'ผนึกเนรมิตรักแรก' ตอนที่ 5

กระทู้สนทนา
ผนึกเนรมิตรักแรก' ตอนที่ 1
http://pantip.com/topic/31533016

ผนึกเนรมิตรักแรก' ตอนที่ 2
http://pantip.com/topic/31972032

'ผนึกเนรมิตรักแรก' ตอนที่ 3
http://pantip.com/topic/31972160

'ผนึกเนรมิตรักแรก' ตอนที่ 4
http://pantip.com/topic/31983841

                                                                                                       5

                 ปีย์วราค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างสดชื่น หญิงสาวนอนลืมตากระพริบๆอยู่นาน หัวสมองที่ยังเบลอๆอยู่หวนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน...พอว่ายน้ำเสร็จ เธอก็เกิดง่วง กะว่าจะไปไปนอนดูดาว แล้วจู่ๆก็หลับไป...หลังจากนั้น...คืออะไร เธอพยายามคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก นอกจากความฝันที่ฝันถึงนล...แล้วนี่เธอกลับมาห้องตั้งแต่เมื่อไหร่! พอคลำหาคีย์การ์ดจากตัวก็ยิ่งแปลกใจ เธอยังนอนอยู่ในชุดคลุมเหรอนี่!?

                 ไม่น่าเชื่อ เธอบ้าไปแล้ว ง่วงจนทนสกปรกทั้งที่ตัวยังเลอะคลอรีน ใช่!เธอบ้าไปแล้วแน่ๆที่ไม่ยอมล้างเนื้อล้างตัว ซ้ำยังนอนอยู่ในคลุมทั้งยังใส่ชุดว่ายน้ำอยู่! หากแต่พอนึกๆไปจู่ๆก็รู้สึกว่าแรงที่มีอยู่เริ่มจะหมดไป ท้องก็เริ่มเรียกร้องว่าหิวข้าว...หญิงสาวแข็งใจลืมตาเพื่อสอดส่องหานาฬิกาเรือนใหญ่บนฝาผนังด้านบนที่ตรงข้ามกับเตียงนอน เพื่อจะมองดูว่ากี่โมงพี่ยามแล้วที่เธอเผลอหลับไป...ทันทีที่หาไม่เจอจากที่เรี่ยวแรงเริ่มจะหมด ท้องกำลังร้องหาของจะเอาไปย่อย ดวงตากลมโตยิ่งโตกว่าเดิม... ‘นาฬิกาหายไปไหน!’

                  หญิงสาวเด้งตัวขึ้นมาจากเตียงนอน เพื่อนั่งกวาดสายตามองหานาฬิกาบนฝาผนังห้องอย่างตั้งใจ หากแต่เธอพยายามเท่าไหร่ก็ไม่พบ สายตาของเธอก้มไปที่ผ้าปูที่นอนสีขาวเรียบ เธอไม่เคยซื้อมันไม่ใช่เหรอ! ของเธอสีม่วงออกขนาดนั้น! หรือนี่จะไม่ใช่ห้องของเธอ! ระหว่างที่เธอกำลังหาคำตอบให้ตัวเองอยู่นั้น...เสียงของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้น

“นี่ไม่ใช่ห้องคุณหรอก” เสียงทุ้มๆหากดูดุดังมาจากข้างๆเธอ พอเธอหันกลับไปตามต้นเสียงก็แทบช็อค! เขาเข้ามาอยู่ในห้องได้ยังไง ดูเหมือนว่าเขาจะเพิ่งเด้งตัวขึ้นมาจากพ้นข้างล่าง! เธอจ้องไปที่คนข้างเตียงอย่างโมโห

“นล! คุณเข้ามาในห้องฉันได้ยังไง” เธอกำลังโกรธทั้งงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ชายหนุ่มยิ้มที่มุมปากนิดนึงก่อนหุบยิ้มลง สายตาเศร้าทว่าดูพอใจกับอะไรบางอย่างของเขาจ้องเธอไม่วางแม้แต่น้อย
“เอ่อ...นี่ห้องผม ผมไม่มีสิทธิ์เข้ามาเหรอ” เขาย้อน หากพอปีย์วราลองมองดูดีๆ ก็พบว่านี่ไม่ใช่ห้องเธอจริงๆ ทุกอย่างตกแต่งคล้ายกันยกเว้นเฟอร์นิเจอร์พวกโต๊ะทำงาน โซฟา... ‘ตายแล้ว ยัยปีย์! เข้ามานอนในห้องผู้ชายคาชุดว่ายน้ำ’ พอนึกถึงตรงนี้เธอก็แทบอยากจะกรีดร้องออกมาดังๆ ทำไมมันถึงได้เกิดเรื่องบ้าๆแบบนี้ขึ้นกับเธอ!

“ฉัน...เข้ามาในนี้ได้ยังไงคะ” เธอเอ่ยถามคนขรึมที่ในตอนนี้เขาลุกขึ้นยืนกำลังพับที่นอนอยู่อย่างไม่สนใจเธอนัก

                 นลแบบไม่สบอารมณ์นัก ดูท่าเขาจะเบื่อคล้ายไม่อยากจะเล่า แต่สุดท้ายพอเธอคะยั้นคะยอเขาก็เล่าว่า เห็นเธอหลับไปนาน เขาเลยถือวิสาสะจับดูที่หน้าผากของเธอ พอพบว่าตัวร้อน และจำต้องถือวิสาสะอีกครั้งที่สองอุ้มเธอลงมานอนบนเตียงตัวเอง! เพราะเขาไม่มีคีการ์ดห้องเธอ.... เขาเล่าว่าเขาออกไปในที่ล็อบบี้ ปล่อยให้แม่บ้านขึ้นมาเช็ดตัวให้เธอ แม่บ้านไม่มีชุด เลยไม่ได้เปลี่ยนชุดให้ ส่วนอาหารที่วางอยู่เขาสั่งให้คนทำมาสองถ้วยกะขึ้นมาทานพร้อมเธอ

“คุณอุ้มฉันลงมาเหรอคะนล” คนขรึมพยักหน้ารับ สีหน้าเขาไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเลยแม้แต่น้อย

                 หญิงสาวค่อยวางใจ เพราะเธอเห็นปมที่มัดอยู่ยังไม่คลายไปไหน ต่อให้เขาเห็นเธอใส่ชุดว่ายน้ำก็เท่านั้น เพราะชุดไม่โป๊จนจะมองเห็นอะไรได้ เธอแค่คว้านลึกที่หลังก็เท่านั้น ด้านหน้าปิดไว้มิดชิด...หญิงสาวพยายามคิดเข้าข้างตัวเองให้มากเพราะยิ่งเธอพยายามปะติดปะต่อเรื่องก็ยิ่งทำให้ตัวเองรู้สึกแย่ พอรับยาจากเขามาทาน เธอก็ตักชิมข้าวต้มที่ถูกเตรียมไว้อย่างเอร็ดอร่อย ไม่ป่วยไม่ไข้ก็ดีแค่ไหนแล้วเท่านั้นที่เธอพยายามให้เหตุผลตัวเองเพื่อจะไม่ต้องอายตัวเองที่เผลอหลับ และปล่อยให้ผู้ชายอุ้มมาอย่างไร้สติสตัง

“ขอบคุณมากนะคะนล วันนี้ฉันว่างพอดี...นี่ถ้าวันธรรมดาคงแย่ที่ดันไม่สบายตื่นสายขนาดนี้ คุณล่ะคะจะไปไหนรึเปล่า”

“ผมก็หยุด ไข้ปีย์ก็ลดแล้ว ในห้องคุณไม่มีอาหารอะไรเลยไม่ใช่เหรอ เห็นไม่ได้ไปซื้อมาหลายวัน งั้น...ไปเที่ยวกัน” เขาเอ่ยปากชวน เธอตกใจเล็กน้อย ด้วยไม่เคยถูกผู้ชายที่ไหนชวนไปบ้านเอาดื้อๆอย่างเขา

“ไปไหนนะคะ”
“ไปบ้านผมกัน” หญิงสาวดื่มน้ำอยู่แทบสำลัก คนขรึมตรงหน้าชวนเธอไปบ้านเขาทำไมกัน คงไม่ได้คิดจะมาจีบเธอหรือมาคบกันหรอกนะ
“เป็นอะไร แค่ไปเรียนทำอาหารกัน ปีย์ทำอาหารฝรั่งไม่เป็นใช่ไหม ให้ย่าม่อมสอนให้” เขาวางถ้วยข้าวต้มไว้ที่โต๊ะอาหาร ก่อนเดินกลับเข้ามานั่งข้างๆเตียง
“จะดีเหรอคะรบกวนคุณเปล่าๆ ว่าแต่ย่าม่อมนี่ย่าคุณหรือคะ” เธอเริ่มวางตัวตามปกติมากขึ้นหลังจากได้สนิทกับทุกวัน ทุกคืน

“แกเป็นหัวหน้าแม่ครัวใหญ่ ไม่ใช่คนใช้ เป็นพี่สาวที่แม่รู้จักและเคารพ” นลให้เกียรติย่าม่อมเสมอ ย่าม่อมไม่ได้มาทำงานในฐานะแม่บ้านอีกทั้งยังเหมือนคนในครอบครัวเขา แม้จะได้รับเงินเดือน แต่เขาก็คิดว่าย่าม่อมคือคนเก่าคนแก่ในครอบครัวไปแล้ว

                  หญิงสาวรับปากว่าจะรีบแต่งตัวแล้วไปเรียนกันตอนสิบโมง หลังจากปีย์วราพ้นห้องไป เธอไม่ทันหันกลับมามองคนขรึมเผยอยิ้มอย่างชอบใจ...มีเขาคนเดียวที่รู้...เธอไม่มีทางรู้หรอกว่าเรื่องเมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง คงง่วงจัดและมีอาการป่วยไข้ หากเธอรู้ว่ามีหลายสิ่งเกิดขึ้นคงโวยวายน่าดู
หลังจากนั่งดูคนใส่ชุดคลุมหน้าหวานใสหลับอยู่นาน เขาก็มั่นใจว่าเธอหลับจริงๆ พอเอื้อมมือจะไปแตะแก้มก็พบว่ามันร้อนผ่าว เขาเลื่อนมือขึ้นไปจับหน้าผากดูก็ตกใจ ‘เธอเป็นไข้เหรอ’ พอถามพิจารณาดูจนแน่ใจ เขาก็รู้ว่าปล่อยเธอไว้อย่างนี้ไม่ได้แน่ นลค่อยๆย่อตัวใกล้หญิงสาว ก่อนช้อนมือไปที่หลังของเธอ เหมือนสัมผัสของไออุ่นของเธอจะแล่นถึงเขาได้ในทันที ด้วยคิดว่าชุดว่ายน้ำเธอคงบางเลยไม่ได้ใส่ใจอะไรมากกับไอร้อนๆที่ซึมผ่านมายังแขนหนาของเขา

                  พออุ้มเธอได้ ชุดของเธอที่มัดผมไว้หลวมๆก็ดูเหมือนจะหลุด เขาไม่ใช่คนที่จะฉวยโอกาสกับผู้หญิงตรงหน้าแน่ เขาพยายามขยับตัวเธอให้ใกล้กับเขาขึ้นเพื่อชุดคลุมจะได้ไม่ถูกแรงมือของเขาขยับจนหลุดออก ว่าใกล้กันแล้วก็ไม่เท่ากับที่หญิงสาวใช้มือเรียวน้อยๆของเธอข้างขวากอดคอเขาให้แนบแน่นมากขึ้น ตอนนั้นตัวของนลกลับเป็นฝ่ายที่ยืนตัวแข็งนิ่งอยู่กับที่

                 เขาไม่รู้ว่าตัวเองรับไอร้อนมารึเปล่า แต่เขารู้สึกร้อนๆหนาวๆพิกล ใกล้ผู้หญิงมาก็เยอะ แต่ไม่เคยมีใครทำให้เขารู้สึกแบบนี้ได้ซักครั้ง
ใจที่เคยนิ่ง เต้นเป็นจังหวะก็เต้นตึกตักเหมือนกำลังรัวกลองชุด แต่วินาทีนั้นหน้าอกของเธอก็ใกล้กับเขาแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน แม้แต่มีผ้าคลุมกับชุดว่ายน้ำกั้นไว้ หากนลก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่ามันใกล้กันจนเบียดกัน แค่รู้สึกก็หายใจติดขัด พอเข้าห้องมาวางหญิงสาวไว้ที่เตียงเธอก็เพ้อหาคุณแม่ของเธออยู่ตลอด

‘คุณแม่ขา ปีย์ปวดหัว ปวดหัวมาก’ เขาไม่รู้จะทำยังไงดีเลยรีบลงลิฟต์ไปเรียกพนักงาน และก็ได้ตัวแม่บ้านที่นอนอยู่ชั้นล่างมาดูอาการเธอก่อนจะจัดหายาในตู้มาป้อนคนป่วย... เขาข้ามานั่งแทนที่แม่บ้านที่เดินถือถาดน้ำอุ่นออกไปจากห้อง

                 นลมองดูคนตรงหน้าอย่างสงสารแต่มีความรู้สึกห่วงใยมากกว่า เธอดิ้นไปมาก่อนเอ่ยถึงแต่คำว่า ‘คุณแม่ขา คุณแม่ขา’ นลใช้มือลูบหัวหญิงสาวอย่างเอ็นดู...พอคิดไปถึงเด็กสาวอายุ 15 ที่ต้องสูญเสียคุณแม่ไปช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต แต่เธอก็สามารถเลือกทางเดินได้อย่างถูกต้อง จะเรียกว่าเธอขีดเส้นทางให้ตัวเองได้อย่างสวยงาม มั่นคง และเข้มแข็งมาก

                 เขาเป็นผู้ชายยังแทบจะอยู่ไม่ได้ ในขณะที่ทุกอย่างคุณแม่ก็จัดการหาให้ทั้งค่าใช้จ่าย ที่พักดีๆ จะว่าไปนั่งเรียนให้ดีๆกับใช้เงินเที่ยวไปอย่างสนุกว่างั้นก็ได้ แต่เธอกลับต้องสู้ชีวิตด้วยตัวเอง คริสต์มาสของเธอก็อ้างว้าง ทำไมนะ เขาถึงไม่เดินเข้าไปหาเธอในวันคริสต์มาสกับเธอตั้งแต่แรก ตอนแรกที่มองดูเธอเขาก็รู้สึกว่าคุ้นหน้าเหลือเกิน เหมือนจะเคยเห็นที่ไหน...จนถึงตอนนี้เขายังไม่แน่ใจนักว่าเขาเคยเจอเธอมาก่อนหน้านี้รึเปล่า...และที่นั่นที่เขาพบเธอ...คือที่ไหน ปีไหน...

                 นลจำได้ว่าเขาก้มลงจูบแก้มขาวผ่องของเธออย่างเอ็นดู... ใบหน้าของเธอก็ขาวใสจนไม่รู้จะติว่ายังไง เหมือนไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป คงผ่านการดูแลมาอย่างดี...เหมือนเด็กอายุสิบขวบด้วยซ้ำไปผิวนวลขาวแบบนี้ เขาอดไม่ได้จนต้องไล้นิ้วเรียวลงไปจับแก้มอีกข้างอย่างเบาๆ ก่อนคนป่วยจะรู้สึกตัว เขาก็ได้แต่นอนเฝ้าคนป่วยอยู่ข้างๆเตียงจนถึงเช้า... จะยังไงซะเรื่องนี้จะถูกเก็บไว้เป็นความลับอยู่ในใจของเขาแน่นอน

                เธอไม่มีแฟน... แต่ดันต้องมาเสียแก้มข้างหนึ่งให้เขาหอมซะแล้ว... ถ้าเธอรู้เข้า เขาคงโดนตบไม่ก็โดนข่วนหน้าลาย ชายหนุ่มคิดอย่างตลก...ก่อนจะหัวเราะออกมาดังๆ เวลานี้เองที่ไม่มีใครรู้ว่าบอสหนามเนี๊ยบจะหัวเราะได้น่าเอร็ดอร่อยมากกว่าใคร...

               จากที่เคยขรึมเหมือนน้ำแข็งในช่องแช่แข็ง สายตาดุเหมือนจะกัดกินไส้พนักงาน มาวันนี้เธอเป็นคนคลายความเครียดที่นั่งอึ้งทุกๆวันหลังเลิกงาน แม้กระทั่งวันหยุดของเขา ก็มีความสุขมากขึ้นเมื่อพบเธอ...

แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  แต่งนิยาย
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่