สงครามชิงอำนาจระหว่างฝ่ายประชาธิปไตยกับฝ่ายอำมาตยาธิปไตย กำลังฟาดฟันกันอย่างเข้มข้น
ยิ่งการรบยืดเยื้อไม่แพ้ไม่ชนะกันเบ็ดเสร็จเด็ดขาดซะที บรรดาแบ็กอัพที่เคยแอบอยู่หลังเวทีก็
จำเป็นต้องโผล่หน้าออกมาแสดงเอง
ล่าสุด บุคคลระดับนำของฝ่ายอำมาตย์ได้ออกมาแสดงบทบาทชี้นำสังคมไทยติดต่อกันถึง 3 คน
เริ่มจาก
“หม่อมอุ๋ย” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ออกมาเรียกร้องให้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ลุกจากเก้าอี้
นายกรัฐมนตรี เพื่อเปิดทางให้ตั้ง “นายกฯคนกลาง” เข้ามาแก้วิกฤติประเทศ
ถัดมาก็เป็นคิวของ
ดร.วิษณุ เครืองาม เนติบริกรคนดัง ออกมาเตือนรัฐบาลอย่ากอดรัฐธรรมนูญเกินไป
เพราะรัฐธรรมนูญ แก้ได้ เลิกได้ ดิ้นได้ ตีความใหม่ก็ยังได้
แปลไทยเป็นไทยคือ ถ้าสถานการณ์จำเป็นสามารถตีความรัฐธรรมนูญให้ “คนนอก” แหกด่าน
มะขามเตี้ยเป็นนายกรัฐมนตรีได้สบายมาก
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าความเห็นของ ดร.วิษณุ จึงไปสอดคล้องกับข้อเรียกร้องของ “หม่อมอุ๋ย”
ให้มีนายกฯคนกลางเข้ามาปฏิรูปประเทศ
จากนั้นก็ถึงคิว
อดีตนายกฯ อานันท์ ปันยารชุน ออกมา “จัดหนัก” ซ้ำอีกกระทอก
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าการออกมาแสดงบทบาทของ “อานันท์” ในช่วงนี้ต้องจับตาเป็นพิเศษ
เพราะ “อานันท์” เป็น 1 ใน 4 ตัวเก็งที่จ่อเก้าอี้ “นายกรัฐมนตรีคนกลาง” ที่กระแสกำลังแรงมาก
ถ้าฝันเป็นจริง “อานันท์” จะเป็น “นายกรัฐมนตรี” ที่ถูกใส่ตะกร้าล้างน้ำนั่งเก้าอี้นายกฯคนกลาง
ซ้ำ 3 ครั้งในรอบ 23 ปี
ทำแฮตทริก นั่งเก้าอี้นายกฯ 3 กระทอกโดยไม่ต้องลงเลือกตั้งให้เมื่อยตุ้ม
แต่ในฐานะผู้หลักผู้ใหญ่ระดับอดีตนายกรัฐมนตรี การออกมากดดันรัฐบาลจึงต้องอ้างผลกระทบ
ทางเศรษฐกิจเป็นน้ำจิ้ม
อดีตนายกฯ อานันท์ ชี้ว่าในความขัดแย้งที่ไม่มีใครฟังใครไม่มีใครยอมใครต้องมี “คนกลาง”
เข้ามาหยุด ความขัดแย้งทางการเมือง เพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้ต่อไป
มหาอำมาตย์อานันท์ ย้ำว่า ขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่จะต้องเถียงกันว่าอันไหนเป็นประชาธิปไตย?
อันไหนไม่เป็นประชาธิปไตย? ควรเลือกตั้ง? หรือไม่เลือกตั้ง? เรื่องนี้กฎหมายทำได้? หรือ
กฎหมายทำไม่ได้?
แปลไทยเป็นไทยคือ การแก้ไขวิกฤติประเทศไม่จำเป็นต้องยึดหลักประชาธิปไตย หรือยึดหลัก
กฎหมายตรงเป๊ะไปทุกเรื่อง
“แม่ลูกจันทร์” สรุปว่า “หม่อมอุ๋ย”, ดร.วิษณุ และ “อดีตนายกฯอานันท์” แม้จะออกมาพูดกัน
คนละเรื่อง
แต่จริงๆแล้วเป็นเรื่องเดียวกันทั้งดุ้น!!
คือเห็นว่า “คนนอก” เสียบเพื่อชาติเป็น “นายกฯคนกลาง” ได้
โดยอาศัยช่องรัฐธรรมนูญมาตรา 7 ขอพระราชทานนายกฯคนกลาง เข้ามาแก้วิกฤติประเทศ
แต่กลับมองไม่เห็น หรือแกล้งมองไม่เห็นรัฐธรรมนูญมาตรา 171 ที่กำหนดให้นายกรัฐมนตรี
ต้องเป็น ส.ส. และต้องมาจากการเลือกตั้ง
แถมยังมองข้ามหลักการสำคัญของระบอบประชาธิปไตยที่ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจ
ประชาชนเป็นผู้ใช้อำนาจตัดสินอนาคตประเทศ ผ่านการเลือกตั้ง
“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่า ตราบใดที่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันยังไม่ถูกยกเลิก นายกรัฐมนตรีต้องเป็น
ส.ส. และต้องมาจากการเลือกตั้ง!!
นายกฯคนกลาง นายกฯคนนอก นายกฯลากตั้ง ไม่สามารถแหกด่านรัฐธรรมนูญมาตรา 171 เข้ามาได้
ถ้าจะเอานายกฯคนนอกก็ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งให้รู้แล้วรู้แร่ด.
http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/402853
ยกเว้นรธน. บางมาตรา เพื่อให้มีนายกคนกลาง ..... แล้วตั้งสภาปชช.ด้วย ใช่ไหม?
ยกเว้นรธน.บางมาตรา เพื่อให้เปิดสภา เลือกนายกรมต.ได้ อันไหนดีกว่ากัน ?
นายกฯคนกลาง อยากได้มาก ใครจะฉีกรธน. ให้ "ไม่เปิดช่อง" แม่ลูกจันทร์ ไทยรัฐออนไลน์
ยิ่งการรบยืดเยื้อไม่แพ้ไม่ชนะกันเบ็ดเสร็จเด็ดขาดซะที บรรดาแบ็กอัพที่เคยแอบอยู่หลังเวทีก็
จำเป็นต้องโผล่หน้าออกมาแสดงเอง
ล่าสุด บุคคลระดับนำของฝ่ายอำมาตย์ได้ออกมาแสดงบทบาทชี้นำสังคมไทยติดต่อกันถึง 3 คน
เริ่มจาก “หม่อมอุ๋ย” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ออกมาเรียกร้องให้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ลุกจากเก้าอี้
นายกรัฐมนตรี เพื่อเปิดทางให้ตั้ง “นายกฯคนกลาง” เข้ามาแก้วิกฤติประเทศ
ถัดมาก็เป็นคิวของ ดร.วิษณุ เครืองาม เนติบริกรคนดัง ออกมาเตือนรัฐบาลอย่ากอดรัฐธรรมนูญเกินไป
เพราะรัฐธรรมนูญ แก้ได้ เลิกได้ ดิ้นได้ ตีความใหม่ก็ยังได้
แปลไทยเป็นไทยคือ ถ้าสถานการณ์จำเป็นสามารถตีความรัฐธรรมนูญให้ “คนนอก” แหกด่าน
มะขามเตี้ยเป็นนายกรัฐมนตรีได้สบายมาก
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าความเห็นของ ดร.วิษณุ จึงไปสอดคล้องกับข้อเรียกร้องของ “หม่อมอุ๋ย”
ให้มีนายกฯคนกลางเข้ามาปฏิรูปประเทศ
จากนั้นก็ถึงคิว อดีตนายกฯ อานันท์ ปันยารชุน ออกมา “จัดหนัก” ซ้ำอีกกระทอก
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าการออกมาแสดงบทบาทของ “อานันท์” ในช่วงนี้ต้องจับตาเป็นพิเศษ
เพราะ “อานันท์” เป็น 1 ใน 4 ตัวเก็งที่จ่อเก้าอี้ “นายกรัฐมนตรีคนกลาง” ที่กระแสกำลังแรงมาก
ถ้าฝันเป็นจริง “อานันท์” จะเป็น “นายกรัฐมนตรี” ที่ถูกใส่ตะกร้าล้างน้ำนั่งเก้าอี้นายกฯคนกลาง
ซ้ำ 3 ครั้งในรอบ 23 ปี
ทำแฮตทริก นั่งเก้าอี้นายกฯ 3 กระทอกโดยไม่ต้องลงเลือกตั้งให้เมื่อยตุ้ม
แต่ในฐานะผู้หลักผู้ใหญ่ระดับอดีตนายกรัฐมนตรี การออกมากดดันรัฐบาลจึงต้องอ้างผลกระทบ
ทางเศรษฐกิจเป็นน้ำจิ้ม
อดีตนายกฯ อานันท์ ชี้ว่าในความขัดแย้งที่ไม่มีใครฟังใครไม่มีใครยอมใครต้องมี “คนกลาง”
เข้ามาหยุด ความขัดแย้งทางการเมือง เพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้ต่อไป
มหาอำมาตย์อานันท์ ย้ำว่า ขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่จะต้องเถียงกันว่าอันไหนเป็นประชาธิปไตย?
อันไหนไม่เป็นประชาธิปไตย? ควรเลือกตั้ง? หรือไม่เลือกตั้ง? เรื่องนี้กฎหมายทำได้? หรือ
กฎหมายทำไม่ได้?
แปลไทยเป็นไทยคือ การแก้ไขวิกฤติประเทศไม่จำเป็นต้องยึดหลักประชาธิปไตย หรือยึดหลัก
กฎหมายตรงเป๊ะไปทุกเรื่อง
“แม่ลูกจันทร์” สรุปว่า “หม่อมอุ๋ย”, ดร.วิษณุ และ “อดีตนายกฯอานันท์” แม้จะออกมาพูดกัน
คนละเรื่อง
แต่จริงๆแล้วเป็นเรื่องเดียวกันทั้งดุ้น!!
คือเห็นว่า “คนนอก” เสียบเพื่อชาติเป็น “นายกฯคนกลาง” ได้
โดยอาศัยช่องรัฐธรรมนูญมาตรา 7 ขอพระราชทานนายกฯคนกลาง เข้ามาแก้วิกฤติประเทศ
แต่กลับมองไม่เห็น หรือแกล้งมองไม่เห็นรัฐธรรมนูญมาตรา 171 ที่กำหนดให้นายกรัฐมนตรี
ต้องเป็น ส.ส. และต้องมาจากการเลือกตั้ง
แถมยังมองข้ามหลักการสำคัญของระบอบประชาธิปไตยที่ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจ
ประชาชนเป็นผู้ใช้อำนาจตัดสินอนาคตประเทศ ผ่านการเลือกตั้ง
“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่า ตราบใดที่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันยังไม่ถูกยกเลิก นายกรัฐมนตรีต้องเป็น
ส.ส. และต้องมาจากการเลือกตั้ง!!
นายกฯคนกลาง นายกฯคนนอก นายกฯลากตั้ง ไม่สามารถแหกด่านรัฐธรรมนูญมาตรา 171 เข้ามาได้
ถ้าจะเอานายกฯคนนอกก็ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งให้รู้แล้วรู้แร่ด.
http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/402853
ยกเว้นรธน. บางมาตรา เพื่อให้มีนายกคนกลาง ..... แล้วตั้งสภาปชช.ด้วย ใช่ไหม?
ยกเว้นรธน.บางมาตรา เพื่อให้เปิดสภา เลือกนายกรมต.ได้ อันไหนดีกว่ากัน ?