JJNY : ปธ.กมธ.แก้รธน.มั่นใจองค์ประชุมครบ│ปชน.ถามจัด MotoGP│ศิริกัญญาจับตาข้อตกลงการค้า│ปชน.ประกาศส่งชิงส.ส.14 จว.ใต้

ปธ.กมธ.แก้รธน. มั่นใจ 12 พ.ย.นี้ องค์ประชุมครบ เดินหน้าเคาะกลไกยกร่างได้ ยันถกเข้มทุกมิติ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5448488
.
.
‘กมธ.แก้รธน.’ มั่นใจ 12 พ.ย. องค์ประชุมครบเดินหน้าเคาะกลไกยกร่างได้ ยัน ถกเข้มทุกมิติไม่ขัดคำวินิจฉัยศาล ป้องคนร้องในอนาคต ย้ำ แล้วเสร็จภายในเดือนนี้แน่นอน
.
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พ.ศ. … รัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญของ กมธ.ว่า ขณะนี้เรามีการพิจารณามาแล้ว 8 ครั้ง แต่เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เราจะมีการลงมติว่าจะใช้รูปแบบกลไกในการยกร่างรัฐธรรมนูญในลักษณะอย่างไร แต่ปรากฏว่าองค์ประชุมไม่ครบ ซึ่งมาจากหลายปัจจัย เช่น กมธ.บางส่วนติดภารกิจในพื้นที่ หรือบางส่วนอาจจะยังมีความไม่เข้าใจว่าอาจจะมีอะไรที่หมิ่นเหม่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
.
นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ตนมั่นใจว่า วันที่ 12 พฤศจิกายน ประเด็นเรื่องการตัดสินใจว่าจะเลือกรูปแบบ กมธ.ยกร่างหรือผู้พิจารณาในการจัดทำรัฐธรรมนูญรูปแบบใด จะเป็นประเด็นแรกที่มีการพูดคุยกัน และหากผ่านประเด็นนี้ไปได้ การเดินหน้าของ กมธ.จะเป็นไปตามกรอบเดิมที่วางไว้ แต่อาจจะต้องมีการขยับระยะเวลาการพิจารณาแล้วเสร็จออกไปเล็กน้อย แต่จะแล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายนอย่างแน่นอน
.
เมื่อถามว่า ส.ว.ยังมีความกังวลและกังขาเรื่องที่มา ส.ส.ร. มองว่าจะเป็นอุปสรรคทำให้การพิจารณาล่าช้าหรือเป็นปัญหาหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ประเด็นนี้เราได้มีการทำความเข้าใจกันไปเยอะแล้ว ไม่ว่าจะเป็นข้อเสนอจากพรรคใด แต่ท้ายที่สุดจะมีการตกลงร่วมกันของ กมธ. อย่างไรก็ตาม เราได้มีการพิจารณาทุกมิติที่มีข้อสงสัยเกี่ยวข้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เราได้มีการกางบนโต๊ะ และพิจารณาร่วมกันว่าจะทำอย่างไร ไม่ให้มีประเด็นใดที่จะสุ่มเสี่ยง ทั้งสุ่มเสี่ยงต่อการผิดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ หรือสุ่มเสี่ยงต่อการถูกร้องในภายหลัง ซึ่งเราพูดคุยตรงกันว่าเราพยายามที่จะปิดช่องโหว่หรือความสุ่มเสี่ยงตรงนั้นทั้งหมด
.
เมื่อถามว่า มั่นใจใช่หรือไม่ว่า วันที่ 12 พฤศจิกายนนี้จะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ไม่มีองค์ประชุมล่มอีก นายณัฐวุฒิกล่าวว่า มั่นใจ และเชื่อมั่นว่าการที่เราได้มีการนัดหมายล่วงหน้า และมีการพูดคุยทำความเข้าใจกันนอกรอบมากขึ้น ตนยังไม่เห็นว่าจะมีปัจจัยใดที่จะทำให้การตัดสินใจในวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้จะไม่เกิดขึ้น ทั้งนี้ ตนมั่นใจใน กมธ.ทุกคนด้วยว่า ไม่มี กมธ.คนไหนที่จะไม่สนับสนุนการปลดล็อกการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ฉะนั้น เมื่อเรามีเจตนารมณ์ตรงกัน เรามุ่งมั่นในการปลดล็อกเพื่อนำไปสู่การแก้ไขในอนาคต ก็เชื่อมั่นว่า กมธ.จะมาประชุมกันครบ แม้ กมธ.จะมาไม่ครบแต่เชื่อมั่นว่าองค์ประชุมจะมีครบถ้วนพอที่จะพิจารณาประเด็นนี้ต่อไปได้ รวมถึงได้ฉันทามติในข้อสรุปอื่นๆ ต่อไป
.
นายณัฐวุฒิกล่าวด้วยว่า ส่วนการเปิดประชุมสมัยวิสามัญนั้น กมธ.คงไม่สามารถเป็นผู้กำหนดได้ เป็นในส่วนของรัฐบาลหรือสภา แต่ในส่วนของ กมธ. เราจะทำงานให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ หากจะการเปิดสมัยประชุมวิสามัญนั้น อาจเป็นไปได้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน หรือต้นธันวาคม ย้ำว่าเราจะทำหน้าที่ของ กมธ.ให้สมบูรณ์ที่สุด และไม่มีข้อขัดแย้งกันถึงขนาดที่จะไม่สามารถทำให้แล้วเสร็จได้ รวมถึงเราไม่ได้นำประเด็นอื่นๆ มาเป็นข้อกังวล เช่น การยุบสภา หรือการใช้รัฐธรรมนูญเป็นตัวประกันหรือไม่ ไม่ได้ถูกนำมาเป็นปัจจัยในการส่งผลต่อการเดินหน้าพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้
.

.
ปชน. ถาม รัฐบาลทุ่มเกือบ 4 พันล้าน จัด MotoGP ต่อ 5 ปี ถามผลประโยชน์ เข้ากระเป๋าใครเป็นหลัก.
https://www.matichon.co.th/politics/news_5448551
.
ปชน. ถาม รัฐบาลทุ่มเกือบ 4 พันล้าน จัด “MotoGP“ ต่อ 5 ปี ถามผลประโยชน์ เข้ากระเป๋าใครเป็นหลัก จี้ ทบทวนด่วน
.
เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2568 นายชิตวัน ชินอนุวัฒน์ สส.เชียงราย พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีรัฐบาลอนุมัติงบประมาณล่วงหน้า 3,997 ล้านบาทเศษ
เพื่อจัด MotoGP ปี 2570–2574 เมื่อวันที่4พ.ยที่ผ่านมา ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของวงการกีฬา แต่เป็นเรื่องของ ความยุติธรรม และ ความรับผิดชอบของรัฐบาล ต่อเงินทุกบาททุกสตางค์ของประชาชน
.
ในกรณีของที่ดินเขากระโดงซึ่งจุดเริ่มต้นของเรื่องอื้อฉาว อยู่ที่ผืนดินกว่า 5,000 ไร่ในจ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสนามแข่งระดับโลก แต่เบื้องหลังนั้นเต็มไปด้วยรอยร้าวทางกฎหมาย โดยศาลฎีกาและศาลปกครองได้มีคำตัดสินที่เป็นบรรทัดฐานชัดเจนแล้ว ว่าที่ดินผืนนี้คือ ที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งเป็นทรัพย์สินของชาติ แต่กลับมีการ “ลักไก่” ออกเอกสารสิทธิ์ ให้กับบุคคลและนิติบุคคล ซึ่งรวมถึงพื้นที่บางส่วนของสนามแข่งอย่างมิชอบด้วยกฎหมาย จึงต้องถามรัฐบาลว่า ในเมื่อศาลตัดสินชัดเจนขนาดนี้ เหตุใดรัฐบาลจึงยังปล่อยให้มี การใช้พื้นที่ที่มีข้อพิพาททางกฎหมาย ในการจัดงานระดับโลกที่ต้องทุ่มเงินภาษีสนับสนุน นี่คือการสมยอม หรือการสนับสนุนโดยตั้งใจหรือไม่
.
นายชิตวัน กล่าวต่อว่า ในเมื่อความชอบธรรมของที่ดินยังไม่ชัดเจน รัฐบาลกลับเร่งมืออย่างผิดวิสัย
.
อนุมัติงบประมาณเกือบ 4,000 ล้านบาท เพื่อต่อสัญญาเป็นเจ้าภาพจัด MotoGP อีก 5 ปี แม้กระทั่งสำนักงบประมาณ ยังส่งสัญญาณเตือนว่า
ค่าใช้จ่ายสูงลิบลิ่ว และอาจกระทบฐานะการคลัง แต่รัฐบาลก็ยังเดินหน้าเต็มสูบทราวกับกลัวว่าจะไม่ทันเวลา รัฐบาลอ้างถึงเงินหมุนเวียน 5,000 ล้านบาทต่อปี แต่เราต้องมองทะลุตัวเลขนี้ไปให้เห็นว่าผลประโยชน์ที่แท้จริง นั้น เงินเข้ากระเป๋าใครเป็นหลัก ตกถึงชาวบ้านร้านเล็กๆทั่วไป หรือ ไหลเข้ากระเป๋ากลุ่มนายทุนและผู้ประกอบการหลักในพื้นที่กันแน่
.
การที่รัฐบาลรีบเซ็นสัญญาระยะยาวด้วยเงินภาษีจำนวนมหาศาล เพื่อจัดงานในสนามที่มี คดีพิพาทที่ดินของรัฐที่ไม่จบสิ้นนี่ไม่ใช่แค่เรื่องความประมาท แต่คือการนำ เงินค้ำประกันของชาติไปอุ้มชูธุรกิจของกลุ่มทุนที่ได้ประโยชน์จากการครอบครองที่หลวงอย่างชัดเจน
พรรคประชาชนเราไม่อาจทนเห็นความไม่ชอบมาพากลนี้ได้อีกต่อไป เราขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล
.
อย่างหนักแน่นว่า ท่านต้องหยุดประวิงเวลา และดำเนินการตามคำพิพากษาศาลอย่าง เด็ดขาด เพื่อ ทวงคืนที่ดินของชาติ ให้กลับมาเป็นของประชาชนโดยสมบูรณ์ทันที
.
พร้อมกันนี้ ขอให้ท่าน ทบทวนการใช้เงินภาษีเกือบ 4,000 ล้านบาทอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตราบใดที่ปัญหาที่ดินยังไม่ได้รับการแก้ไข รัฐบาลไม่ควรใช้เงินแม้แต่บาทเดียวไปอุ้มชูงานที่จัดบนที่ดินมีปัญหา และเหนือสิ่งอื่นใด รัฐบาลต้องเปิดเผยรายละเอียดสัญญาและงบประมาณทั้งหมด ให้สาธารณชนตรวจสอบได้อย่างโปร่งใส เพราะทุกบรรทัดคือเงินของประชาชน เราต้องไม่ยอมให้เงินภาษีของพวกเราถูกนำไปใช้เพื่อเป็นเกราะกำบังให้กับกลุ่มทุนที่รุกล้ำทรัพย์สินของชาติ ร่วมกันส่งเสียงให้รัฐบาลรับผิดชอบในเรื่องนี้
.

.
ศิริกัญญา จับตาข้อตกลงการค้าไทย-สหรัฐ ห่วงสินค้าสวมสิทธิ เจออัตราภาษีสูงในอนาคต
https://www.matichon.co.th/politics/news_5448288
.
‘ศิริกัญญา’ จับตาข้อตกลงการค้าไทย-สหรัฐฯ หวั่นปมสินค้าสวมสิทธิเจออัตราภาษีสูงในอนาคต มองราคาข้าวต่ำเหตุสต๊อกในประเทศสูง แนะระบายระหว่าง เอกชนต่อเอกชน เพราะต้องเตรียมรับมือผลผลิตล็อตใหม่ปลายปีนี้
.
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึง กรณีที่จะได้พบกับ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่มาเสวนาเกี่ยวกับนโยบายทางการค้า ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญของประเทศ โดยเฉพาะในช่วงปลายปีที่จะต้องสรุปข้อตกลงทางการค้า ระหว่างประเทศไทย-สหรัฐอเมริกา ด้วยยังมีอีกหลายประเด็นที่ยังไม่ได้มีความกระจ่าง จนกว่าข้อตกลงจะเผยแพร่สู่สาธารณะ และยังมีข้อกังวลใหญ่เรื่องผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง คือเรื่องสินค้าสวมสิทธิ เพราะยังไม่ได้มีการตกลงอัตราภาษี หรือการกำหนดอัตราใช้ชิ้นส่วนวัตถุดิบภายในประเทศ (RVC) ซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับเศรษฐกิจประเทศไทย
.
เมื่อพิจารณาตัวเลขส่งออกในช่วงนี้ถือว่ายังดีอยู่ แม้ว่าจะมีการประกาศอัตราภาษี 19% แต่สภาอุตสาหกรรมและสภาหอการค้าไทย ออกมาระบุว่าส่งออกสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มต่ำ ซึ่งหมายถึงไม่เกิดประโยชน์กับประเทศ แต่ภายใต้สมมุติฐานเร่งส่งออกช่วงหลังสำหรับสินค้าสวมสิทธิ ที่อาจเจออัตราภาษีที่สูงกว่านี้ในอนาคต เท่ากับว่าไทยยังไม่ได้มีการปราบปรามควบคุมการกระทำเช่นนี้ได้อย่างเด็ดขาดมากเพียงพอ
.
ซึ่งมีการส่งออกอย่างมหาศาลและสอดคล้องกับการนำเข้ามามาก อาจจะผลิตในประเทศค่อนข้างน้อยแต่มีการส่งออกซึ่งตนอยากมาฟังนางศุภจีกล่าวในวันนี้” นางสาวศิริกัญญากล่าว
.
ส่วนกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ราคาข้าวต่ำสุดในรอบ 10 ปีนั้น น.ส.ศิริกัญญาระบุว่า สต๊อกข้าวที่มีอยู่ในประเทศค่อนข้างมาก และการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ เป็นเพียงเอ็มโอยูที่มีระยะเวลา เช่น การขาย 500,000 ตันในระยะเวลาสามปี ห้าปี แม้จะได้เอ็มโอยูมาแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีการระบายข้าวทันที จึงเป็นเหตุที่ทำให้ราคาข้าวยังไม่ได้ดีขึ้น ดังนั้นจึงต้องมีการปรับปรุงหาตลาดระบายสต๊อกข้าวได้ทันที เอกชนไม่เพียงแค่รัฐต่อรัฐ แต่ต้องระหว่างเอกชนและเอกชนด้วยกัน ที่จะเพิ่มปริมาณการส่งออกระบายสต๊อกข้าว เพื่อเตรียมรับผลผลิตข้าวล็อตใหม่ที่จะออกมาในช่วงปลายปีนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่