กรรมตามหลอนรัฐบาลหุ่นเชิด ผวาแม้แต่เงาตัวเอง ผ่าประเด็นร้อน แนวหน้าออนไลน์

กระทู้สนทนา
ขณะที่รัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณภายใต้การนำของนายกฯนกแก้ว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
กำลังตกอยู่ภายใต้สถานการณ์วิกฤติคับขันทางการเมืองโดยเฉพาะจากแผนที่จะผลักดัน
กฎหมายสำคัญ 3 ฉบับ ซึ่งเปรียบเหมือนระเบิดเวลาทางการเมืองลูกใหญ่ นั่นคือ
ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยประเด็นที่มาของสมาชิกวุฒิสภา(สว.) ร่าง
พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และ พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท
เพื่อพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งทั่วประเทศ ท่ามกลางกระแสต่อต้านอย่างหนักจากหลายฝ่าย
จู่ๆ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็เปิดตัวออกมาเคลื่อนไหวสร้างข่าวใหญ่ด้วยการให้สัมภาษณ์
ผ่านสื่อบางสำนักอ้างว่าขณะนี้มีขบวนการวางแผนจ้องล้มรัฐบาลหุ่นเชิดยิ่งลักษณ์ให้ได้
ภายในวันที่ 8 ต.ค.นี้

ไม่เพียงนักโทษชายแม้วที่ออกมาสร้างข่าวตีปลาหน้าไซว่ามีขบวนการ
จ้องล้มรัฐบาล แต่บรรดาข้าทาสบริวารระบอบทักษิณทั้งในพรรคเพื่อไทย กลุ่มคนเสื้อแดง
หรือแม้แต่กลุ่มสว.เลือกตั้งร่างทรงระบอบทักษิณต่างพากันเรียงหน้าออกมาประโคมข่าว
สอดรับกับ นักโทษชายแม้วอาทิ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย นายจตุพร
พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง ที่ต่างประโคมข่าวอ้างมีขบวนการจ้องล้มรัฐบาลด้วยการอาศัย
ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระเป็นเครื่องมือ

ก่อนหน้านี้เหล่าสาวกระบอบทักษิณพยายามโจมตีบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือขององค์กรอิสระต่างๆ
อย่างหนักถึงขั้นคิดจะแข็งข้อไม่ยอมรับอำนาจขององค์กรอิสระ อย่างกรณี นายนิคม
ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา เปิดเผยว่าได้หารือกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ผ่านทาง
นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร แล้วว่าจะแตกหักเดินหน้าลงมติร่าง
แก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นที่มาของสว.ในวาระที่ 3 แม้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ชะลอการลงมติ
ในวาระที่ 3 ไว้ชั่วคราวเพื่อรอคำวินิจฉัยชี้ขาดว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 68
หรือไม่ ก็ตาม หลังจากที่ก่อนหน้านี้ฝ่ายค้าน คือ พรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่มสว.สรรหาได้ยื่นคำร้อง
ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวชะลอการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่ 3
ไว้ก่อนจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะชี้ขาดว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่

ล่าสุดพรรคประชาธิปัตย์ยังยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมโดยมีภาพหลักฐานชัดเจนชี้ว่า
สส.พรรคเพื่อไทยมีการเสียบบัตรลงคะแนนแทนกันในการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็น
ที่มาของสว.ในวาระที่ 2 ซึ่งถือเป็นการโกงการลงมติอาจทำให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นโมฆะ

นอกจากคำร้องให้วินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นที่มาสว.ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
มาตรา 68 แล้ว พรรคประชาธิปัตย์และกลุ่มสว.สรรหายังยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่า
พ.ร.บ.เงินกู้ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง
ทั่วประเทศขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 เพราะเป็นการใช้เล่ห์ออกกฎหมายกู้เงินด้วยวิธีพิเศษ
นอกระบบงบประมาณเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบเปิดช่องให้มีการทุจริตอย่างมโหฬาร

การกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ถือเป็นการก่อหนี้ให้ประเทศมากที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยที่
ลูกหลานต้องแบกภาระใช้หนี้เงินต้นและดอกเบี้ยรวม 5 ล้านล้านบาท นานกว่า 50 ปีกว่าจะ
ใช้หนี้หมดรัฐบาลหุ่นเชิดยิ่งลักษณ์ยังต้องเผชิญระเบิดเวลาทางการเมืองอีกหลายลูกจากการ
ถูกยื่นคำร้องต่อองค์กรอิสระโดยเฉพาะคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
(ป.ป.ช.) ซึ่งที่ต้องจับตาก็คือกรณีที่รัฐบาลตะแบงดันทุรังเดินหน้าโครงการรับจำนำข้าวทั้งๆ
ที่ถลุงเงินแผ่นดินไปแล้วเกือบ 7 แสนล้านบาท ขาดทุนแล้วกว่า 4 แสนล้านบาท และมูลค่า
ความเสียหายของรัฐจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ปีละไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาท หากยังเดินหน้าโครงการ
ต่อไป และที่สำคัญมีการทุจริตอย่างมโหฬารก่อนหน้านี้ นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ อดีตประธาน
ศาลรัฐธรรมนูญ เคยเตือนว่า การทำงานของรัฐบาลในหลายเรื่องขัดต่อรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน
รวมทั้งโครงการรับจำนำข้าวเนื่องจากรัฐธรรมนูญบัญญัติว่า นโยบายของรัฐต้องมีการแข่งขัน
อย่างเสรีเป็นธรรม ป้องกันการผูกขาดตัดตอนแต่โครงการรับจำนำข้าวรัฐบาลหุ่นเชิดยิ่งลักษณ์
กลับผูกขาดตัดตอนเสียเองด้วยการรับซื้อข้าวทุกเมล็ดจากเกษตรกรจากการถูกยื่นคำร้องต่อ
องค์กรอิสระ อาทิ ศาลรัฐธรรมนูญ และป.ป.ช.ดังกล่าว ทำให้ที่ผ่านมาบรรดาสาวกระบอบทักษิณ
ต่างออกมาโจมตี บ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของศาลรัฐธรรมนูญและป.ป.ช.อย่างต่อเนื่องด้วย
ข้อกล่าวหาในทำนองว่า 2 มาตรฐาน เป็นเครื่องมือของขบวนการจ้องล้มรัฐบาล

ขณะเดียวกันรัฐบาลหุ่นเชิดยิ่งลักษณ์ก็พยายามกดดันศาลรัฐธรรมนูญด้วยการออกเดินสายโรดโชว์
ทั่วประเทศเพื่อโฆษณาชวนเชื่อสร้างความชอบธรรมให้กับ พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท
ส่วน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่มีเป้าหมายแอบแฝงมุ่งฟอกโทษความผิดทั้งหมดให้กับ นักโทษชายแม้ว
เพื่อจะได้กลับบ้านแบบเท่ๆ โดยไม่ต้องติดคุกคดีทุจริตตามคำพิพากษาของศาลอันเป็นการทำลาย
หลักนิติรัฐอย่างยับเยิน เป็นระเบิดเวลาลูกใหญ่อีกลูกหนึ่งที่รัฐบาลหุ่นเชิดยิ่งลักษณ์พยายามเร่งรีบ
รวบรัดเพื่อให้ประกาศใช้เป็นกฎหมายโดยเร็ว โดยมีการเตรียมผลักดันเข้าสู่การพิจารณาของสภา
ทันทีเมื่อผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าจะกลายเป็นชนวนสุมไฟให้พลังมวลชนหลาย
กลุ่มลุกฮือต่อต้านอย่างหนักจนอาจนำไปสู่วิกฤติรอบใหม่

เพราะฉะนั้นจากพฤติกรรมหวาดผวาภาพหลอนตลอดเวลาว่ามีขบวนการจ้องล้มรัฐบาล และหวาด
ระแวงหวั่นกลัวองค์กรอิสระต่างๆ สะท้อนให้เห็นถึงวิบากกรรมของรัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณ
ที่เกิดอาการวิตกจริตกลัวแม้กระทั่งเงาตัวเอง

ทีมข่าวการเมือง

http://www.naewna.com/creative/70514

มองรอบด้านตามประสา  "สาวเหลือน้อย"    ยิ้ม


สาวแว่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่