เคยไปในสถานที่ใด แล้วเดินวนเวียนกลับมาอยู่ที่เดิมหาทางออกไม่ได้ไหม

วันก่อน มีคนเล่าให้ฟังว่า คุณป้า ซึ่งเราก็รู้จักมาเล่าให้ฟังว่า ไปเยี่ยมเพื่อนที่ รพ.หนึ่ง ขากลับแกแวะ
เข้าห้องน้ำ พอออกมาแกก็เดินวนเวียน หาทางออกไม่เจอ ซึ่ง รพ.นี้แกก็คุ้นเคยดี เป็น รพ.ที่แกรักษา
ตัวประจำ คนในครอบครัวก็ใช้ที่นี้ ลูกๆหลานๆ ก็คลอดกันที่นี่ รพ.นี้เป็นเอกชนคะ ค่อนข้างมีชื่อ วันปกติ
ก็คนเยอะ หาที่จอดไม่ค่อยได้ด้วย ใครต้องแอดมิทรอห้อง นานมาก บางที่รอกันเป็นวัน

แกเล่าว่า แกเดินวกวนอยู่อย่างนั้น ตลอดทางที่เดินเจอคนนั่ง เจอคนนอนเต็มไปหมด ซึ่งโดยปกติคง
ไม่มีใครมานอนที่พื้น แกบอกแกรู้แล้วว่าแกโดน แกก็นึกถึงหลวงพ่อที่ใส่ สักพักมีคนมาดึงแขน เป็นลูกชาย
แกเอง ถามว่าแม่ไปไหน ยืนรอตั้งนานไม่เห็นออกมา เลยวานให้แม่บ้านช่วยเข้าไปดู ก็ไม่เจอ
ลูกชายป้าก็ยืนรอแก ตรงแถวๆ หน้าห้องน้ำนั้นแหละ ถ้าแม่เดินออกมาก็ควรจะเห็น แกบอกตอนเห็นหน้าลูก
ดีใจมาก ไม่ใช่เพราะกลัว แต่แกเดินจนเหนื่อย จวนจะเป็นลม เพราะรวมๆแล้ว เกือบครึ่งชั่วโมง

ฟังเรื่องแบบนี้ที่ไร ก็นึกถึงตัวเองเคยมีประสบการณ์คล้ายแบบนี้ หลายปีแล้วไปบริจาคเลือดที่ รพ.แห่งหนึ่ง
ครั้งที่เจอเป็นครั้งที่ไปบริจาคที่นี่เป็นครั้งที่2 ปกติไปแต่ที่กาชาด ครั้งนั้นก็กะว่าบริจาคเสร็จ จะไปช้อปปิ้งแถวนั้นต่อ
ตอนเข้าไปก็ปกติ คนไม่เยอะ เพราะเป็นวันอาทิตย์ แต่ตรงที่รับบริจาคก็คนเยอะอยู่คะ รอคิวนานเหมือนกัน  วันนั้นไปคนเดียว
พอเสร็จแล้ว ตอนลงลิฟท์ก็ลงมาคนเดียว ตอนแรกยังรีรออยากให้มีคนลงมาเป็นเพื่อนด้วย รอสักพักไม่มีใครก็ลงมาเอง  

พอออกจากลิฟท์มาแล้วนี่สิ ก็เดินไปตามทางแต่เดินวนไปมา หาทางออกไม่ได้ เดินอยุ่อย่างนั้นสักพัก เริ่มเอะใจ
นี่เราเดินวนกลับมาที่เดิม ก็เริ่มสังเกตรอบข้าง มันเป็นทางเดินสลัวๆ หน่อยคะ มีทางแยกให้เดินไปได้ แต่พอเดินไปแล้ว
เหมือนเป็นทางเดินขึ้นตึก เราก็เดินวนอยู่อย่างนั้น และที่เริ่มสังเกตอีกอย่างคือ ไม่มีใครคนอื่นเลย  นอกจากเรา  ซึ่งถึงจะ
เป็นวันอาทิตย์ รพ.ปิด ก็น่าจะเจอใครบ้าง และมันเงียบ เงียบเกินไป ยอมรับว่าตอนนั้นเริ่มใจเสียนิดๆแล้ว บอกตัวเองว่าอย่ากลัว
เรามาทำความดี ก็เลยหยุดเดิน พยายามตั้งสติ กะว่าจะเดินกลับไปที่ลิฟท์ ยังไงรอหน้าลิฟท์ต้องมีคนลงมา ตอนนั้นใจมันคิดถึงแต่พ่อกับแม่

แล้วก็นึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้คุ้มครองเราด้วย เราเล่าจากความทรงจำนะ บางครั้งมันก็เลือนๆไปแล้ว รู้แต่ว่าตอนที่เดินย้อนกลับมา
เราเริ่มรู้สึกว่าทางมันเริ่มสว่างขึ้น เริ่มมีแสง แล้วก็มีคนเดินสวนมา พอเห็นคนใจชื้นขึ้นมาเยอะ  เรามาโผล่ตรงทางที่ข้างหน้า
เป็นอนุสารีย์สมเด็จพระชนก เราเข้าไปกราบท่าน จำได้แม่นว่าไปกราบท่านแล้ว ยังเล่าให้ท่านฟังว่าไปเจออะไรมา  วันนั้นไม่ได้ไปช้อปต่อ
เหมือนคนหมดแรง หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้ไปบริจาค ที่ รพ.นั้นอีก บริจาคแต่ที่กาชาดอย่างเดียว ผ่านมาหลายปีแล้ว บางคนอาจคิดว่าคิดไปเอง
แต่ความรู้สึกที่เรารู้ได้ รู้แต่ว่ามันไม่ใช่ปกติแน่นอน

ปล.เคยเล่าให้คุณหมอที่รู้จักกันฟัง คุณหมอบอกว่าของเพื่อนคุณหมอเด็ดกว่า ตื่นเต้นกว่านี้อีก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่