JJNY : 5in1 ปชน.เปิดทางหนีทีไล่│วิโรจน์โร่แจง ชูวิทย์ย้ำอย่าถือสา│ปล่อยข่าวปลุกม็อบ│ปทุมธานีอ่วม│จีนไม่พอใจ ปาปัวนิวกินี

ปชน. เปิดทางหนีทีไล่ คดี 44 ส.ส. เท่าพิภพ ยันแล้วไม่ไปต่อ กรุณพล แย้ม 4 ชื่อแคนดิเดตนายกฯ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5377045
.
.
เปิดหมดเปลือก ทางหนีทีไล่ คดี 44 ส.ส.พรรคส้ม ‘เพชร กรุณพล’ เผย ‘เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร’ จะไม่ลงสมัคร ส.ส.กทม.สมัยหน้า ‘จรัส-วุฒินันท์’ กำลังตัดสินใจ เผยมีคุย ‘กาย’ ขึ้นปาร์ตี้ลิสต์ ‘เท้ง’ แคนดิเคตนายกฯเบอร์ 1 ชื่อ ‘ไหม-ต้น-เติ้ล’ อยู่ในข่ายเบอร์ 2-3
.
เมื่อวันที่ 21 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาชน (ปชน.) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายบุญเลิศ แสงพันธุ์ ส.ส.สมุทรปราการ พรรค ปชน. ได้โลฟ์สดเผยเเพร่งานจัดกิจกรรมสภากาแฟครั้งที่ 1 “ไม่มีดีล มีแต่เดิน เดินหน้าสู่การเลือกตั้งใหม่ เพื่อเตรียมพรรคให้พร้อมสู่การเลือกตั้งครั้งหน้า เพื่อจัดตั้งรัฐบาลที่ดีที่สุด
.
โดยมี นายกรุณพล เทียนสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองโฆษก พรรค ปชน. เป็นหนึ่งในผู้บรรยาย พูดคุยกับผู้เข้าร่วมงาน ทั้งนี้ นายกรุณพลได้ตอบคำถามผู้เข้าร่วมงานตอนหนึ่ง เกี่ยวกับการรับมือของพรรค ในคดีอดีต 44 ส.ส.พรรคก้าวไกล ถูก ป.ป.ช.ตั้งคณะกรรมการไต่สวนเอาผิดจริยธรรมร้ายแรง กรณีการเข้าชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่า ใน 44 ส.ส.นั้นเป็น ส.ส.ปัจจุบันอยู่ 25 คน เป็น ส.ส.เขต 8 และบัญชีรายชื่อ 17 คน สำหรับ ส.ส.เขตปัจจุบัน ที่มีความประสงค์ไม่ไปต่อแล้วคือ นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรค ปชน. ซึ่งเขาบอกว่า เขาทำจบเเล้ว สิ่งที่เขาต้องการทำคือเรื่องสุราก้าวหน้า เขาไม่มีอเจนดาอะไรแล้ว จบ เขาไม่ลงแล้ว ก็จะเหลือ ส.ส. 7 คน
.
นายกรุณพลตอบคำถามอีกว่า ซึ่งเราเชื่อของเราว่าการลงชื่อเสนอกฎหมายไม่ใช่เรื่องผิด แต่ถ้าเกิดกรณีที่แย่ที่สุดจริงๆ ก็ให้ทุกคนไปคุยดูว่าจะไปต่อไหม อย่างกรณี นายจรัส คุ้มไข่น้ำ ส.ส.ชลบุรี ก็ยังอยู่ในช่วงตัดสินใจ รวมถึง นายวุฒินันท์ บุญชู ส.ส.สมุทรปราการ ก็อยู่ในช่วงตัดสินใจว่าจะไปต่อหรือเปล่า ถ้าทั้ง 2 ท่าน ไม่ไปต่อ ก็จะเหลือ 5 คน ก็คือ นายศักดินัย นุ่มหนู ส.ส.ตราด น.ส.ญาณธิชา บัวเผื่อน ส.ส.จันทบุรี นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.กทม. และ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. ซึ่งใน 5 คนนี้เราก็ให้ไปคุยว่า คุณจะหาตัวแทนหรือไม่ ถ้าไม่หาตัวแทน คุณก็ลงสมัครเพราะถ้าถูกตัดสิทธิ ก็จะมีการเลือกตั้งซ่อม เพียง 5 เขต ไม่ได้มีผลอะไรมาก
.
นายกรุณพลกล่าวอีกว่า ขณะที่ในส่วน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 17 คน ถ้าถูกตัดสิทธิ ก็จะดันคนข้างหลังขึ้นมา เราเลยไม่คิดว่ามีปัญหา หรือกำลังคุยกันอยู่ว่าหลายคน ที่เป็น ส.ส.มา และเป็นประเด็นชัดเจน อย่างเช่น นายณัฐชา จะมาอยู่บัญชีรายชื่อแทนไหม และหาคนลงเขตแทน ทุกอย่างมีการพูดคุยแต่ยังไม่ตกผลึกใน ส.ส.อนาคตใหม่ เดิม
.
นายกรุณพลกล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องแคนดิเดตนายกฯของพรรค ปชน.นั้น ยืนยันว่ามีแน่นอน มีมากกว่า 1 คน น่าจะเต็ม 3 คน ส่วนการจัดสรรนั้น นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค ปชน. เป็นแคนดิเดตนายกฯ เบอร์ 1 ส่วนเบอร์ 2-3 เป็นทีมทำงาน ทีมนโยบายที่ทุกคนเห็นหน้าอยู่ ขณะที่การคัดเลือกแคนดิเดต 2-3 นั้น กระบวนการก็คือในที่ประชุม ส.ส.ว่าจะเป็นใคร โดยจะดูความเหมาะสมแต่ยังไม่ลงตัวว่าจะเป็นใคร ซึ่งก็มีชื่อแพลมๆ ออกมาหลายท่าน สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับที่ประชุม ส.ส.คงไม่ได้เข้าที่ประชุมใหญ่แบบที่ให้ประชาชนร่วมโหวต เพราะประชาชนก็ไม่รู้จักหลายคนในพรรค
.
อย่างอาจารย์ต้น ประชาชนก็ไม่รู้ว่าแกเป็นใคร แต่ในพรรคอาจารย์ต้นคือคนวางนโยบายทั้งหมดของพรรค หรือ คุณไหม ก็เป็นคนทำนโยบายทั้งหมดของพรรค หรือ พี่เติ้ล ก็เป็นคนร่างนโยบาย คือเรามีคนแบบนี้เยอะมาก และก็มีคนนอกที่เป็นซัพพอร์ตเตอร์ เราอยู่ข้างหลังที่ตนไม่สามารถบอกได้จริงๆ ว่าเป็นใคร แต่ผมบอกได้แค่ว่าเปิดตัวมา คือรู้จักทั้งประเทศ และก็มีหลายคนที่บอกว่า ขอใกล้วันแล้วจะขอตัดสินใจอีกทีนึง เลือกตั้งครั้งหน้า ถ้ามี 5 ตำแหน่ง ก็ใส่เต็ม” นายกรุณพลกล่าว
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “อาจารย์ต้น” เป็นชื่อเล่นของ นายวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร รองหัวหน้าพรรค ปชน. ฝ่ายยุทธศาสตร์ ส่วน “ไหม” คือ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค ปชน. ฝ่ายนโยบาย ส่วน เติ้ล คือ นายวรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
.

.
วิโรจน์โร่แจงพร้อมรับคำเตือนถึง ‘ด้อมส้ม’ ด้านชูวิทย์ย้ำอย่าถือสา-รักมากก็วิจารณ์มาก
https://www.dailynews.co.th/news/5132949/
.
จากกรณี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อช่วงเช้าวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา ถึง “ด้อมส้ม” ชี้อยากเห็นการเมืองใหม่ แต่กลับเจอการเมืองเก่า ที่แปรสภาพเป็น “ไฮบริด” ย้ำกลายเป็นส้มเน่าที่ว่าเขาแต่กลับเป็นเสียเอง จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างนั้น
.
ล่าสุดทางด้าน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรคประชาชน ตอบนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โดยระบุว่า “ผมต้องขอขอบคุณคุณชูวิทย์สำหรับคำเตือนและข้อเสนอแนะ ผมเป็นคนที่รับฟังทุกคำติติง และรับรู้ถึงความหวังดีของคุณชูวิทย์ รวมถึงเชื่อมั่นในความปรารถนาดีที่คุณชูวิทย์มีต่อการเมืองไทย ที่อยากให้บ้านเมืองของเราเดินไปข้างหน้าเสมอ”
.
ผมขอยืนยันเพื่อให้คุณชูวิทย์สบายใจว่า เราไม่ได้มีดีลใด ๆ ที่ลึกลับซับซ้อนเลยครับ เราไม่ปฏิเสธว่าการเมืองไทยยังเต็มไปด้วยแรงดึงดูดและเกมการเมืองแบบเก่า แต่หากเรายิ่งซ้อนความระแวงเข้าไปในความซับซ้อน ก็จะยิ่งทำให้เราไม่กล้าตัดสินใจอะไรเลยที่จะพาสังคมออกจากวังวนรัฐพันลึกได้ สุดท้ายแล้วเราจึงเลือกที่จะยึดความคิดแบบซื่อ ๆ ตรง ๆ เป็นพื้นฐานในการตัดสินใจครั้งนี้ครับ
.
ในขณะเดียวกัน เราก็ได้ตระเตรียมกลไกการตรวจสอบผ่านสภาอย่างเข้มข้น เพื่อสกัดไม่ให้วิธีการเมืองแบบเดิมกลับมาครอบงำบ้านเมือง ในแบบที่คุณชูวิทย์กังวล ซึ่งผมเองก็กังวลเช่นเดียวกัน ต่อให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการแกล้งเล่นบท จัดฉาก หรืออย่างไรก็ตาม ผมก็พร้อมน้อมรับ แต่สิ่งที่ดีที่สุดที่ผมสามารถทำได้ คือการทำหน้าที่ตรวจสอบ ครม.อนุทิน อย่างเข้มข้นที่สุดและอย่างไม่ลดละ เพื่อพิสูจน์ตนเองต่อไป
.
“ผมขอขอบคุณคุณชูวิทย์อีกครั้ง พร้อมน้อมรับข้อเสนอแนะและคำติติงทุกประการ และยังคงติดตามทุกคำท้วงติงจากคุณชูวิทย์ต่อไป ที่ผ่านมา ผมรับรู้ได้จากหัวใจว่าคุณชูวิทย์มีความปรารถนาดีกับผมและพวกเราเสมอมา ขอบคุณจากใจจริงครับ”
.
อย่างไรก็ตาม ทางด้าน “ชูวิทย์” ก็ได้นำคอมเมนต์ดังกล่าวของนายวิโรจน์มาโพสต์ พร้อมแสดงความเห็นตอบกลับ โดยระบุว่า 
.
“ขอบคุณ คุณวิโรจน์ ที่ได้สื่อสารกับผม ประชาชนที่เลือกพรรคของคุณมาตลอด” ผม และประชาชนจะติดตาม แต่ไม่ใช่จับผิด ผมอยู่ในวงการเมืองไทยมานานพอที่จะรู้ดีว่า การตัดสินใจสำคัญให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศมันยาก และอาจเกิดแรงกระทบมหาศาล เพราะพรรคการเมืองมีกลุ่มผลประโยชน์ มีโหวตเตอร์สนับสนุนความคิดอ่านที่หลากหลาย ผมนั้นเคยอยู่ในวงการเมือง และใช้วิธีการแบบเดียวกับที่คุณวิโรจน์ทำ คือ ซื่อๆ ตรงไปตรงมา แต่ในการเมืองไทยที่แวดล้อมด้วยสิ่งซับซ้อนปัจจัยที่อยู่เหนือความควบคุม ผมว่าจนป่านนี้พรรคประชาชนทุกคนคงตกผลึกรู้ดีแล้วว่า ผมหมายถึงอะไร
.
มาถึงวันนี้ บรรดาผู้บริหารพรรคตลอดจน สส. ที่ทำหน้าที่แทนคนไทยต้องใช้การตัดสินใจทางการเมืองที่แหลมคม เด็ดขาด จากประสบการณ์ทางการเมืองที่ได้รับมาพอสมควรแล้ว ผมเป็นผู้สนับสนุนด้วยใจ ไม่มีข้าง ไม่ใช่อนุรักษนิยม และไม่ใช่เสรีนิยม ผมเป็นคนที่อยู่ข้างไหนก็ได้ ที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
วันนี้บรรดาผู้บริหารพรรคอาจไม่เห็นสิ่งที่ผมเตือน ไม่ใช่ผมไปเก่ง หรือบังอาจใดๆ แต่เพราะผมเข้าใจบริบทการเมืองแบบไทยๆ ในช่วงชีวิตปัจจุบัน ไม่เพ้อฝันไปถึงอนาคตที่ไกลเกินไป ผมเคยเป็นอย่างคุณวิโรจน์ และ สส. พรรคประชาชนมาก่อน เรียนรู้จากความผิดพลาด จนเป็นประสบการณ์ จึงเตือนด้วยความหวังดี พรรคประชาธิปัตย์คือตัวอย่างที่ดี ที่แม้จะเต็มไปด้วยประสบการณ์ ยังพลาดเพียงเพราะการก้าวผิดเพียงก้าวเดียว แม้แต่ระบบพรรคที่ดีอย่างพรรคประชาธิปัตย์ยังพลาด จึงไม่มีอะไรไปการันตีว่าพรรคประชาชนจะไม่พลาด
.
จนบัดนี้คงเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับพรรคที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ผมก็เคยเลือกพรรคประชาธิปัตย์ แต่พรรคการเมืองเป็นทางเลือกที่มีอย่างจำกัด เราต้องการให้พวกท่านได้ใช้อำนาจแทนพวกเราในฐานะประชาชนอย่างดีที่สุด เมื่อใช้ไปในทางที่เราไม่เห็นด้วย จึงเป็นสิทธิที่จะวิพากษ์วิจารณ์ เพราะเราคือผู้เลือกพวกท่านเข้ามาทำหน้าที่
.
เราไม่ใช่คู่แข่งขัน ไม่ได้เสนอตัวมาต่อสู้ทางการเมืองใดๆ ให้พรรคประชาชนมองอนาคตอันใกล้นี้ จากการเลือกตั้งครั้งหน้าเป็นเกณฑ์ว่า คะแนนของพรรค หากมากขึ้นกว่าเดิมแสดงว่าท่านทำถูก แต่หากคะแนนน้อยลงกว่าเดิม แสดงถึงสัญญาณว่าพรรคของท่านพลาดในการตัดสินใจครั้งนี้ ขอบคุณ คุณวิโรจน์ ที่เปิดใจ นี่เป็นวิธีการที่ดีในการที่พรรค หรือสมาชิก สส. จะสื่อสารกับประชาชน ขอให้ประสบความสำเร็จ และคงไว้ด้วยอุดมการณ์
.
งานการเมืองเป็นงานอาสา เป็นตัวแทนประชาชน จึงต้องเปิดใจรับฟัง แม้ว่าผมจะพูดแรง แต่ไม่เคยหวังร้ายแต่อย่างใด ไม่ได้เชียร์ตะพึดตะพือ ไม่ลืมหูลืมตา ทำให้เกิดการหลงตัวเอง แล้วทำให้พรรคพาอุดมการณ์ไปลงเหว คนอย่างผม รักมาก ก็วิจารณ์แรงมาก เป็นธรรมดา อย่าได้ถือสา ผมเป็นเพียงประชาชนคนเดินดิน กินข้าวแดงในคุกมาก่อน เห็นโลกและผู้คนที่หลากหลายมากมาย ในโลกการเมือง เราไม่ได้เลือกคนดี คนที่ไม่เคยพลาด แต่เลือกคนเลวน้อยที่สุด เพราะคนดีไม่สามารถยืนอยู่ได้ในการเมือง..
.
https://www.facebook.com/ChuvitKamolvisit/posts/pfbid0KjjHZ3Kw64UH7G4JFsSrZPS77jF3CxizzHviDZFSVZbRqkk8QtSoYxkGpRCdbZjAl
.

.
ปล่อยข่าวไทยวางลวดหนาม ปลุกม็อบ ตชด.-มวลชนกัมพูชา เข้าพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว บ้านหนองจาน
.
ปลุกม็อบ กัมพูชา ระดม ตชด. สมบทมวลชน เข้าพื้นที่ประชิดบ้านหนองหญ้าแก้ว บ้านหนองจาน หลังปล่อยข่าวไทยจะวางรั้วลวดหนามเพิ่ม
.
วันนี้ (21 ก.ย.68) เพจ Army Military Force โพสต์ข้อความแจ้งว่าในช่วงบ่ายวันนี้ นายอุม เรียตรีย์ ผู้ว่าฯ บันเตียเมียนเจีย - กำนันลี (โต สริน) เกณฑ์มวลชนเขมรโดยอ้างว่าทหารไทยจะเข้ามาดำเนินการขึงรั้วลวดหนามเพิ่มเติมในพื้นที่ ทำให้ชาวเขมรออกมารวมกลุ่มกัน 2 กลุ่ม พร้อมสวมหมวกกันน็อกและถือท่อนไม้ โดยรวมตัวใกล้บ้านหนองจาน และอีกกลุ่มรวมตัวใกล้บ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมชาวเขมรดังกล่าว ยังมีพระสงฆ์กัมพูชามาร่วมกดดันเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยในบริเวณใกล้แนวลวดหนามด้วย พระสงฆ์กัมพูชาจำนวนหนึ่ง หรือที่เรียกกันว่า แครอทเขมร ได้นำหน้ากากที่เชื่อกันว่าสามารถป้องกันก๊าซน้ำตาได้ติดตัวมาด้วย
.
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า นายอุม และกำนันลี ยังเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารมื้อกลางวันให้กับทหารตำรวจและชาวบ้าน ที่ประจำการอยู่ทางเข้าพื้นที่บ้านหนองจาน ติดกับถนนหมายเลข 58 ฝั่งกัมพูชา
.
ขณะที่ในเวลา 17.15น. มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนกัมพูชาจำนวนมากได้เดินทางเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว เพื่อสมทบกำลัง หลังจากที่ ผู้ว่าฯ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่