ผนึกเนรมิตรักแรก' ตอนที่ 1
http://pantip.com/topic/31533016
ผนึกเนรมิตรักแรก' ตอนที่ 2
http://pantip.com/topic/31972032
'ผนึกเนรมิตรักแรก' ตอนที่ 3
http://pantip.com/topic/31972160
'ผนึกเนรมิตรักแรก' ตอนที่ 4
http://pantip.com/topic/31983841
'ผนึกเนรมิตรักแรก' ตอนที่ 5
http://pantip.com/topic/31986195
6
“That's not a problem.” ไม่ใช่แค่นลที่ถอนหายใจ แทบจะพร้อมกันที่ปีย์วราถอนหายใจสั้นๆตามมา ‘ทำไมถึงต้องรู้สึกไม่มีความสุขกับคำตอบนั้นด้วย’
“รับปากแล้วนะคะว่าจะไม่ตกหลุมรักฉัน จากนี้ไปเราจะเป็นเพื่อนกัน ฉันไว้ใจคุณได้ใช่ไหมคะ”
“แน่นอน” เขาเน้นคำอย่างหนักแน่น แม้ดวงตาของเขาจะฉายแววความเศร้าอยู่ก็ตาม
“ขอบคุณมากนะคะสำหรับวันนี้ ฉัน...ไม่ได้อยู่กับผู้ใหญ่มานานมาก พอได้เจอกับท่านทั้งสองถึงได้รู้ว่าร่มโพธิ์ร่มไทรที่ยิ่งใหญ่สำหรับชีวิตคนเรา นอกจากจะทำให้เรารู้สึกผูกพันแล้ว ฉันยังตกหลุมรักท่านทั้งสองแล้วล่ะค่ะ จากนี้...คงจะไม่ว่าอะไรถ้าฉันจะติดต่อกันท่านบ้าง”
“That's not a problem ผมเองก็จะขอบคุณมากถ้าคุณจะเสียสละเวลาที่มีค่าของคุณไปเจอท่านบ้าง....” เขายิ้มมุมปากหลังจากพูดเสร็จ แต่ทำไม...แค่คำพูดคำนี้เธอถึงรู้สึกว่าต้องฝืนยิ้มต่อหน้าเขาอีกครั้ง...ทำไมเธอถึงรู้สึกแย่ขนาดนี้
ปีย์วรายังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ พอเขาเดินพ้นไปจากห้องของเธอแล้วนั่นแหละ เธอถึงพบว่าไหล่ของเขายามที่มองจากข้างหลังมันก็ดูเศร้าไม่น้อยไปกว่าดวงตาแสนเศร้าของเขาเอาเสียเลย...
เธอล้มตัวลงนั่งที่โซฟาอย่างหมดแรง...พอเข้ามาอยู่ในห้องคนเดียว หญิงสาวก็พบว่าเธอมั่นใจในตัวเองมากเกินไป คิดว่าเขาอาจจะแอบชอบเธอ ถึงได้พาไปให้ที่บ้านรู้จัก น้ำอุ่นๆหยดเล็กๆไหลอาบลงมาที่แก้มตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
เวลานี้เธอไม่อยากจะคิดอะไรเลยนอกจากสังเวชตัวเองเล็กๆ ทำไมเธอจะไม่รู้จักตัวเอง ตัวจนที่แท้จริงจะเปิดเผยอย่างง่ายดายเวลาอยู่ต่อเขา เธอไม่ต้องพยายามทำเป็นแกร่งหรือเป็นผู้ใหญ่อย่างเวลาทำงาน ตอนเจอวัลลภมันบ่งบอกชัดเจนว่าแม้กระทั่งตอนทานข้าวเธอยังต้องนั่งหลังตรง ห้ามไขว่ห้าง พูดเบาๆ เน้นถ้อยคำที่ต้องการพูดมากกว่าจะสามารถเล่าได้อย่างเปิดเผย
ทุกครั้งที่เธออยู่กับเพื่อนข้างห้องคนนี้...เธอจะสามารถหัวเราะออกมาดังๆเมื่ออยากหัวเราะ นึกขำกับเรื่องเล็กๆน้อยก็กลายเป็นว่าเธอกลายเป็นคนเส้นตื้นขึ้นมาเฉยๆ คนที่เธอเคยฝันเอาไว้ว่าจะเป็นคนที่อยู่เคียงข้างกัน ยอมรับได้ทุกเรื่องที่เป็นตัวเธอ คำตอบนั้นมันไม่ใช่เพื่อนข้างห้องที่แสนเย็นชาคนนั้นหรือไง?
‘ฉันพบเขาแล้วกช’ ปีย์วราปล่อยให้โอกาสนั้นหลุดลอยไปในเวลาที่เมื่อรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว เขาไม่ได้รักเธอ เขาให้คำมั่นไว้แล้ว เขาพูดชัดเจนแล้วว่าเขาจะไม่ตกหลุมรักเธอ...เป็นอันขาด! สายตาของเขายามที่พูดคำว่า ‘นั่นไม่ใช่ปัญหา’...มันน่ากลัวเหลือเกิน น่ากลัวที่ว่าเขาแสดงออกอย่างชัดเจน อ่านได้ง่ายดายจากสายตาที่ไร้ความรู้สึกของเขา ว่าแท้จริงแล้วเขาให้เธอเป็นเพื่อนข้างห้องก็นับว่าหรูที่สุดแล้วสำหรับมิตรภาพของเธอและเขา!
‘ความรักของผมคือโชคชะตา เราจะต้องพบมันเข้าสักวัน...เป็นข้อต้องหาของชีวิตที่ไม่สามารถหลีกหนีพ้นได้ และคนๆนั้นของผมก็จะเป็นคนเดียวที่ผมจะมอบให้เป็นคนสุดท้ายที่จะอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่าพร้อมกัน ผมไม่เคยตั้งความหวังว่าจะพบโชคชะตาหลายครั้ง...หนแรก หนเดียวก็เกินพอสำหรับชีวิตแสนสั้นของผม’
คำพูดของเขายังอยู่ในหัวของเธอ...ความรักของเขาเหมือนโชคชะตาที่ไม่อาจหลีกหนีได้...แต่ทำไมโชคชะตานั้นถึงไม่ใช่เธอ...ทำไมพระเจ้าต้องเล่นตลกกับเธออย่างนี้...เธอเองก็ไม่เข้าท่าเสียเลยที่ปล่อยให้ความรู้สึกดีๆมันล่วงเลยกลายมาเป็นความรักที่มากเกินกว่าเพื่อน...
ปีย์วราไม่มีวันรู้ได้เลยว่าระหว่างที่เธอนั่งเช็ดน้ำตาที่พรั่งพรูออกมาอย่างไม่รู้ที่มาที่ไปนอกจากความน้อยใจที่มีต่อคนข้างห้อง แต่เขาคนนั้นก็เป็นอีกคนที่ยังคิดไม่ตก นลรู้สึกผิดที่พูดไปแบบนั้น ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยนึกจะเป็นพระเอกกับเขา เห็นวันนี้จะต้องเป็นบ้าง! กฎมีไว้ให้แหกเสมอ แล้วหัวใจตัวเองล่ะถ้าไม่ซื่อสัตย์กับมันจะทำมาหากินอะไรได้ พอตอบเธอออกไปแบบนั้น...เขาทำไมต้องรู้สึกผิด?
“เราไม่ได้รักเขา ในตอนนี้...มันไม่ใช่ความรัก แค่ห่วงใย อยากรู้จักให้มากขึ้นในฐานะเพื่อนแต่ทำไมต้องรู้สึกว่าตัวเองไม่ควรจะพูดมันออกไปแบบนั้น”
ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ผนังห้องที่อยู่ตรงกับสายตาพอดี เขาจ้องมันอย่างตั้งใจจะค้นหาอะไรบางอย่าง ราวกับต้องการจะมองให้เห็นอย่างทะลุผนังห้อง ต้องการรู้ถึงความรู้สึกนึกคิดของเพื่อนข้างห้องถึงคำพูดที่เขาให้กับเธอไว้เมื่อครู่...เธอจะรู้สึกยังไงบ้าง หรือลืมเลือนมันไปแล้ว เพราะเธอก็คงให้เขาเป็นได้แค่เพื่อนข้างห้องเท่านั้น
ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องการจะรู้คือความรู้สึกของคนข้างห้อง...ถ้าเธอมีใจให้เขาเรื่องราวมันคงจะไม่ยากขึ้นใช่ไหม เขาอ่านใจหลายๆคนออก แต่ผู้หญิงคนนี้ไม่เหมือนใคร ยิ่งมองก็ยิ่งเห็นว่าแปลกกว่าใคร แต่เป็นความแปลกเป็นไปในทิศทางที่ดีกว่าใครเช่นกัน
‘คนที่ยังติดอยู่ในใจเป็นเวลานาน...แค่คนที่ผ่านมาและคงจะผ่านเลยไปในไม่ช้า’ เป็นอย่างนี้แหละมั้ง ไม่ว่าจะลืมตาหรือหลับตาลงก็มักจะเห็นภาพคนๆนั้นวนเวียนอยู่ในหัวและรอบตัวเสมอ นลคิดถึงคำพูดในหนังสือของ Nicholas Sparks ในเรื่อง Message in a Bottle เขาเปล่งเสียแหบแห้งที่มีก่อนจะพึมพำมันออกโดยที่เขาไม่ได้จริงจังแม้แต่น้อย แค่รู้สึกได้ว่าอยากจะพูดอะไรบางอย่างเพื่อหาคำตอบให้ใจของตัวเอง
“If you like her, if she makes you happy, and if you feel like you know her, then don't let her go. ควรจะทำมันหรือปล่อยให้มันผ่านเลยไปอย่างที่มันควรจะต้องเป็น...ถ้าจะแหกกฏเกณฑ์นั้นยังพอมีหนทางให้ได้ทำมันบ้างรึเปล่า” นลทอดสายตาที่แสนเศร้าคู่นั้นเบนหนีจากผนังห้องออกไปนอกหน้าต่างใส...เวลานี้ปีย์วราคงหลับไปแล้ว เธอตงไม่รู้หรอกว่าเขากำลังคิดถึงเธออยู่คนเดียว...
เขากำลังสับสนถึงความรู้สึกว้าวุ่น ความรู้สึกแปลกใหม่ที่เกิดขึ้นในใจ...เขาได้แต่หวังว่าวันพรุ่งนี้ จดหมายของอรกชเพื่อนรักของเธอจะช่วยทำให้เธอเข้มแข็งกับการเริ่มต้นการทำงานได้ไม่มากก็น้อย ถ้าหากว่าเธอจะตกหลุมรักเขา...เขาคงจะต้องเป็นฝ่ายปฏิเสธมันก่อนที่ทั้งตัวเธอและเขาจะรู้สึกว่าความรู้สึกที่มีให้กันมันมากเกินกว่าคำว่าเพื่อน เธออาจจะต้องเจ็บปวดในอนาคตถ้ารู้ว่าเขาคือใคร แย่ยิ่งกว่าถ้าเธอจะรู้ว่าเขาเป็นคนที่หลอกลวงที่สุดในโลก
ดังนั้นหนทางที่ดีที่สุดคือการแอบช่วยเหลือเธออยู่อย่างโดยที่ห้ามตกหลุมรักเธอเข้าเสียเอง...มันคือทางเลือกเดียวที่เขาและเธอจะสานความสัมพันธ์ต่อกันฉันท์เพื่อนได้อย่างยาวนานที่สุด นลค่อยๆหลับตาเรียวของเขาลงอย่างช้าๆพร้อมกับที่เขาพยายามจะสลัดความคิดฟุ้งซ่านที่มีอยู่ออกไปให้ได้โดยเร็ว...เพื่อที่ว่าในอนาคตความสัมพันธ์ในความเป็นเพื่อนของเขาและเธอมันจะยังคงยืนยาว ยาวนานได้ไกลมากขี้นเท่าที่ตะสามารถต่ออายุให้มันได้...
Love gives naught but itself and takes naught but from itself.
Love possesses not nor would it be possessed;
For love is sufficient unto love.
ความรักไม่ให้สิ่งอื่นใดนอกจากตนเอง
และก็ไม่รับเอาสิ่งใดนอกจากตนเอง
ความรักไม่ครอบครอง และก็ไม่ยอมให้ถูกครอบครอง
เพราะความรักนั้นเพียงพอแล้วสำหรับตอบความรัก
นลไม่ได้เฉลียวใจเลยว่า...หัวใจของเขามันเรียกร้องอะไรกันแน่...พยายามไม่นึกถึงความรู้สึกของตัวเองและอีกฝ่าย พยายามที่จะไม่หวั่นไหวต่อความอบอุ่นที่เกิดขึ้นในหัวใจยามที่ได้เห็นใบหน้านวล...ทั้งที่จริงๆแล้วนั้นเขาควรจะรับรู้ความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ในหัวใจตัวเองโดยไม่ต้องค้นหาให้ยากถ้าไม่พยายามหลบหนีโชคชะตาของตัวเอง จากวันแรกที่ค่อยๆอ่านหนังสือเล่มนั้น...จนถึงตอนนี้หัวใจของเขาแอบซึมซับเอาความรู้สึกดีๆที่มีต่อหล่อนเอาไว้จนเต็มไปทั้งใจเสียแล้ว...
'ผนึกเนรมิตรักแรก' ตอนที่ 6
http://pantip.com/topic/31533016
ผนึกเนรมิตรักแรก' ตอนที่ 2
http://pantip.com/topic/31972032
'ผนึกเนรมิตรักแรก' ตอนที่ 3
http://pantip.com/topic/31972160
'ผนึกเนรมิตรักแรก' ตอนที่ 4
http://pantip.com/topic/31983841
'ผนึกเนรมิตรักแรก' ตอนที่ 5
http://pantip.com/topic/31986195
6
“That's not a problem.” ไม่ใช่แค่นลที่ถอนหายใจ แทบจะพร้อมกันที่ปีย์วราถอนหายใจสั้นๆตามมา ‘ทำไมถึงต้องรู้สึกไม่มีความสุขกับคำตอบนั้นด้วย’
“รับปากแล้วนะคะว่าจะไม่ตกหลุมรักฉัน จากนี้ไปเราจะเป็นเพื่อนกัน ฉันไว้ใจคุณได้ใช่ไหมคะ”
“แน่นอน” เขาเน้นคำอย่างหนักแน่น แม้ดวงตาของเขาจะฉายแววความเศร้าอยู่ก็ตาม
“ขอบคุณมากนะคะสำหรับวันนี้ ฉัน...ไม่ได้อยู่กับผู้ใหญ่มานานมาก พอได้เจอกับท่านทั้งสองถึงได้รู้ว่าร่มโพธิ์ร่มไทรที่ยิ่งใหญ่สำหรับชีวิตคนเรา นอกจากจะทำให้เรารู้สึกผูกพันแล้ว ฉันยังตกหลุมรักท่านทั้งสองแล้วล่ะค่ะ จากนี้...คงจะไม่ว่าอะไรถ้าฉันจะติดต่อกันท่านบ้าง”
“That's not a problem ผมเองก็จะขอบคุณมากถ้าคุณจะเสียสละเวลาที่มีค่าของคุณไปเจอท่านบ้าง....” เขายิ้มมุมปากหลังจากพูดเสร็จ แต่ทำไม...แค่คำพูดคำนี้เธอถึงรู้สึกว่าต้องฝืนยิ้มต่อหน้าเขาอีกครั้ง...ทำไมเธอถึงรู้สึกแย่ขนาดนี้
ปีย์วรายังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ พอเขาเดินพ้นไปจากห้องของเธอแล้วนั่นแหละ เธอถึงพบว่าไหล่ของเขายามที่มองจากข้างหลังมันก็ดูเศร้าไม่น้อยไปกว่าดวงตาแสนเศร้าของเขาเอาเสียเลย...
เธอล้มตัวลงนั่งที่โซฟาอย่างหมดแรง...พอเข้ามาอยู่ในห้องคนเดียว หญิงสาวก็พบว่าเธอมั่นใจในตัวเองมากเกินไป คิดว่าเขาอาจจะแอบชอบเธอ ถึงได้พาไปให้ที่บ้านรู้จัก น้ำอุ่นๆหยดเล็กๆไหลอาบลงมาที่แก้มตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
เวลานี้เธอไม่อยากจะคิดอะไรเลยนอกจากสังเวชตัวเองเล็กๆ ทำไมเธอจะไม่รู้จักตัวเอง ตัวจนที่แท้จริงจะเปิดเผยอย่างง่ายดายเวลาอยู่ต่อเขา เธอไม่ต้องพยายามทำเป็นแกร่งหรือเป็นผู้ใหญ่อย่างเวลาทำงาน ตอนเจอวัลลภมันบ่งบอกชัดเจนว่าแม้กระทั่งตอนทานข้าวเธอยังต้องนั่งหลังตรง ห้ามไขว่ห้าง พูดเบาๆ เน้นถ้อยคำที่ต้องการพูดมากกว่าจะสามารถเล่าได้อย่างเปิดเผย
ทุกครั้งที่เธออยู่กับเพื่อนข้างห้องคนนี้...เธอจะสามารถหัวเราะออกมาดังๆเมื่ออยากหัวเราะ นึกขำกับเรื่องเล็กๆน้อยก็กลายเป็นว่าเธอกลายเป็นคนเส้นตื้นขึ้นมาเฉยๆ คนที่เธอเคยฝันเอาไว้ว่าจะเป็นคนที่อยู่เคียงข้างกัน ยอมรับได้ทุกเรื่องที่เป็นตัวเธอ คำตอบนั้นมันไม่ใช่เพื่อนข้างห้องที่แสนเย็นชาคนนั้นหรือไง?
‘ฉันพบเขาแล้วกช’ ปีย์วราปล่อยให้โอกาสนั้นหลุดลอยไปในเวลาที่เมื่อรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว เขาไม่ได้รักเธอ เขาให้คำมั่นไว้แล้ว เขาพูดชัดเจนแล้วว่าเขาจะไม่ตกหลุมรักเธอ...เป็นอันขาด! สายตาของเขายามที่พูดคำว่า ‘นั่นไม่ใช่ปัญหา’...มันน่ากลัวเหลือเกิน น่ากลัวที่ว่าเขาแสดงออกอย่างชัดเจน อ่านได้ง่ายดายจากสายตาที่ไร้ความรู้สึกของเขา ว่าแท้จริงแล้วเขาให้เธอเป็นเพื่อนข้างห้องก็นับว่าหรูที่สุดแล้วสำหรับมิตรภาพของเธอและเขา!
‘ความรักของผมคือโชคชะตา เราจะต้องพบมันเข้าสักวัน...เป็นข้อต้องหาของชีวิตที่ไม่สามารถหลีกหนีพ้นได้ และคนๆนั้นของผมก็จะเป็นคนเดียวที่ผมจะมอบให้เป็นคนสุดท้ายที่จะอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่าพร้อมกัน ผมไม่เคยตั้งความหวังว่าจะพบโชคชะตาหลายครั้ง...หนแรก หนเดียวก็เกินพอสำหรับชีวิตแสนสั้นของผม’
คำพูดของเขายังอยู่ในหัวของเธอ...ความรักของเขาเหมือนโชคชะตาที่ไม่อาจหลีกหนีได้...แต่ทำไมโชคชะตานั้นถึงไม่ใช่เธอ...ทำไมพระเจ้าต้องเล่นตลกกับเธออย่างนี้...เธอเองก็ไม่เข้าท่าเสียเลยที่ปล่อยให้ความรู้สึกดีๆมันล่วงเลยกลายมาเป็นความรักที่มากเกินกว่าเพื่อน...
ปีย์วราไม่มีวันรู้ได้เลยว่าระหว่างที่เธอนั่งเช็ดน้ำตาที่พรั่งพรูออกมาอย่างไม่รู้ที่มาที่ไปนอกจากความน้อยใจที่มีต่อคนข้างห้อง แต่เขาคนนั้นก็เป็นอีกคนที่ยังคิดไม่ตก นลรู้สึกผิดที่พูดไปแบบนั้น ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยนึกจะเป็นพระเอกกับเขา เห็นวันนี้จะต้องเป็นบ้าง! กฎมีไว้ให้แหกเสมอ แล้วหัวใจตัวเองล่ะถ้าไม่ซื่อสัตย์กับมันจะทำมาหากินอะไรได้ พอตอบเธอออกไปแบบนั้น...เขาทำไมต้องรู้สึกผิด?
“เราไม่ได้รักเขา ในตอนนี้...มันไม่ใช่ความรัก แค่ห่วงใย อยากรู้จักให้มากขึ้นในฐานะเพื่อนแต่ทำไมต้องรู้สึกว่าตัวเองไม่ควรจะพูดมันออกไปแบบนั้น”
ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ผนังห้องที่อยู่ตรงกับสายตาพอดี เขาจ้องมันอย่างตั้งใจจะค้นหาอะไรบางอย่าง ราวกับต้องการจะมองให้เห็นอย่างทะลุผนังห้อง ต้องการรู้ถึงความรู้สึกนึกคิดของเพื่อนข้างห้องถึงคำพูดที่เขาให้กับเธอไว้เมื่อครู่...เธอจะรู้สึกยังไงบ้าง หรือลืมเลือนมันไปแล้ว เพราะเธอก็คงให้เขาเป็นได้แค่เพื่อนข้างห้องเท่านั้น
ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องการจะรู้คือความรู้สึกของคนข้างห้อง...ถ้าเธอมีใจให้เขาเรื่องราวมันคงจะไม่ยากขึ้นใช่ไหม เขาอ่านใจหลายๆคนออก แต่ผู้หญิงคนนี้ไม่เหมือนใคร ยิ่งมองก็ยิ่งเห็นว่าแปลกกว่าใคร แต่เป็นความแปลกเป็นไปในทิศทางที่ดีกว่าใครเช่นกัน
‘คนที่ยังติดอยู่ในใจเป็นเวลานาน...แค่คนที่ผ่านมาและคงจะผ่านเลยไปในไม่ช้า’ เป็นอย่างนี้แหละมั้ง ไม่ว่าจะลืมตาหรือหลับตาลงก็มักจะเห็นภาพคนๆนั้นวนเวียนอยู่ในหัวและรอบตัวเสมอ นลคิดถึงคำพูดในหนังสือของ Nicholas Sparks ในเรื่อง Message in a Bottle เขาเปล่งเสียแหบแห้งที่มีก่อนจะพึมพำมันออกโดยที่เขาไม่ได้จริงจังแม้แต่น้อย แค่รู้สึกได้ว่าอยากจะพูดอะไรบางอย่างเพื่อหาคำตอบให้ใจของตัวเอง
“If you like her, if she makes you happy, and if you feel like you know her, then don't let her go. ควรจะทำมันหรือปล่อยให้มันผ่านเลยไปอย่างที่มันควรจะต้องเป็น...ถ้าจะแหกกฏเกณฑ์นั้นยังพอมีหนทางให้ได้ทำมันบ้างรึเปล่า” นลทอดสายตาที่แสนเศร้าคู่นั้นเบนหนีจากผนังห้องออกไปนอกหน้าต่างใส...เวลานี้ปีย์วราคงหลับไปแล้ว เธอตงไม่รู้หรอกว่าเขากำลังคิดถึงเธออยู่คนเดียว...
เขากำลังสับสนถึงความรู้สึกว้าวุ่น ความรู้สึกแปลกใหม่ที่เกิดขึ้นในใจ...เขาได้แต่หวังว่าวันพรุ่งนี้ จดหมายของอรกชเพื่อนรักของเธอจะช่วยทำให้เธอเข้มแข็งกับการเริ่มต้นการทำงานได้ไม่มากก็น้อย ถ้าหากว่าเธอจะตกหลุมรักเขา...เขาคงจะต้องเป็นฝ่ายปฏิเสธมันก่อนที่ทั้งตัวเธอและเขาจะรู้สึกว่าความรู้สึกที่มีให้กันมันมากเกินกว่าคำว่าเพื่อน เธออาจจะต้องเจ็บปวดในอนาคตถ้ารู้ว่าเขาคือใคร แย่ยิ่งกว่าถ้าเธอจะรู้ว่าเขาเป็นคนที่หลอกลวงที่สุดในโลก
ดังนั้นหนทางที่ดีที่สุดคือการแอบช่วยเหลือเธออยู่อย่างโดยที่ห้ามตกหลุมรักเธอเข้าเสียเอง...มันคือทางเลือกเดียวที่เขาและเธอจะสานความสัมพันธ์ต่อกันฉันท์เพื่อนได้อย่างยาวนานที่สุด นลค่อยๆหลับตาเรียวของเขาลงอย่างช้าๆพร้อมกับที่เขาพยายามจะสลัดความคิดฟุ้งซ่านที่มีอยู่ออกไปให้ได้โดยเร็ว...เพื่อที่ว่าในอนาคตความสัมพันธ์ในความเป็นเพื่อนของเขาและเธอมันจะยังคงยืนยาว ยาวนานได้ไกลมากขี้นเท่าที่ตะสามารถต่ออายุให้มันได้...
Love gives naught but itself and takes naught but from itself.
Love possesses not nor would it be possessed;
For love is sufficient unto love.
ความรักไม่ให้สิ่งอื่นใดนอกจากตนเอง
และก็ไม่รับเอาสิ่งใดนอกจากตนเอง
ความรักไม่ครอบครอง และก็ไม่ยอมให้ถูกครอบครอง
เพราะความรักนั้นเพียงพอแล้วสำหรับตอบความรัก
นลไม่ได้เฉลียวใจเลยว่า...หัวใจของเขามันเรียกร้องอะไรกันแน่...พยายามไม่นึกถึงความรู้สึกของตัวเองและอีกฝ่าย พยายามที่จะไม่หวั่นไหวต่อความอบอุ่นที่เกิดขึ้นในหัวใจยามที่ได้เห็นใบหน้านวล...ทั้งที่จริงๆแล้วนั้นเขาควรจะรับรู้ความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ในหัวใจตัวเองโดยไม่ต้องค้นหาให้ยากถ้าไม่พยายามหลบหนีโชคชะตาของตัวเอง จากวันแรกที่ค่อยๆอ่านหนังสือเล่มนั้น...จนถึงตอนนี้หัวใจของเขาแอบซึมซับเอาความรู้สึกดีๆที่มีต่อหล่อนเอาไว้จนเต็มไปทั้งใจเสียแล้ว...