กองทัพ กับ รัฐบาล มติชน vs ไทยรัฐ เห็นต่างกันไหม !!!!!!!!!!!!!

กระทู้สนทนา
ประเทศไทยใน "บังเกอร์"  คอลัมน์ ที่เห็นและเป็นไป    มติชนออนไลน์


หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 9 มีนาคม 2557




การขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ และล้มระบอบทักษิณ ยืดเยื้อมา 4 เดือน

มีปฏิบัติการชัตดาวน์กรุงเทพฯ เข้าปิดสถานที่ราชการ จนล่าสุดเลิกชัตดาวน์ไปแล้ว
เหลือแต่ปฏิบัติการปิดหน่วยราชการ

นอกเหนือจากเรียกร้องให้ข้าราชการหยุดทำงานรับใช้รัฐบาล ก็ยังมีเสียงเรียกร้องการออกโรงของทหาร

ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ต้องยืนยันหลายครั้งหลายหนว่า ทหารจะวางตัวเป็นกลาง

ยืนกระต่ายขาเดียว ไม่ออกมาทำปฏิวัติ แต่กดดันให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาล และฝ่ายการเมือง เร่งดำเนินการ

ความหวังว่าจะขับไล่รัฐบาลด้วยการรัฐประหาร แบบเดียวกับปี 2549 จึงรางเลือนไป

ภาพรวมของสถานการณ์ขณะนี้ ถนนทุกสายมุ่งไปยังองค์กรอิสระ และศาลรัฐธรรมนูญ

ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และรัฐบาลเพื่อไทย มีฐานะเป็น "จำเลยหลัก" ในองค์กรเหล่านี้หลายต่อหลายคดี

ส่วนโจทก์หลัก ผู้ใช้บริการหลักขององค์กรเหล่านี้ แน่นอนว่า ย่อมเป็นทีมกฎหมายของ
พรรคประชาธิปัตย์ และ "เครือข่าย"

แต่ละเรื่องที่ยื่นไป ล้วนข้อหาหนักๆ พอที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้ทั้งสิ้น

ทั้งด้วยการให้นายกฯหยุดทำหน้าที่ หรือนำไปสู่การฟ้องร้องคดีอาญา

หรือเบาะๆ ก็ลดหรือบั่นทอนความชอบธรรมในฐานะที่เป็นรัฐบาล

ท่ามกลางแรงบีบ และวงล้อมที่กระชับเข้าไปเรื่อยๆ น.ส.ยิ่งลักษณ์และรัฐบาลประกาศต่อสู้
ทำหน้าที่นายกฯจนถึงนาทีสุดท้าย

ต่างฝ่ายต่างเดินหน้า คิวแรกๆ ที่วางไว้แล้ว ได้แก่ การลงมติของศาลรัฐธรรมนูญ
ในคดีเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ที่กำหนดไว้ในวันที่ 12 มี.ค.นี้

เป็นเหตุการณ์สำคัญที่ทุกกลุ่มอำนาจในแวดวงการเมืองจับตาดูอยู่

สำหรับพรรคเพื่อไทยและคนเสื่อแดง ซึ่งมีบทเรียนตกจากอำนาจด้วยวิธีนี้มาแล้ว
ถือว่าตึงเครียดไม่น้อย

สะท้อนให้เห็นจากคำกล่าวของนายชัยเกษม นิติศิริ รมว.ยุติธรรม ที่กล่าวว่า
จะอย่างไรก็ต้องยอมรับในคำตัดสิน

แม้ว่าจะสั่งให้เรียกสุนัขว่าสุกร ก็ต้องว่าตามกัน

ขณะเดียวกัน มีการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงในภาคเหนือและอีสาน ด้วยอุณหภูมิร้อนฉ่า

ซ้อมใหญ่กันไปแล้ว ด้วยการเปิดเวทีที่ทุ่งศรีเมือง อุดรธานี ก่อนเคลื่อนไปกาฬสินธุ์
และต่อไปยังขอนแก่น

ข้ามมาปลายสัปดาห์นี้ จะไปชุมนุมกันที่ จ.เชียงใหม่

พื้นที่ "ล้านนา" ที่กำลังเป็นข่าวใหญ่ว่า กองทัพบกไม่พอใจเสื้อแดง ที่ขึ้นป้ายผ้า "สปป.ล้านนา"
แปลความกันเองว่า "สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนล้านนา" ถึงกับให้ทหารไปแจ้งความเอาผิด

ทั้งที่ความจริง ก็คือ "สมัชชาปกป้องประชาธิปไตยล้านนา" ซึ่งแม่ข่ายใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ เป็น
นักวิชาการรุ่นใหม่ที่มีจุดยืนประชาธิปไตยเข้มข้น ยังไม่ได้ขายตัวขายวิญญาณให้ใคร

จน น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องเคลียร์กับแม่ทัพนายกองในที่ประชุมสภากลาโหม คลี่คลายไประดับหนึ่ง

หัวข้อของเวทีเสื้อแดงในเวทีดังกล่าว คงหนีไม่พ้นเรื่องการทำงานขององค์กรอิสระ ศาลรัฐธรรมนูญ
ที่เป็นเป้าการวิพากษ์แบบเจ้าประจำอยู่แล้ว

อีกหนึ่งเป้าหมายใหม่ในเวทีปราศรัย คือ กองทัพ ซึ่งเดิมแกนนำ นปช.พยายามละเว้น จนกระทั่ง
มาเกิดเรื่อง "สปป.ล้านนา"

บทบาทของกองทัพ นอกจากเปิดประเด็นเข้าไปเดินชนเสื้อแดงเต็มๆ ในกรณี สปป.ล้านนาแล้ว
ยังได้แก่ การตั้งบังเกอร์คุ้มกันม็อบ กปปส. อยู่ตามจุดต่างๆ

เป็นภาพที่ขึงขัง มีกลิ่นอายสงคราม แปลกหูแปลกตาสำหรับเมืองหลวงอยู่เหมือนกัน

จนนายกฯขอให้ปรับบังเกอร์กลางกรุงเหล่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดภาพออกไปทั่วโลก
และลดความตื่นกลัวของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ

โดยที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รับจะแก้ไข แต่มีการปล่อยมุขแซวนายกฯเรื่อง
ติดม่านสีชมพู ประดับดอกไม้ พอให้เฮฮา

แต่ในบรรยากาศหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี่ คงฮากันได้ไม่เต็มเสียงนัก

สะท้อนบรรยากาศหวาดระแวง แตกร้าวจนต่อไม่ติด ก่อนเข้าสู่ภาวะแตกหักในเวลาอันใกล้

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1394378854&grpid=&catid=02&subcatid=0200


กองทัพกับเสื้อแดง    หมัดเหล็ก   ไทยรัฐออนไลน์

รองโฆษกกองทัพบก พ.อ.วินธัย สุวารี พูดถึงกรณี วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋
แกนนำเสื้อแดงปทุมธานี ที่นำ  แผ่นป้ายแบ่งแยกดินแดนมาติดตามสะพานลอย  ว่า
ได้มอบหมายให้นายทหารพระธรรมนูญ ไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษแล้ว ซึ่งก่อน
หน้านี้ก็ให้เจ้าหน้าที่ทหารไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ  แกนนำ กลุ่มเสื้อแดงเชียงใหม่
ไว้แล้วเช่นกัน  ในข้อหาแบ่งแยกประเทศเหมือนกัน

จะเห็นว่า งานนี้กองทัพได้ออกมาแสดงบทบาทเต็มที่ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้  การชุมนุมของ
กปปส. และพฤติกรรมของแกนนำ กปปส. ก็นำไปสู่การแบ่งแยกประเทศ ปลุกระดมให้คน
ในชาติรู้สึกเกลียดชัง ไม่เสียภาษี ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ หรือชวนคน
ต่างด้าวมาล้มล้างการปกครอง กองทัพก็ยังพยายามแสดงตัวเป็นกลางๆ อ้างปล่อยให้
การเมืองแก้ด้วยการเมือง

มีนักวิชาการท่านหนึ่ง  แสดงความเห็นที่ค่อนข้างจะตรงประเด็น ประทับจิต นีละไพจิต ลูกสาว
สมชาย นีละไพจิต  ตั้งข้อสังเกตว่า ที่ผ่านมาเหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ มีความรุนแรง
และแสดงเจตนารมณ์ในการแบ่งแยกดินแดนชัดเจน การติดป้ายแบ่งแยกดินแดนมีบ่อยๆ ทำ
มาเป็นปีๆ บางครั้งก็มี ธงชาติประเทศเพื่อนบ้าน มาติดตามเสาไฟฟ้าต่างๆ แต่ทางเจ้าหน้าที่
ไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ

แต่กรณีนี้เป็น การแสดงความรู้สึกของชาวบ้านที่คิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม  จาก องค์กรอิสระ
กระบวนการยุติธรรมและกองทัพ หรือจะเลยไปจนถึงอำนาจเหนือรัฐธรรมนูญด้วย   พยายามที่
จะหาทางระบายออก ไม่ใช่เป็นขบวนการหรือองค์กรที่มีการเคลื่อนไหวเหมือนการก่อการร้ายใน
ภาคใต้แต่อย่างใด

เหมือนตั้งใจจะหาเรื่อง

ประกอบกับเวลาเดียวกัน กปปส. ที่มีเป้าหมายไล่  รัฐบาลนายกฯ ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร ออกจาก
การรักษาการเพื่อจะ ขอนายกฯพระราชทาน ตั้งรัฐบาลพระราชทานให้ได้ มีการเคลื่อนไหวอย่าง
เต็มที่ ยกสุดท้ายไปจบที่  ศาลรัฐธรรมนูญ โดยพรรคประชาธิปัตย์ ได้มอบหมายให้ทนายความ
ไปร้องศาลรัฐธรรมนูญอาศัยมาตรา 68 ขอให้มีการวินิจฉัยชี้ช่องทางการบริหารประเทศกรณีเปิด
ประชุมสภา  ภายใน 30 วันไม่ได้

สอดคล้องกับเสียงของ สุเทพ เทือกสุบรรณ บนเวที กปปส. นายกฯรักษาการ รัฐบาลรักษาการ
สิ้นสภาพไปแล้ว เมื่อยึดตามมาตรา 181 รัฐบาลมีสภาพในการดำเนินงานตามขอบเขตที่จำกัด
ตามเงื่อนไขของกฎหมาย ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญเปิดช่องทางนำมาตรา 7 มาใช้โดยมีนายกฯ
คนกลาง มาแก้ปัญหาวิกฤติ

การทำหน้าที่ของ กกต.อย่างที่ สมชัย ศรีสุทธิยากร บนเส้นทางที่ยืดเยื้อในการจัดการเลือกตั้ง
และแก้ปัญหาการเลือกตั้ง ไม่สะเด็ดน้ำซะที 28 เขต ที่ไม่สามารถลงสมัครได้ ก็ต้องรอคำวินิจฉัย
ของศาลรัฐธรรมนูญ

ประมวลสถานการณ์แล้ว รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พรรคเพื่อไทย รอดยาก ไพ่ใบสุดท้ายจึงอยู่ที่เสื้อแดง
ความขัดแย้งระหว่าง เสื้อแดงกับกองทัพในอดีตถูกจับมาให้ชนกันในสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน
อีกกระทอก

เซ่นสังเวยเกมชิงอำนาจทางการเมือง.


หมัดเหล็ก

http://www.thairath.co.th/column/pol/kaablook/408633

อ่าน  2  สื่อใหญ่วิเคราะห์   สรุปว่า  รถถังมาแน่   รอเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น
ไม่ต้องเรียกร้อง  ไม่ต้องปฏิเสธ รอมะม่วงสุกก่อนค่ะ  ส่วนเสื้อแดง  ชุมนุมเมื่อวาน
กองทัพ  จะมองแบบไหน   จะสนับสนุนเลือกตั้งต่อไหไหม  รอแป๊บค่ะ  เดี๋ยวมาอ่านกัน   ยิ้ม

สาวแว่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่