ผมว่า การปฏิรูปนั้น มันเลี่ยงไม่ได้แล้วที่จะต้องมี
พรรครัฐบาลพยายามจะแก้ไข รธน 2550 มานานตั้งแต่สมัคร สุนทรเวชได้เป็นนายกแล้ว แต่จนป่านนี้ก็ยังแก้ไม่ได้ ดังนั้นเป็นที่แน่ใจได้ว่า ฝ่ายรัฐบาล รวมทั้งมวลชนที่สนับสนุนนั้น เห็นด้วยกับการแก้ไขกติกาแน่นอน
ส่วน ปชป กปปส และฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ก็มีจุดประสงค์ที่จะแก้ไขกติกาแน่นอน โดยการแก้ไขกติกาครั้งนี้มาในนามของคำว่า "ปฏิรูป (จริงๆก็กติกาที่พวกตัวเองเขียนมานั่นแหล่ะ)
ดังนั้นผมขอเสนอให้ 2 ฝ่ายเสนอประชาชนดังต่อไปนี้
สำหรับ กปปส. ผมเสนอ 3 ทางเลือกดังต่อไปนี้
1. ไประดมความคิด เพื่อให้เขียนเป็นรัฐธรรมนูญ 50 ฉบับแก้ไขโดยมวลมหาประชาชน ออกมานำเสนอต่อสาธารณะชน
2. หากมีการเปลี่ยนแปลงในรัฐธรรมนูญเยอะ ผมเสนอให้คุณไม่ต้องยึดกับปี50 ให้คุณร่างฉบับ ปี 57 เวอชั่นมวลมหาประชาชน ออกมาเป็นของคุณเองเลย
3. หากยังไม่อยากเขียนเป็นรัฐธรรมนูญ ผมขอให้คุณเสนอรายชื่อสภาประชาชนในแบบมวลมหาประชาชนของคุณสู่สาธารณะ
ให้ กปปส. เลือกแนวทางใดแนวทางหนึ่งนะครับ หรืออาจมีแนวทางอื่นที่จะเสนอต่อประชาชนทั้งประเทศ
สำหรับรัฐบาล ผมเสนอทางเลือกให้ท่านนำเสนอต่อประชาชน 3 ทางเลือก
1. ไประดมความคิด เพื่อให้เขียนเป็นรัฐธรรมนูญ 50 ฉบับแก้ไขโดยฝ่ายของท่านเอง
2. หรือไม่ท่านก็ยก รธน. ฉบับปี 40 มาเลยก็ได้
3. หรือไม่ก็นำเสนอ โมเดลการเลือกตั้ง สสร. เข้าไปร่าง รธน. อีกครั้งหนึ่ง
ให้แต่ละฝ่าย เลือกแนวทางใดแนวทางหนึ่ง แล้วนำเสนอต่อสาธารณะ เพื่อทำประชามติโดยประชาชนทั้งประเทศ โดยการทำประชามติ อนุญาติให้ ทุกฝ่ายตรวจสอบการลงคะแนนได้ทุกขั้นตอน
เช่น กปปส.เลือกโมเดลเสนอ ทำรธน. 57 ฉบับมวลมหาประชาชน รัฐบาลเลือกทำโมเดล สสร. ก็ให้ประชาชนตัดสินว่าจะเอาแบบไหน
หรือ กปปส. เลือกโมเดลสภาประชาชน รัฐบาลเลือกโมเดลรธนปี 40 ก็เอามาให้ประชาชนตัดสินกัน
แค่นี้ท่านก็ได้ปฏิรูปก่อนเลือกตั้งสมใจอยากแล้ว แถมได้รับความชอบธรรมในการทำประชามติด้วย ไม่ต้องเถียงด้วยว่า ฝ่ายไหนเยอะกว่าฝ่ายไหน
แถมการทำประชามติเป็นการทำโดยเสียงทั้งประเทศ ไม่ได้มีเขตเล็ก เขตใหญ่ เขตอะไร การซื้อเสียงนั้น ถ้าจะทำ การตรวจสอบคะแนนของหัวคะแนนเป็นไปได้ยาก ถึงยากที่สุด จนเรียกว่าซื้อเสียงได้ยากมาก เพราะเป็นคะแนนแบบนับทั้งประเทศ
จริงๆแล้วแม้กระทั่ง ในยุคเผด็จการ เราประชาชนยังได้ลงมติรับ รธน. ถึงแม้ จะเป็นการลงมติ รธน. โดยอีกฝ่ายกั๊กทางเลือกไว้ก็เหอะ (โดยบอกว่าถ้าไม่รับปี 50 จะเอาฉบับไหนมาใช้ก็ไม่รู้ ขู่ให้เรารับปีศาจเพื่อหลีกเลี่ยงปีศาจที่ใหญ่กว่า) แต่ถึงกระนั้นเรายังได้ใช้สิทธิ์ เลือกจะรับหรือไม่รับ
แต่ในปัจจุบัน มันก็ยังไม่ถึงกับเป็นยุคเผด็จการ แล้วท่านจะให้ปฏิรูปโดยไม่เอาเสียงประชาชนได้อย่างไร
พอดีฟัง อ.วีรพัฒน์ โต้กับคุณ ชวนนท์ ผมไม่ค่อยถูกใจโมเดลของ อ.วีรพัฒน์เท่าไหร่ เพราะให้เลือกตั้งเพื่อมีรัฐบาล 6 เดือนถึง 1 ปี แล้วไปปฏิรูปโดยไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล แล้วไอ้คณะปฏิรูปจะมาจากไหนอะไรยังไง ก็ยังไม่รู้ แล้วประชาชนจะเห็นด้วยหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ ผมว่าไม่ใช่โมเดลที่เป็นประชาธิปไตยนัก
เอาแบบนี้ดีกว่า วัดกันไปเลย ว่าประชาชนอยากปฏิรูปแบบไหน ปฏิรูปโดยใคร และปฏิรูปอย่างไร
ผมว่าไหนๆก็ไม่มีใครเค้าเอา รธน.50 แล้ว กปปสก็เย้วๆบอกว่าจะเอากติกาใหม่ รัฐบาลก็อยากจะโละปี50ทิ้งไปเสียเหลือเกิน
อย่ากระนั้นเลย มาทำ รธน. แข่งกันเหอะ แล้วก็แก้กติกาไปตามเสียงประชามติ จบ
โมเดลง่ายๆ ถ้าอยากปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง
พรรครัฐบาลพยายามจะแก้ไข รธน 2550 มานานตั้งแต่สมัคร สุนทรเวชได้เป็นนายกแล้ว แต่จนป่านนี้ก็ยังแก้ไม่ได้ ดังนั้นเป็นที่แน่ใจได้ว่า ฝ่ายรัฐบาล รวมทั้งมวลชนที่สนับสนุนนั้น เห็นด้วยกับการแก้ไขกติกาแน่นอน
ส่วน ปชป กปปส และฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ก็มีจุดประสงค์ที่จะแก้ไขกติกาแน่นอน โดยการแก้ไขกติกาครั้งนี้มาในนามของคำว่า "ปฏิรูป (จริงๆก็กติกาที่พวกตัวเองเขียนมานั่นแหล่ะ)
ดังนั้นผมขอเสนอให้ 2 ฝ่ายเสนอประชาชนดังต่อไปนี้
สำหรับ กปปส. ผมเสนอ 3 ทางเลือกดังต่อไปนี้
1. ไประดมความคิด เพื่อให้เขียนเป็นรัฐธรรมนูญ 50 ฉบับแก้ไขโดยมวลมหาประชาชน ออกมานำเสนอต่อสาธารณะชน
2. หากมีการเปลี่ยนแปลงในรัฐธรรมนูญเยอะ ผมเสนอให้คุณไม่ต้องยึดกับปี50 ให้คุณร่างฉบับ ปี 57 เวอชั่นมวลมหาประชาชน ออกมาเป็นของคุณเองเลย
3. หากยังไม่อยากเขียนเป็นรัฐธรรมนูญ ผมขอให้คุณเสนอรายชื่อสภาประชาชนในแบบมวลมหาประชาชนของคุณสู่สาธารณะ
ให้ กปปส. เลือกแนวทางใดแนวทางหนึ่งนะครับ หรืออาจมีแนวทางอื่นที่จะเสนอต่อประชาชนทั้งประเทศ
สำหรับรัฐบาล ผมเสนอทางเลือกให้ท่านนำเสนอต่อประชาชน 3 ทางเลือก
1. ไประดมความคิด เพื่อให้เขียนเป็นรัฐธรรมนูญ 50 ฉบับแก้ไขโดยฝ่ายของท่านเอง
2. หรือไม่ท่านก็ยก รธน. ฉบับปี 40 มาเลยก็ได้
3. หรือไม่ก็นำเสนอ โมเดลการเลือกตั้ง สสร. เข้าไปร่าง รธน. อีกครั้งหนึ่ง
ให้แต่ละฝ่าย เลือกแนวทางใดแนวทางหนึ่ง แล้วนำเสนอต่อสาธารณะ เพื่อทำประชามติโดยประชาชนทั้งประเทศ โดยการทำประชามติ อนุญาติให้ ทุกฝ่ายตรวจสอบการลงคะแนนได้ทุกขั้นตอน
เช่น กปปส.เลือกโมเดลเสนอ ทำรธน. 57 ฉบับมวลมหาประชาชน รัฐบาลเลือกทำโมเดล สสร. ก็ให้ประชาชนตัดสินว่าจะเอาแบบไหน
หรือ กปปส. เลือกโมเดลสภาประชาชน รัฐบาลเลือกโมเดลรธนปี 40 ก็เอามาให้ประชาชนตัดสินกัน
แค่นี้ท่านก็ได้ปฏิรูปก่อนเลือกตั้งสมใจอยากแล้ว แถมได้รับความชอบธรรมในการทำประชามติด้วย ไม่ต้องเถียงด้วยว่า ฝ่ายไหนเยอะกว่าฝ่ายไหน
แถมการทำประชามติเป็นการทำโดยเสียงทั้งประเทศ ไม่ได้มีเขตเล็ก เขตใหญ่ เขตอะไร การซื้อเสียงนั้น ถ้าจะทำ การตรวจสอบคะแนนของหัวคะแนนเป็นไปได้ยาก ถึงยากที่สุด จนเรียกว่าซื้อเสียงได้ยากมาก เพราะเป็นคะแนนแบบนับทั้งประเทศ
จริงๆแล้วแม้กระทั่ง ในยุคเผด็จการ เราประชาชนยังได้ลงมติรับ รธน. ถึงแม้ จะเป็นการลงมติ รธน. โดยอีกฝ่ายกั๊กทางเลือกไว้ก็เหอะ (โดยบอกว่าถ้าไม่รับปี 50 จะเอาฉบับไหนมาใช้ก็ไม่รู้ ขู่ให้เรารับปีศาจเพื่อหลีกเลี่ยงปีศาจที่ใหญ่กว่า) แต่ถึงกระนั้นเรายังได้ใช้สิทธิ์ เลือกจะรับหรือไม่รับ
แต่ในปัจจุบัน มันก็ยังไม่ถึงกับเป็นยุคเผด็จการ แล้วท่านจะให้ปฏิรูปโดยไม่เอาเสียงประชาชนได้อย่างไร
พอดีฟัง อ.วีรพัฒน์ โต้กับคุณ ชวนนท์ ผมไม่ค่อยถูกใจโมเดลของ อ.วีรพัฒน์เท่าไหร่ เพราะให้เลือกตั้งเพื่อมีรัฐบาล 6 เดือนถึง 1 ปี แล้วไปปฏิรูปโดยไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล แล้วไอ้คณะปฏิรูปจะมาจากไหนอะไรยังไง ก็ยังไม่รู้ แล้วประชาชนจะเห็นด้วยหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ ผมว่าไม่ใช่โมเดลที่เป็นประชาธิปไตยนัก
เอาแบบนี้ดีกว่า วัดกันไปเลย ว่าประชาชนอยากปฏิรูปแบบไหน ปฏิรูปโดยใคร และปฏิรูปอย่างไร
ผมว่าไหนๆก็ไม่มีใครเค้าเอา รธน.50 แล้ว กปปสก็เย้วๆบอกว่าจะเอากติกาใหม่ รัฐบาลก็อยากจะโละปี50ทิ้งไปเสียเหลือเกิน
อย่ากระนั้นเลย มาทำ รธน. แข่งกันเหอะ แล้วก็แก้กติกาไปตามเสียงประชามติ จบ