กล้าจริงๆ
กั๊กประเด็นร้อนๆผลการลงมติเห็นชอบแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 เอาไว้ก่อนก็ยังไม่สายเกินแกง
ยังมีเวลาให้ลุ้นเสียวกันอีกหลายวัน
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่าศึกแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ต้องสู้กันสุดซอย
เพราะเป็นมหาสงคราม “ขั้นแตกหัก” ที่มีเก้าอี้นายกฯ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เป็นเดิมพัน
ไม่ใช่แค่แผนเตะสกัดรัฐสภาไม่ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ คืนอำนาจประชาชนให้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ว.โดยตรง
(แถมยกเลิก ส.ว.ลากตั้งให้สูญพันธุ์)
แต่เล็งเป้าข้ามช็อตถึงขั้นจะใช้ศาลรัฐธรรมนูญ ประหารหมู่รัฐบาลจากการเลือกตั้ง (รอบ 3) กันทีเดียว
ฉะนั้น ก่อนจะถึงเมนคอร์ส “แม่ลูกจันทร์” ขอเสิร์ฟออเดิร์ฟซะก่อนตามธรรมเนียม
กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติกระเด้งรับคำร้องของ
ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์และกลุ่ม 40 ส.ว.ให้วินิจฉัย
ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ของรัฐบาล ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 168 ที่กำหนดให้รัฐต้องจัดสรรงบประมาณให้ศาลยุติธรรม ศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระอย่างพอเพียง
แต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์จัดสรรงบประมาณให้ศาลและองค์กรอิสระน้อยกว่าที่ขอไป
“แม่ลูกจันทร์” ไม่คาดคิดว่าศาลรัฐธรรมนูญจะกล้ารับคำร้องประเด็นนี้ไว้พิจารณา
เพราะเป็นประเด็นที่
ศาลรัฐธรรมนูญมีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง
เข้าข่ายขัดกันแห่งผลประโยชน์เต็มเปา
ฉะนั้น
เมื่อศาลรัฐธรรมนูญกลายเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงซะแล้วศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินคำร้องประเด็นนี้ ได้อย่างไร??
“แม่ลูกจันทร์” เห็นว่าข้อกล่าวหาว่ารัฐบาลขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 168 (เพราะไม่จัดสรรงบประมาณให้ศาล และองค์กรอิสระอย่างพอเพียง)
ก็ต้องถามว่า
ใช้มาตรฐานอะไรชี้วัดความพอเพียง??
“ความพอเพียง”
ไม่ใช่ศาลและองค์กรอิสระเสนอของบมาเท่าไหร่ รัฐบาลต้องประเคนให้ครบทุกบาททุกสตางค์
เพราะรัฐบาลมีหน้าที่ต้องจัดหารายได้ของประเทศเพื่อนำไปจัดสรรงบประมาณให้ทุกหน่วยราชการที่มีอยู่ในปัจจุบัน
เมื่อยอดเงินรายได้ประเทศมีจำนวนจำกัด
รัฐบาลจำเป็นต้องเฉลี่ยเม็ดเงิน (ที่มีจำกัด) ให้หน่วยราชการและองค์กรต่างๆ ตามความเหมาะสมและเป็นธรรม
จึงเป็นไปไม่ได้ที่หน่วยงานใดจะได้รับอัดฉีดเต็มพิกัดตามที่ขอมา
แถมในงบประมาณรายจ่ายปี 2557 รัฐบาลก็ได้จัดสรรงบประมาณเพิ่มให้ศาลและองค์กรอิสระ
สูงขึ้นจากปีปัจจุบัน
เช่น
ศาลยุติธรรม ศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ ได้รับจัดสรรงบปีใหม่รวมทั้งสิ้น
16,444 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นอีก 381 ล้านบาท
องค์กรอิสระได้รับจัดสรรงบปีใหม่
14,123 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นจากปีนี้ถึง
1,508 ล้านบาท
แสดงว่า
รัฐบาลจัดสรรงบให้ศาลและองค์กรอิสระเพิ่มขึ้นพอสมควร
“แม่ลูกจันทร์” จึงมองไม่เห็นเหตุผลที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องประเด็นนี้ไว้พิจารณา
ทั้งๆที่ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้ ได้ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา เรียบร้อยแล้วทุกขั้นตอน
เท่ากับ
ยื้อเวลาให้ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประเทศ ซึ่งจะเริ่มเบิกจ่ายตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (1 ต.ค.) ต้องล่าช้าออกไป
ผลคือเม็ดเงินที่จะใช้ขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาประเทศถูกแช่แข็ง เบิกออกมาใช้ไม่ได้แม้แต่สลึงเดียว
เสียเวลาประเทศ เสียประโยชน์ประชาชน โดยไม่ได้อะไรขึ้นมา
นอกจากความสะใจเท่านั้นเอง.
“แม่ลูกจันทร์”
ไทยรัฐออนไลน์ 30 กันยายน 2556, 05:01 น.
http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/372772
?????????????????????????????????????????
".....“แม่ลูกจันทร์” ไม่คาดคิดว่าศาลรัฐธรรมนูญจะกล้ารับคำร้องประเด็นนี้ไว้พิจารณา.....
ฉะนั้น
เมื่อศาลรัฐธรรมนูญกลายเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงซะแล้วศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินคำร้องประเด็นนี้ ได้อย่างไร??
.....ก็ต้องถามว่าใช้มาตรฐานอะไรชี้วัดความพอเพียง??
“ความพอเพียง” ไม่ใช่ศาลและองค์กรอิสระเสนอของบมาเท่าไหร่ รัฐบาลต้องประเคนให้ครบทุกบาททุกสตางค์......"
".....
เสียเวลาประเทศ เสียประโยชน์ประชาชน โดยไม่ได้อะไรขึ้นมา
นอกจากความสะใจเท่านั้นเอง....."
สาธุชนคนมีความยุติธรรมในหัวใจได้โปรดพิจารณาด้วยสติ.....ถึงแม้จะไม่มีสตังค์เป็นสิบล้านร้อยล้านก็ตาม
คอลัมน์ใหญ่จากสื่อใหญ่ยักษ์ของประเทศว่าเอง ลากไส้เอง ประจานเอง
คนเสื้อแดงอย่างไอ้กระผมไม่ได้ว่าอะไรสักแอะนะเออ......
แม่ลูกจันทร์วิจารณ์พฤติกรรมของ ตลก ให้สังคมได้รับรู้ร่วมกันอีกครั้ง หลังจากที่เห็นวีรกรรมมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ชัดขึ้นๆ
กั๊กประเด็นร้อนๆผลการลงมติเห็นชอบแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 เอาไว้ก่อนก็ยังไม่สายเกินแกง
ยังมีเวลาให้ลุ้นเสียวกันอีกหลายวัน
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่าศึกแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ต้องสู้กันสุดซอย
เพราะเป็นมหาสงคราม “ขั้นแตกหัก” ที่มีเก้าอี้นายกฯ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เป็นเดิมพัน
ไม่ใช่แค่แผนเตะสกัดรัฐสภาไม่ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ คืนอำนาจประชาชนให้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ว.โดยตรง
(แถมยกเลิก ส.ว.ลากตั้งให้สูญพันธุ์)
แต่เล็งเป้าข้ามช็อตถึงขั้นจะใช้ศาลรัฐธรรมนูญ ประหารหมู่รัฐบาลจากการเลือกตั้ง (รอบ 3) กันทีเดียว
ฉะนั้น ก่อนจะถึงเมนคอร์ส “แม่ลูกจันทร์” ขอเสิร์ฟออเดิร์ฟซะก่อนตามธรรมเนียม
กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติกระเด้งรับคำร้องของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์และกลุ่ม 40 ส.ว.ให้วินิจฉัยร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ของรัฐบาล ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 168 ที่กำหนดให้รัฐต้องจัดสรรงบประมาณให้ศาลยุติธรรม ศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระอย่างพอเพียง
แต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์จัดสรรงบประมาณให้ศาลและองค์กรอิสระน้อยกว่าที่ขอไป
“แม่ลูกจันทร์” ไม่คาดคิดว่าศาลรัฐธรรมนูญจะกล้ารับคำร้องประเด็นนี้ไว้พิจารณา
เพราะเป็นประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญมีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง
เข้าข่ายขัดกันแห่งผลประโยชน์เต็มเปา
ฉะนั้น เมื่อศาลรัฐธรรมนูญกลายเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงซะแล้วศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินคำร้องประเด็นนี้ ได้อย่างไร??
“แม่ลูกจันทร์” เห็นว่าข้อกล่าวหาว่ารัฐบาลขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 168 (เพราะไม่จัดสรรงบประมาณให้ศาล และองค์กรอิสระอย่างพอเพียง)
ก็ต้องถามว่าใช้มาตรฐานอะไรชี้วัดความพอเพียง??
“ความพอเพียง” ไม่ใช่ศาลและองค์กรอิสระเสนอของบมาเท่าไหร่ รัฐบาลต้องประเคนให้ครบทุกบาททุกสตางค์
เพราะรัฐบาลมีหน้าที่ต้องจัดหารายได้ของประเทศเพื่อนำไปจัดสรรงบประมาณให้ทุกหน่วยราชการที่มีอยู่ในปัจจุบัน
เมื่อยอดเงินรายได้ประเทศมีจำนวนจำกัด รัฐบาลจำเป็นต้องเฉลี่ยเม็ดเงิน (ที่มีจำกัด) ให้หน่วยราชการและองค์กรต่างๆ ตามความเหมาะสมและเป็นธรรม
จึงเป็นไปไม่ได้ที่หน่วยงานใดจะได้รับอัดฉีดเต็มพิกัดตามที่ขอมา
แถมในงบประมาณรายจ่ายปี 2557 รัฐบาลก็ได้จัดสรรงบประมาณเพิ่มให้ศาลและองค์กรอิสระสูงขึ้นจากปีปัจจุบัน
เช่น ศาลยุติธรรม ศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ ได้รับจัดสรรงบปีใหม่รวมทั้งสิ้น 16,444 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นอีก 381 ล้านบาท
องค์กรอิสระได้รับจัดสรรงบปีใหม่ 14,123 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นจากปีนี้ถึง 1,508 ล้านบาท
แสดงว่ารัฐบาลจัดสรรงบให้ศาลและองค์กรอิสระเพิ่มขึ้นพอสมควร
“แม่ลูกจันทร์” จึงมองไม่เห็นเหตุผลที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องประเด็นนี้ไว้พิจารณา
ทั้งๆที่ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้ ได้ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา เรียบร้อยแล้วทุกขั้นตอน
เท่ากับยื้อเวลาให้ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประเทศ ซึ่งจะเริ่มเบิกจ่ายตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (1 ต.ค.) ต้องล่าช้าออกไป
ผลคือเม็ดเงินที่จะใช้ขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาประเทศถูกแช่แข็ง เบิกออกมาใช้ไม่ได้แม้แต่สลึงเดียว
เสียเวลาประเทศ เสียประโยชน์ประชาชน โดยไม่ได้อะไรขึ้นมา
นอกจากความสะใจเท่านั้นเอง.
“แม่ลูกจันทร์”
ไทยรัฐออนไลน์ 30 กันยายน 2556, 05:01 น.
http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/372772
?????????????????????????????????????????
".....“แม่ลูกจันทร์” ไม่คาดคิดว่าศาลรัฐธรรมนูญจะกล้ารับคำร้องประเด็นนี้ไว้พิจารณา.....
ฉะนั้น เมื่อศาลรัฐธรรมนูญกลายเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงซะแล้วศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินคำร้องประเด็นนี้ ได้อย่างไร??
.....ก็ต้องถามว่าใช้มาตรฐานอะไรชี้วัดความพอเพียง??
“ความพอเพียง” ไม่ใช่ศาลและองค์กรอิสระเสนอของบมาเท่าไหร่ รัฐบาลต้องประเคนให้ครบทุกบาททุกสตางค์......"
".....เสียเวลาประเทศ เสียประโยชน์ประชาชน โดยไม่ได้อะไรขึ้นมา
นอกจากความสะใจเท่านั้นเอง....."
สาธุชนคนมีความยุติธรรมในหัวใจได้โปรดพิจารณาด้วยสติ.....ถึงแม้จะไม่มีสตังค์เป็นสิบล้านร้อยล้านก็ตาม
คอลัมน์ใหญ่จากสื่อใหญ่ยักษ์ของประเทศว่าเอง ลากไส้เอง ประจานเอง
คนเสื้อแดงอย่างไอ้กระผมไม่ได้ว่าอะไรสักแอะนะเออ......