทำลายหลักการแบ่งแยกอำนาจอันเป็นหัวใจของกฎหมายรัฐธรรมนูญ

อย่างไรก็ดี ข้อเสนอคุณอภิสิทธิ์ ก็ยังมีส่วนที่ดี ก็คือ การให้ กกต.ปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบให้การเลือกตั้งโปร่งใสและรัดกุมมากขึ้น (ซึ่งตรงกับข้อเสนอที่ผมเองเคยเสนอไปเมื่อปีที่แล้ว) รวมถึงการเน้นการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายในการออกแบบวาระปฏิรูปและการใช้วิธีประชามติ ซึ่งหากทุกฝ่ายร่วมกันนำข้อเสนอส่วนนี้มาปรับใช้และร่วมกันปฏิบัติทันที กล่าวคือ มีการปรับปรุงกติการการเลือกตั้งและทุกฝ่ายร่วมกันออกแบบการปฏิรูปใน 1-2 เดือน ก็อาจนำไปสู่การเลือกตั้งเพื่อวาระปฏิรูปในเดือนกรกฏาคม และอาจหาวิธีการออกแบบให้วันเลือกตั้งเป็นวันทำประชามติไปพร้อมกัน เพื่อสร้างอาณัติให้รัฐบาลที่รับเลือกตั้งไม่แทรกแซงกระบวนการปฏิรูป หากทำได้เช่นนี้ ประเทศชาติก็ย่อมมีทางออกได้โดยไม่ต้องขัดแย้งต่อหลักการทางรัฐธรรมนูญที่กล่าวมา

สิ่งที่น่ากังวลใจมากในเวลานี้ คือ การร่วมกันจัดฉากทางการเมือง เพื่อให้ข้อเสนอคุณอภิสิทธิ์ถูกปฏิเสธโดยฝ่ายอื่น จากนั้นหากศาลรัฐธรรมนูญอ้างแนวคิดดังที่อดีตประธานศาลเคยยอมรับว่าเมื่อบ้านเมืองถึงทางตัน ศาลก็ต้องหน้าที่หาทางไป แต่อดีตได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ในที่สุดทางไปนั้นก็ไปจบที่การนองเลือด ซึ่งย่อมไม่มีผู้ใดอยากให้เกิดขึ้นอีก.

วีรพัฒน์ ปริยวงศ์
นักกฎหมายอิสระ
3 พ.ค. 2557
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่