ก่อนอื่นขออภัยด้วยครับที่ใช้หัวกระทู้แบบภาษา Clickbait 😂🤣😸 .... จุดประสงค์ของกระทู้นี้ก็คือจะเสนอความจริงเกี่ยวกับข่าวที่มีกระแสตั้งแต่เมื่อวานครับ เพราะเกรงว่าการที่มีคนอเมริกันมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อาจจะทำให้การแชร์ข่าวในโซเชียลของไทยเข้าใจกันไปแบบผิด ๆ ได้ครับ
ต้นทางมาจากการนำเสนอข่าว
จากฝั่งกัมพูชาซึ่งอ้างว่ามีการเชิญ ไมเคิล อัลฟาโร (Michael Alfaro)
นักข่าวและผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรองและความมั่นคงประจำทำเนียบขาวของสหรัฐ เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่ชายแดนที่จุดผ่านแดนบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว (อยู่ตรงข้ามกับจังหวัดบันทายมีชัยของกัมพูชา) ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการปิดกั้นด้วยรั้วลวดหนามและยางรถยนต์โดยทหารไทย
ผมก็ขอเรียนว่านาย Michael A Alfaro ไม่ใช่ผู้ประกาศทางการของทำเนียบขาว ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับทำเนียบขาวใด ๆ ทั้งสิ้น Michael A Alfaro เป็นเพียงเจ้าของบริษัท PR แห่งหนึ่งในวอชิงตันดีซีชื่อ Capitol Hill & Friends ซึ่งจากข้อมูลเว็บไซต์แล้วบริษัทนี้
เพิ่งก่อตั้งในปีนี้ มีพนักงาน 2 คน มีการแสดงผลงานเพียง 2 งาน เป็นไปได้สูงว่าจะเป็นหน่วยงาน Scam อีกแห่ง
ที่กัมพูชาจ้างมาเพื่อสร้างกระแสโดยเฉพาะ
ย้ำอีกครั้ง Michael A Alfaro ไม่ใช่บุคคลที่น่าเชื่อถือหรือมีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับหน่วยงานรัฐของอเมริกา เขาเป็นเพียงลอบบี้ยิสท์ที่เขมรไปจ้างมาเท่านั้น
ท่านลองดูคลิปนี้ครับ
https://www.facebook.com/watch/?v=1792341481705751
ลักษณะการพูดและภาษาที่เจ้าคนนี้เลือกใช้
ไม่มีความเป็นมาตรฐานของสื่อมวลชนหรือหน่วยงานกลางเลยแม้แต่น้อย ลักษณะการพูดถ้าเอาแบบบ้าน ๆ ก็คือเข้าข้างเขมรเต็มตีน (ซึ่งก็แน่นอนอยู่แล้วเพราะเขมรจ้างเจ้าคนนี้มา) คำพูดทุกประโยคอารมณ์มาเต็มมีลักษณะเหมือนกับนักการเมืองที่โจมตีฝ่ายตรงข้าม คือโจมตีไทยอย่างหนักว่าเราโหดร้ายกับเขมร โหดร้ายกับประชาชนชาวบ้านตาดำ ๆ ปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้ชาวบ้านเข้าบ้าน ทำให้ประชาชนเขมรต้องไร้ที่อยู่อาศัย
นี่คือประโยคที่ไอ้นี่พูด ....
" Thailand has continued to insult President Trump by violating the peace agreement.
Wait until President Trump see this Thailand, just wait. You think you're the boss? Wait till the president of the United States finds out exactly what happens on the border.
What you see in Cambodia is not a threat. You see love. You see compassion. You see people. You see a community. You see a country that chooses peace before war. And what Thailand is doing right now is not just a violation of the Paris Peace Accords. It's a violation of President Trump's call to cease fire "
ประเทศไทยยังคงดูหมิ่นประธานาธิบดี Trump ด้วยการละเมิดข้อตกลงสันติภาพม เดี๋ยวดูนะ, Trump จะเห็นเรื่องนี้ที่ประเทศไทย คุณคิดว่าตัวเองเป็นตัว Boss เหรอ ? ประธานาธิบดีสหรัฐจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ชายแดนกันแน่.
สิ่งที่คุณเห็นที่นี่ในกัมพูชาไม่ใช่ภัยคุกคาม คุณเห็นความรัก คุณเห็นความเห็นอกเห็นใจ คุณเห็นผู้คน คุณเห็นชุมชน คุณเห็นประเทศที่เลือกสันติภาพก่อนสงคราม (อันนี้แทบอ้วก 😂🤣😸) และสิ่งที่ประเทศไทยกำลังทำอยู่ในขณะนี้ไม่ใช่แค่การละเมิดข้อตกลงสันติภาพปารีส แต่มันเป็นการละเมิดข้อเรียกร้องของประธานาธิบดี Trump ให้หยุดยิง
จากประโยคที่เจ้านี่พูดไป ถ้าดูในคลิปจะเห็นว่ามันแทบไม่ต่างจากไม่ต่างอะไรจากนักแสดงรางวัลออสการ์ อารมณ์มาเต็มมาก .... มันก็เป็นไปตามสไตล์ของเขาล่ะครับเพราะเขาเป็น lobbyist หรือจะบอกว่าเขาเป็น Influencer คนนึงก็ยั่งได้ และเจ้าคนนี้ยังมีลักษณะเฉพาะเหมือนกับพวกข่าว "แอบอ้าง" ต่าง ๆ ที่เราเคยเห็นใน TV ก็คือชอบถ่ายภาพคู่กับบุคคลที่มีชื่อเสียง/บุคคลที่มีอำนาจ ฟอร์มไอ้พวกเนี้ยเหมือนกันหมดล่ะครับ
สามภาพนี้คือตอนที่ทหารกัมพูชาเกณฑ์เด็กและชาวบ้านออกมาต้อนรับเพื่อจัดฉากแสดงละครบีบน้ำตา เรียกความสงสาร พร้อมกล่าวหาว่าทหารไทยรังแกชาวบ้านด้วยการปิดทางเข้าหมู่บ้านและต้องการที่จะยึดดินแดนของกัมพูชา .... ซึ่งจริง ๆ แล้วบ้านเรือนหลายหลังของชาวกัมพูชาในพื้นที่ดังกล่าวสร้างขึ้นในลักษณะรุกล้ำมาในของประเทศไทยนานแล้ว (ซึ่งคล้ายคลึงกับที่เกิดขึ้นในพื้นที่ช่องอานม้า)
คนที่เป็นตัวจัดแจงให้นาย Michael Alfaro เข้ามาดำเนินการ IO ต่าง ๆ คือนาย "Soy Sopheap" ผู้อำนวยการและเจ้าของ DAP Media Center ที่มีสื่อหลายประเภทในกัมพูชา
https://www.facebook.com/soy.sopheap.5/
facebook ของ Soy Sopheap ก็เต็มไปด้วยการเสนอข้อมูลเพื่อทำให้เชื่อได้ว่านาย Michael Alfaro มีความสนิทชิดเชื้อกับ TRUMP และทำงานให้ TRUMP ซึ่งความจริงแล้วไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย Michael Alfaro เคยระดมทุนให้ TRUMP ในการเลือกตั้งเท่านั้นจึงมีโอกาสได้ถ่ายรูปกับ TRUMP หลายรูป
กรณีข่าวนาย Michael Alfaro ผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรองและความมั่นคงประจำทำเนียบขาวของสหรัฐ ....
ต้นทางมาจากการนำเสนอข่าวจากฝั่งกัมพูชาซึ่งอ้างว่ามีการเชิญ ไมเคิล อัลฟาโร (Michael Alfaro) นักข่าวและผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรองและความมั่นคงประจำทำเนียบขาวของสหรัฐ เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่ชายแดนที่จุดผ่านแดนบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว (อยู่ตรงข้ามกับจังหวัดบันทายมีชัยของกัมพูชา) ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการปิดกั้นด้วยรั้วลวดหนามและยางรถยนต์โดยทหารไทย
ผมก็ขอเรียนว่านาย Michael A Alfaro ไม่ใช่ผู้ประกาศทางการของทำเนียบขาว ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับทำเนียบขาวใด ๆ ทั้งสิ้น Michael A Alfaro เป็นเพียงเจ้าของบริษัท PR แห่งหนึ่งในวอชิงตันดีซีชื่อ Capitol Hill & Friends ซึ่งจากข้อมูลเว็บไซต์แล้วบริษัทนี้เพิ่งก่อตั้งในปีนี้ มีพนักงาน 2 คน มีการแสดงผลงานเพียง 2 งาน เป็นไปได้สูงว่าจะเป็นหน่วยงาน Scam อีกแห่งที่กัมพูชาจ้างมาเพื่อสร้างกระแสโดยเฉพาะ
ย้ำอีกครั้ง Michael A Alfaro ไม่ใช่บุคคลที่น่าเชื่อถือหรือมีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับหน่วยงานรัฐของอเมริกา เขาเป็นเพียงลอบบี้ยิสท์ที่เขมรไปจ้างมาเท่านั้น
ท่านลองดูคลิปนี้ครับ
https://www.facebook.com/watch/?v=1792341481705751
ลักษณะการพูดและภาษาที่เจ้าคนนี้เลือกใช้ ไม่มีความเป็นมาตรฐานของสื่อมวลชนหรือหน่วยงานกลางเลยแม้แต่น้อย ลักษณะการพูดถ้าเอาแบบบ้าน ๆ ก็คือเข้าข้างเขมรเต็มตีน (ซึ่งก็แน่นอนอยู่แล้วเพราะเขมรจ้างเจ้าคนนี้มา) คำพูดทุกประโยคอารมณ์มาเต็มมีลักษณะเหมือนกับนักการเมืองที่โจมตีฝ่ายตรงข้าม คือโจมตีไทยอย่างหนักว่าเราโหดร้ายกับเขมร โหดร้ายกับประชาชนชาวบ้านตาดำ ๆ ปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้ชาวบ้านเข้าบ้าน ทำให้ประชาชนเขมรต้องไร้ที่อยู่อาศัย
สามภาพนี้คือตอนที่ทหารกัมพูชาเกณฑ์เด็กและชาวบ้านออกมาต้อนรับเพื่อจัดฉากแสดงละครบีบน้ำตา เรียกความสงสาร พร้อมกล่าวหาว่าทหารไทยรังแกชาวบ้านด้วยการปิดทางเข้าหมู่บ้านและต้องการที่จะยึดดินแดนของกัมพูชา .... ซึ่งจริง ๆ แล้วบ้านเรือนหลายหลังของชาวกัมพูชาในพื้นที่ดังกล่าวสร้างขึ้นในลักษณะรุกล้ำมาในของประเทศไทยนานแล้ว (ซึ่งคล้ายคลึงกับที่เกิดขึ้นในพื้นที่ช่องอานม้า)
คนที่เป็นตัวจัดแจงให้นาย Michael Alfaro เข้ามาดำเนินการ IO ต่าง ๆ คือนาย "Soy Sopheap" ผู้อำนวยการและเจ้าของ DAP Media Center ที่มีสื่อหลายประเภทในกัมพูชา
https://www.facebook.com/soy.sopheap.5/
facebook ของ Soy Sopheap ก็เต็มไปด้วยการเสนอข้อมูลเพื่อทำให้เชื่อได้ว่านาย Michael Alfaro มีความสนิทชิดเชื้อกับ TRUMP และทำงานให้ TRUMP ซึ่งความจริงแล้วไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย Michael Alfaro เคยระดมทุนให้ TRUMP ในการเลือกตั้งเท่านั้นจึงมีโอกาสได้ถ่ายรูปกับ TRUMP หลายรูป