น้ำนมข้าว ข้าวมีน้ำนมด้วยเหรอ?
“ข้าวระยะน้ำนมคือ เมล็ดข้าวที่จะต้องเก็บเกี่ยว ในช่วงหลังจากดอกข้าว จะร่วงไม่นานประมาณ 7-10"
10 วัน (ซึ่งเรียกว่า ข้าวระยะพลับพลึง) ถือเป็นระยะของข้าว ที่จะให้น้ำนมที่ดีในช่วงนี้ ปกติข้าวเปลือกก่อนที่จะเข้าโรงสี เมื่อเราเอามือบีบเมล็ดข้าวดู เราจะเห็นว่ามันมีน้ำนมออกมานิดๆ ซึ่งไม่มากเท่าข้าวในระยะพลับพลึง
การบริโภคน้ำนมข้าวยาคู นอกจากจะถือว่า เป็นการใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า จากต้นข้าวแล้วเพราะนมข้าว จมูกข้าว ไคลข้าว และ เปลือกข้าว ได้ถูกนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิต
น้ำนมข้าวยังให้คุณค่าแก่ร่างกาย มากมายด้วยสารอาหาร ปราศจากไขมันและสารเคมี มีคุณค่าทางโภชนาการ ต่อร่างกายในระดับหนึ่ง
การบริโภคน้ำนมข้าวยาคู จะได้รับประโยชน์จากนมข้าว จมูกข้าว ไคลข้าว และเปลือกข้าว ซึ่งปราศจากไขมันและสารเคมี มีคุณค่าทางโภชนาการ ได้สารอาหารครบถ้วน ต่อร่างกายในระดับหนึ่ง มีธาตุเหล็ก ไฟเบอร์ บีหนึ่ง บีสอง วิตามินอี ที่ใช้บำรุงเลือดให้แก่สตรี ที่สำคัญมากที่สุดคือไขมันที่ศูนย์
สถาบันอาหารทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ทำการวิจัยว่ามีสารเอ็นโทรไซยานีน ซึ่งป้องกันการก่อเกิดมะเร็งในลำไส้ได้
โดยในช่วงปลายพรรษา หรือที่เขาเรียกกันว่าช่วงฤดู “ปลายฝน ต้นหนาว” เป็นช่วงที่ชาวชนบทจะเป็นไข้หวัดที่เรียกว่า “ไข้หัวลมระบาด” ชาวบ้านในสมัยก่อนจึงทำการเก็บเกี่ยวข้าวตั้งแต่ในระยะนมข้าว (ระยะพลับพลึง) เพื่อนำไปทำนมข้าวรับประทานป้องกันไว้ก่อน
คนโบราณเขาถือว่า การเก็บเกี่ยวข้าวระยะตั้งท้อง หรือระยะน้ำนมมาถือว่าเป็นบาป เพราะเป็นข้าวระยะตั้งท้อง เหมือนกับผู้หญิงเวลาตั้งท้อง แต่เขาจะเก็บข้าวระยะน้ำนมข้าว มาบดทานเวลาที่ไม่สบาย
นอกจากน้ำนมข้าวจะสามารถป้องกันไข้หัวลมได้ ในความคิดของชาวบ้านในสมัยก่อนแล้ว น้ำนมข้าวยังมีสรรพคุณอื่นๆ อีก เช่น ป้องกันโรคภูมิแพ้ แก้ระบบขับถ่ายไม่สะดวก หลังจากรับประทานผลิตภัณฑ์ ของเลดี้สิรินไปพักหนึ่งแล้ว เธอบอกว่า จะสามารถเห็นคุณประโยชน์ ของน้ำนมข้าว จากการบริโภคเป็นประจำ
ถ้าทานน้ำนมข้าวทุกวัน เป็นเวลาสองสัปดาห์จะเห็นผล เช่น ระบบขับถ่ายจะดีขึ้น ทำให้รอบเดือนมาตรงเวลา และคลายอาการปวดท้องน้อย เวลามีประจำเดือน แก้เหน็บชา ฯลฯ
น้ำนมข้าว ความงามที่มาแต่โบราณ
“ข้าวระยะน้ำนมคือ เมล็ดข้าวที่จะต้องเก็บเกี่ยว ในช่วงหลังจากดอกข้าว จะร่วงไม่นานประมาณ 7-10"
10 วัน (ซึ่งเรียกว่า ข้าวระยะพลับพลึง) ถือเป็นระยะของข้าว ที่จะให้น้ำนมที่ดีในช่วงนี้ ปกติข้าวเปลือกก่อนที่จะเข้าโรงสี เมื่อเราเอามือบีบเมล็ดข้าวดู เราจะเห็นว่ามันมีน้ำนมออกมานิดๆ ซึ่งไม่มากเท่าข้าวในระยะพลับพลึง
การบริโภคน้ำนมข้าวยาคู นอกจากจะถือว่า เป็นการใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า จากต้นข้าวแล้วเพราะนมข้าว จมูกข้าว ไคลข้าว และ เปลือกข้าว ได้ถูกนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิต
น้ำนมข้าวยังให้คุณค่าแก่ร่างกาย มากมายด้วยสารอาหาร ปราศจากไขมันและสารเคมี มีคุณค่าทางโภชนาการ ต่อร่างกายในระดับหนึ่ง
การบริโภคน้ำนมข้าวยาคู จะได้รับประโยชน์จากนมข้าว จมูกข้าว ไคลข้าว และเปลือกข้าว ซึ่งปราศจากไขมันและสารเคมี มีคุณค่าทางโภชนาการ ได้สารอาหารครบถ้วน ต่อร่างกายในระดับหนึ่ง มีธาตุเหล็ก ไฟเบอร์ บีหนึ่ง บีสอง วิตามินอี ที่ใช้บำรุงเลือดให้แก่สตรี ที่สำคัญมากที่สุดคือไขมันที่ศูนย์
สถาบันอาหารทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ทำการวิจัยว่ามีสารเอ็นโทรไซยานีน ซึ่งป้องกันการก่อเกิดมะเร็งในลำไส้ได้
โดยในช่วงปลายพรรษา หรือที่เขาเรียกกันว่าช่วงฤดู “ปลายฝน ต้นหนาว” เป็นช่วงที่ชาวชนบทจะเป็นไข้หวัดที่เรียกว่า “ไข้หัวลมระบาด” ชาวบ้านในสมัยก่อนจึงทำการเก็บเกี่ยวข้าวตั้งแต่ในระยะนมข้าว (ระยะพลับพลึง) เพื่อนำไปทำนมข้าวรับประทานป้องกันไว้ก่อน
คนโบราณเขาถือว่า การเก็บเกี่ยวข้าวระยะตั้งท้อง หรือระยะน้ำนมมาถือว่าเป็นบาป เพราะเป็นข้าวระยะตั้งท้อง เหมือนกับผู้หญิงเวลาตั้งท้อง แต่เขาจะเก็บข้าวระยะน้ำนมข้าว มาบดทานเวลาที่ไม่สบาย
นอกจากน้ำนมข้าวจะสามารถป้องกันไข้หัวลมได้ ในความคิดของชาวบ้านในสมัยก่อนแล้ว น้ำนมข้าวยังมีสรรพคุณอื่นๆ อีก เช่น ป้องกันโรคภูมิแพ้ แก้ระบบขับถ่ายไม่สะดวก หลังจากรับประทานผลิตภัณฑ์ ของเลดี้สิรินไปพักหนึ่งแล้ว เธอบอกว่า จะสามารถเห็นคุณประโยชน์ ของน้ำนมข้าว จากการบริโภคเป็นประจำ
ถ้าทานน้ำนมข้าวทุกวัน เป็นเวลาสองสัปดาห์จะเห็นผล เช่น ระบบขับถ่ายจะดีขึ้น ทำให้รอบเดือนมาตรงเวลา และคลายอาการปวดท้องน้อย เวลามีประจำเดือน แก้เหน็บชา ฯลฯ