ศึกขับไล่รัฐบาลทรราชหุ่นเชิดระบอบทักษิณ ภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
โดยมวลมหาประชาชน นำโดยกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ
ประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมี
พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.)ซึ่งยืดเยื้อมานานกว่า 5 เดือน ได้มาถึงจุดแตกหัก
เมื่อกำนันสุเทพประกาศนัดแสดงพลังมวลมหาประชาชนครั้งใหญ่ เพื่อทำศึกยกสุดท้ายโดย
มีเดิมพันแพ้หรือชนะเท่านั้นไม่มีเสมอ
กำนันสุเทพ ประกาศอย่างจริงจังท่ามกลางมวลมหาประชาชน กปปส.ว่า ศึกยกสุดท้าย
ครั้งนี้จะมีขึ้นทันทีหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยชี้ขาดให้ น.ส.ยิ่งลักาณ์ และรัฐบาลทรราช
หุ่นเชิดระบอบทักษิณชุดนี้ สิ้นสภาพกรณีการย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี พ้นเก้าอี้เลขาธิการ
สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม
การทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)มีมติชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ จนต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ในคดี
ทุจริตโครงการรับจำนำข้าว
ที่สำคัญ กำนันสุเทพ ยังประกาศ “รัฏฐาธิปัตย์” โดยมวลมหาประชาชนโดยอาศัยตามมาตรา 3
ของรัฐธรรมนูญที่บัญญัติว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทยทันทีหากศาลรัฐธรรมนูญ
หรือป.ป.ช.ตัดสินให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ สิ้นสภาพ โดยหากรัฐบาลทรราชหุ่นเชิดระบอบทักษิณยังดื้อดึง
ไม่ยอมรับคำตัดสินและพยายามอยู่ในอำนาจต่อไป กำนันสุเทพ ก็ย้ำว่าพร้อมที่จะเป็นผู้ใช้อำนาจ
“รัฏฐาธิปัตย์”แทนมวลมหาประชาชนในการนำรายชื่อผู้เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลที่
เป็นคนกลางขึ้นทูลเกล้าฯเพื่อโปรดเกล้าฯแต่งตั้งโดยอาศัยมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญ
<
<
<
นอกจากการเผชิญหน้าระหว่างม็อบเสื้อแดงกับมวลมหาประชาชน กปปส. ที่น่าวิตกยิ่งกว่าก็คือ
การสร้างสถานการณ์ก่อการร้ายของขบวนการติดอาวุธที่เคลื่อนไหวใต้ดิน ซึ่งที่ผ่านมา ก่อเหตุร้าย
ด้วยระเบิดร้ายแรงต่อศาลและองค์กรอิสระต่างๆ รวมทั้งมวลมหาประชาชน กปปส.มาอย่างต่อเนื่อง
จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากภายใต้การถูกตั้งข้อสังเกตว่า ขบวนการก่อการร้ายป่วนเมือง
เหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลทรราชหุ่นเชิดยิ่งลักษณ์ ซึ่งจากการข่าวทั้งกองทัพและฝ่าย
ตำรวจต่างระบุสอดคล้องกันว่า ขบวนการก่อการร้ายหลายคนเป็นกลุ่มเดียวกับที่เคยก่อเหตุร้ายเมื่อ
ปี 2553 นั่นเอง ซึ่งที่น่าหวาดหวั่นในขณะนี้ก็คือ มีการนำเข้านักรบจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาร่วม
ขบวนการติดอาวุธที่เตรียมก่อการร้ายครั้งใหญ่ในศึกขั้นแตกหักยกสุดท้ายที่ใกล้จะมาถึง
ขณะที่กองทัพโดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นห่วงสถานการณ์
ที่กำลังเดินไปสู่จุดแตกหัก จึงส่งสัญญาณเตือนทุกฝ่ายอย่าใช้ความรุนแรงอย่างเด็ดขาดและให้
เคารพในกฏหมาย
เพราะฉะนั้นต้องจับตาสถานการณ์นับถอยหลังจากนี้เป็นต้นไป โดยเฉพาะเมื่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือ
ป.ป.ช.มีมติชี้ชะตา น.ส.ยิ่งลักษณ์และรัฐบาลทรราชหุ่นเชิดชุดนี้ ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นนับถอยหลังไป
สู่สงครามขั้นแตกหักอย่างแท้จริงและอาจเป็นเงื่อนไขนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งสำคัญ
ทีมข่าวการเมือง
http://www.naewna.com/creative/99144
อ่านแนวหน้า ก็เหมือนอ่านใจของปชป.
ศึกแตกหัก เดิมพันอนาคตชาติ ..... ผ่าประเด็นร้อน แนวหน้าออนไลน์
โดยมวลมหาประชาชน นำโดยกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ
ประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมี
พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.)ซึ่งยืดเยื้อมานานกว่า 5 เดือน ได้มาถึงจุดแตกหัก
เมื่อกำนันสุเทพประกาศนัดแสดงพลังมวลมหาประชาชนครั้งใหญ่ เพื่อทำศึกยกสุดท้ายโดย
มีเดิมพันแพ้หรือชนะเท่านั้นไม่มีเสมอ
กำนันสุเทพ ประกาศอย่างจริงจังท่ามกลางมวลมหาประชาชน กปปส.ว่า ศึกยกสุดท้าย
ครั้งนี้จะมีขึ้นทันทีหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยชี้ขาดให้ น.ส.ยิ่งลักาณ์ และรัฐบาลทรราช
หุ่นเชิดระบอบทักษิณชุดนี้ สิ้นสภาพกรณีการย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี พ้นเก้าอี้เลขาธิการ
สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม
การทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)มีมติชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ จนต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ในคดี
ทุจริตโครงการรับจำนำข้าว
ที่สำคัญ กำนันสุเทพ ยังประกาศ “รัฏฐาธิปัตย์” โดยมวลมหาประชาชนโดยอาศัยตามมาตรา 3
ของรัฐธรรมนูญที่บัญญัติว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทยทันทีหากศาลรัฐธรรมนูญ
หรือป.ป.ช.ตัดสินให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ สิ้นสภาพ โดยหากรัฐบาลทรราชหุ่นเชิดระบอบทักษิณยังดื้อดึง
ไม่ยอมรับคำตัดสินและพยายามอยู่ในอำนาจต่อไป กำนันสุเทพ ก็ย้ำว่าพร้อมที่จะเป็นผู้ใช้อำนาจ
“รัฏฐาธิปัตย์”แทนมวลมหาประชาชนในการนำรายชื่อผู้เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลที่
เป็นคนกลางขึ้นทูลเกล้าฯเพื่อโปรดเกล้าฯแต่งตั้งโดยอาศัยมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญ
<
<
<
นอกจากการเผชิญหน้าระหว่างม็อบเสื้อแดงกับมวลมหาประชาชน กปปส. ที่น่าวิตกยิ่งกว่าก็คือ
การสร้างสถานการณ์ก่อการร้ายของขบวนการติดอาวุธที่เคลื่อนไหวใต้ดิน ซึ่งที่ผ่านมา ก่อเหตุร้าย
ด้วยระเบิดร้ายแรงต่อศาลและองค์กรอิสระต่างๆ รวมทั้งมวลมหาประชาชน กปปส.มาอย่างต่อเนื่อง
จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากภายใต้การถูกตั้งข้อสังเกตว่า ขบวนการก่อการร้ายป่วนเมือง
เหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลทรราชหุ่นเชิดยิ่งลักษณ์ ซึ่งจากการข่าวทั้งกองทัพและฝ่าย
ตำรวจต่างระบุสอดคล้องกันว่า ขบวนการก่อการร้ายหลายคนเป็นกลุ่มเดียวกับที่เคยก่อเหตุร้ายเมื่อ
ปี 2553 นั่นเอง ซึ่งที่น่าหวาดหวั่นในขณะนี้ก็คือ มีการนำเข้านักรบจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาร่วม
ขบวนการติดอาวุธที่เตรียมก่อการร้ายครั้งใหญ่ในศึกขั้นแตกหักยกสุดท้ายที่ใกล้จะมาถึง
ขณะที่กองทัพโดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นห่วงสถานการณ์
ที่กำลังเดินไปสู่จุดแตกหัก จึงส่งสัญญาณเตือนทุกฝ่ายอย่าใช้ความรุนแรงอย่างเด็ดขาดและให้
เคารพในกฏหมาย
เพราะฉะนั้นต้องจับตาสถานการณ์นับถอยหลังจากนี้เป็นต้นไป โดยเฉพาะเมื่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือ
ป.ป.ช.มีมติชี้ชะตา น.ส.ยิ่งลักษณ์และรัฐบาลทรราชหุ่นเชิดชุดนี้ ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นนับถอยหลังไป
สู่สงครามขั้นแตกหักอย่างแท้จริงและอาจเป็นเงื่อนไขนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งสำคัญ
ทีมข่าวการเมือง
http://www.naewna.com/creative/99144
อ่านแนวหน้า ก็เหมือนอ่านใจของปชป.