คอลัมน์เช้าแล้วเมืองไทยประจำวันอังคารที่ 15 เมษายน 2557 โดยนายลวดหนามแห่งสำนักข่าวแซดนิวส์ เริ่มงุงงงกับคนแก่เมืองไทยที่วันหยุดสงกรานต์ไม่มีอะไรทำกันหรืออย่างไร
ต้องออกมาประชุม แถลงข่าว อ้างว่าหาทางออกประเทศ แต่คนเหล่านี้ไม่รู้เลยว่าการหาทางออกให้ประเทศไทยของพวกท่านคือการทำลายประเทศในระบอบประชาธิปไตยทั้งนี้ ระหว่างที่คนไทยกำลังเล่นน้ำสงกรานต์อย่างสนุกสนานในวันครอบครัว แต่กลุ่มคนแก่ที่อ้างว่าเป็นรัฐบุคคลออกมาเมื่อวันที่14 เม.ย. ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่นนำโดย พล.อ.สายหยุด เกิดผล อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด นายปราโมทย์ นาครทรรพ นักวิชาการอิสระ พล.อ.อ.เทิดศักดิ์ สัจจะรักษะอดีตรอง ผบ.ทอ. และ ร.อ.ปราศรัย ทรงสุรเวทย์ อดีตผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ ได้ร่วมกันแถลงข่าวเรื่อง “ทางออกประเทศไทยเมื่อยิ่งลักษณ์หมดความชอบธรรมในการปกครองประเทศทั้งทางด้านนิตินัยและพฤตินัย ”
เรียกได้ว่าเป็นวันรวมตัวกันอย่างเป็นทางการออกสื่อมวลชนในวันสงกรานต์ หลายคนมองว่าข่าวนี้เป็นข่าวประหลาด แต่หากวิเคราะห์กันดีๆ จะพบว่ามีการเชื่อมโยงกันในกลุ่มบุคคลที่จะก่อการล้มล้างรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นนัยยะ ของ เหล่าทัพ องค์กรอิสระ ผู้ใหญ่ยุคไดโนเสาร์ นักวิชาการเมายา ฯลฯ เรียกว่าอำนาจเก่าแก่กว่า 60 ปี วางโครงสร้างเพื่อปกป้องตนเองไว้ทุกด้านและทำลายฝ่ายตรงที่คิดต่าง และสร้างภาพให้ดูดี แต่ในยุคนี้มีระบบการสื่อสารที่ดีกว่าสมัยก่อนมาก เพราะแค่แป๊ปเดียวก็รู้กันหมดแล้ว ดังนั้นจึงหลอกคนไทยไม่ได้อีกต่อไป
เพราะคนไทยต้องการผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน นายกฯ ต้องมาจากประชาชน ไม่ใช่การแต่งตั้งตามที่มีการพยายามของฝ่ายไดโนเสาร์ ดังนั้นช่วงนี้เราจะเห็นความรุนแรงต่างๆ เช่น เมื่อคืน เวลา เกือบเที่ยงคืนสถานีเรดการ์ดก็พบความไม่ปกติเกิดขึ้น ส่อสัญญาณบางประการ ด้านของบ้านนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส.ก็โดนระเบิดครั้งที่ 4 ลูกที่ 5
ส่วนเรื่องขำขันกรณีนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ได้เขียนข้อความพร้อมโพสต์รูปภาพผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว โดยเป็นภาพถ่ายนางผีเสื้อสมุทรยืนถือกระบองโดยมีหน้าของตัวเองไปแทนที่ พร้อมกับข้อความสั้นๆ แต่อาจซ่อนความหมายลึกซึ้งเป็นนัยว่า "หลังสงกรานต์ยังคุยไม่รู้เรื่อง ถูกทุบ !!"
ทั้งนี้ กรณีของรัฐุคคลหรือที่หลายฝ่ายเรียกว่า “คณะโมฆะบุคคล” นำโดย พ ล.อ.สายหยุด แถลงข่าวร่ายยาว พรรณณามากมาย แต่ “นายลวดหนาม” สรุปได้ว่า“คณะโมฆะบุคคล” ได้เสนอให้ รัฐบุรุษทำหน้าที่พูดคุยกับองค์กรต่าง ๆ ที่เป็นหลักของบ้านเมืองทั้งตุลาการและทหารและผู้นำทางสังคมเสนอนายกฯ คนกลาง
นายลวดหนามสังเกตุ “คณะโมฆะบุคคล” แล้ว ได้รู้ไต๋ว่าพวกนี้ว่าพยามยามหลีกเลี่ยงมาตรา 7 ที่มีกระแสต่อต้าน โดยระบุว่า สังคมไทยจะยอมรับเหมือนเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์
สุดท้ายก็แบบไต๋มาว่า นายปราโมทย์ นาครทรรพได้ประสานงานไปยัง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งอ้างว่าทำจดหมายไปแล้ว ซึ่งจริงๆ นายปราโมทย์ อาจจะไม่รู้ว่าประชาชนเขามีแหล่งข้อมูลข่าวสารที่กว้างไกล และการอ้างว่าทำจดหมายไปหา พล.อ.เปรม ถือว่าพูดจาดูถูกประชาชนมากเลย เพราะประชาชนเขารู้แล้วว่ามีการับลูก ส่งลูก กันอย่างไรบ้าง
ขณะที่นายปราโมทย์กล่าวยืนยันว่า พวกเราเป็นกลุ่มผู้ใหญ่ที่ไม่ได้พูดจาเลอะเทอะโดยแนวทางของกลุ่มได้มีการศึกษาและย้อนดูประวัติศาสตร์แล้วและเราในฐานะประชาชนก็มีสิทธิและหน้าที่ในการตรวจสอบให้ทุกฝ่ายได้ทำหน้าที่ของตน
การส่งสัญญาณในครั้งนี้นับว่ามีนัยยะสำคัญมากว่า กลุ่มคนเหล่านี้เอาจริงแน่ เพราะต้องสอยนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้ออกจากวงจรการเมืองแน่นอน
ดังนั้น นายลวดหนวดแห่งสำนักข่าวแซดนิวส์ จะฝากบอกไปยังกลุ่มต่างๆ ว่าการ แก้ปัญหาและวิกฤติที่เกิดขึ้นขณะนี้ที่มีความหลากหลายทางความคิด คนทั้งประเทศ ไม่ใช่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอยากให้วิกฤติของชาติยุติลงและหาทางออกทั้งนั้น แต่แนวคิดใดๆ ก็ตาม หากไม่ใช่แนวทางประชาธิปไตยการอ้างว่าจะหาทางออกให้กับประเทศจึงไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้อง และ สังคมไทยไม่ยอมรับอย่างแน่นอน
ระวังจะเกิดสงครามกลางเมือง หากพวกท่านคนเก่าคนแก่ยังมีแนวคิดแบบนี้ ทางที่ถูกต้องคือ กำหนดวันเลือกตั้งให้ประชาชนไปใช้สิทธิ์ตามหน้าที่ 1 คน 1 เสียง ดีกว่าครับท่าน !
นายลวดหนามแห่งสำนักข่าวแซดนิวส์ / รายงาน
เครดิตจาก
http://www.znewsthailand.com/home/index.php/politics/item/545-7
อ่านขำๆ วันสูงอายุ ข่าวคณะโมฆะบุคคลเข็นเปรมเสนอนายกฯอ้างไม่ใช่ ม.7
ต้องออกมาประชุม แถลงข่าว อ้างว่าหาทางออกประเทศ แต่คนเหล่านี้ไม่รู้เลยว่าการหาทางออกให้ประเทศไทยของพวกท่านคือการทำลายประเทศในระบอบประชาธิปไตยทั้งนี้ ระหว่างที่คนไทยกำลังเล่นน้ำสงกรานต์อย่างสนุกสนานในวันครอบครัว แต่กลุ่มคนแก่ที่อ้างว่าเป็นรัฐบุคคลออกมาเมื่อวันที่14 เม.ย. ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่นนำโดย พล.อ.สายหยุด เกิดผล อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด นายปราโมทย์ นาครทรรพ นักวิชาการอิสระ พล.อ.อ.เทิดศักดิ์ สัจจะรักษะอดีตรอง ผบ.ทอ. และ ร.อ.ปราศรัย ทรงสุรเวทย์ อดีตผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ ได้ร่วมกันแถลงข่าวเรื่อง “ทางออกประเทศไทยเมื่อยิ่งลักษณ์หมดความชอบธรรมในการปกครองประเทศทั้งทางด้านนิตินัยและพฤตินัย ”
เรียกได้ว่าเป็นวันรวมตัวกันอย่างเป็นทางการออกสื่อมวลชนในวันสงกรานต์ หลายคนมองว่าข่าวนี้เป็นข่าวประหลาด แต่หากวิเคราะห์กันดีๆ จะพบว่ามีการเชื่อมโยงกันในกลุ่มบุคคลที่จะก่อการล้มล้างรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นนัยยะ ของ เหล่าทัพ องค์กรอิสระ ผู้ใหญ่ยุคไดโนเสาร์ นักวิชาการเมายา ฯลฯ เรียกว่าอำนาจเก่าแก่กว่า 60 ปี วางโครงสร้างเพื่อปกป้องตนเองไว้ทุกด้านและทำลายฝ่ายตรงที่คิดต่าง และสร้างภาพให้ดูดี แต่ในยุคนี้มีระบบการสื่อสารที่ดีกว่าสมัยก่อนมาก เพราะแค่แป๊ปเดียวก็รู้กันหมดแล้ว ดังนั้นจึงหลอกคนไทยไม่ได้อีกต่อไป
เพราะคนไทยต้องการผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน นายกฯ ต้องมาจากประชาชน ไม่ใช่การแต่งตั้งตามที่มีการพยายามของฝ่ายไดโนเสาร์ ดังนั้นช่วงนี้เราจะเห็นความรุนแรงต่างๆ เช่น เมื่อคืน เวลา เกือบเที่ยงคืนสถานีเรดการ์ดก็พบความไม่ปกติเกิดขึ้น ส่อสัญญาณบางประการ ด้านของบ้านนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส.ก็โดนระเบิดครั้งที่ 4 ลูกที่ 5
ส่วนเรื่องขำขันกรณีนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ได้เขียนข้อความพร้อมโพสต์รูปภาพผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว โดยเป็นภาพถ่ายนางผีเสื้อสมุทรยืนถือกระบองโดยมีหน้าของตัวเองไปแทนที่ พร้อมกับข้อความสั้นๆ แต่อาจซ่อนความหมายลึกซึ้งเป็นนัยว่า "หลังสงกรานต์ยังคุยไม่รู้เรื่อง ถูกทุบ !!"
ทั้งนี้ กรณีของรัฐุคคลหรือที่หลายฝ่ายเรียกว่า “คณะโมฆะบุคคล” นำโดย พ ล.อ.สายหยุด แถลงข่าวร่ายยาว พรรณณามากมาย แต่ “นายลวดหนาม” สรุปได้ว่า“คณะโมฆะบุคคล” ได้เสนอให้ รัฐบุรุษทำหน้าที่พูดคุยกับองค์กรต่าง ๆ ที่เป็นหลักของบ้านเมืองทั้งตุลาการและทหารและผู้นำทางสังคมเสนอนายกฯ คนกลาง
นายลวดหนามสังเกตุ “คณะโมฆะบุคคล” แล้ว ได้รู้ไต๋ว่าพวกนี้ว่าพยามยามหลีกเลี่ยงมาตรา 7 ที่มีกระแสต่อต้าน โดยระบุว่า สังคมไทยจะยอมรับเหมือนเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์
สุดท้ายก็แบบไต๋มาว่า นายปราโมทย์ นาครทรรพได้ประสานงานไปยัง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งอ้างว่าทำจดหมายไปแล้ว ซึ่งจริงๆ นายปราโมทย์ อาจจะไม่รู้ว่าประชาชนเขามีแหล่งข้อมูลข่าวสารที่กว้างไกล และการอ้างว่าทำจดหมายไปหา พล.อ.เปรม ถือว่าพูดจาดูถูกประชาชนมากเลย เพราะประชาชนเขารู้แล้วว่ามีการับลูก ส่งลูก กันอย่างไรบ้าง
ขณะที่นายปราโมทย์กล่าวยืนยันว่า พวกเราเป็นกลุ่มผู้ใหญ่ที่ไม่ได้พูดจาเลอะเทอะโดยแนวทางของกลุ่มได้มีการศึกษาและย้อนดูประวัติศาสตร์แล้วและเราในฐานะประชาชนก็มีสิทธิและหน้าที่ในการตรวจสอบให้ทุกฝ่ายได้ทำหน้าที่ของตน
การส่งสัญญาณในครั้งนี้นับว่ามีนัยยะสำคัญมากว่า กลุ่มคนเหล่านี้เอาจริงแน่ เพราะต้องสอยนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้ออกจากวงจรการเมืองแน่นอน
ดังนั้น นายลวดหนวดแห่งสำนักข่าวแซดนิวส์ จะฝากบอกไปยังกลุ่มต่างๆ ว่าการ แก้ปัญหาและวิกฤติที่เกิดขึ้นขณะนี้ที่มีความหลากหลายทางความคิด คนทั้งประเทศ ไม่ใช่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอยากให้วิกฤติของชาติยุติลงและหาทางออกทั้งนั้น แต่แนวคิดใดๆ ก็ตาม หากไม่ใช่แนวทางประชาธิปไตยการอ้างว่าจะหาทางออกให้กับประเทศจึงไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้อง และ สังคมไทยไม่ยอมรับอย่างแน่นอน
ระวังจะเกิดสงครามกลางเมือง หากพวกท่านคนเก่าคนแก่ยังมีแนวคิดแบบนี้ ทางที่ถูกต้องคือ กำหนดวันเลือกตั้งให้ประชาชนไปใช้สิทธิ์ตามหน้าที่ 1 คน 1 เสียง ดีกว่าครับท่าน !
นายลวดหนามแห่งสำนักข่าวแซดนิวส์ / รายงาน
เครดิตจาก http://www.znewsthailand.com/home/index.php/politics/item/545-7