ผมจะเล่าเรื่อง "เวลาเป็นเงินเป็นทอง" ให้ฟัง

คุณเคยสังเกตุไหม? งานชิ้นสำคัญที่สุดของวันใช้เวลาทำให้เสร็จได้ภายใน 2 ชั่วโมง และหลังจากนั้นอีก 6 ชั่วโมงที่เหลือของวันหมดไปกับเรื่องที่ไม่ใช่ผลผลิตที่มีมูลค่าสูงของชีวิต เช่น ตอบอีเมล์ รับโทรศัพท์ อธิบาย ตามงาน ซ้ำๆซากๆของคนที่พูดไม่รู้เรื่อง! หากถามว่าวันๆงานคุณยุ่งอะไร หลายคนตอบไม่ได้ว่าเอ้อ วันนี้ฉันยุ่งอะไรหว่า เหมือนจะไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง

ว่ากันตามตรง คุณก็แอบคิดว่ามันน่าจะกลับบ้านหรือออกไปใช้ชีวิตหลังงาน 2 ชั่วโมงแรกของคุณทำเสร็จไปได้แล้ว แต่ชีวิตมนุษย์เงินเดือนมันถูกแช่แป้งอย่างนั้นจริงๆ จึงไม่แปลกใจทำไมคนจำนวนมากถึงไม่อยากเป็นมนุษย์เงินเดือน

ไม่ใช่ไม่อยากเป็นมนุษย์เงินเดือนเพราะความเป็นมนุษย์เงินเดือนโดยตัวมันเอง แต่เพราะวิถีชีวิตแบบนี้มันไม่เติมเต็มศักยภาพของคุณ

คุณรู้หรือไม่ ประธานาธิปบดีโอบามา จ้างคนคิด เมนูอาหาร และ ช่างแต่งตัว มาทำหน้าที่คิดและตัดสินใจแทนเขาในแต่ละวัน... คุณอาจจะงงว่าเรื่องง่ายๆ ทำได้เองฟรีๆ ทำไมต้องจ้าง...เพราะอะไร? ไม่ใช่เพราะโอเว่อร์ครับ ท่าน Outsource งานเกือบทุกอย่างที่ไม่ใช่ Productivity ออกไปจากชีวิตและเคลียร์พื้นที่ในสมองเพื่อคิดแต่เรื่องสำคัญที่จะขับเคลื่อนแผนประเทศให้ไปข้างหน้า นี่เป็นหลักการเดียวกันกับนักธุรกิจ

นักธุรกิจ Make decision และ Allocate job พวกเขาจึงจ้าง Consult มาคอยป้อนความคิดและแสดงสถิติต่างๆ ส่วนตัวนักธุรกิจเลือกความคิดที่เขาต้องการที่สุดไปตัดสินใจขั้นเด็ดขาดและกระจายเนื้องานให้คนอื่นทำงาน จบ! และที่เหลือคือเขาจะออกเดินทางไปพัฒนา Connection เพื่อขยายธุรกิจต่อไป นี่คืองานสำคัญที่เจ้าของธุรกิจโฟกัส

หรือแม้แต่ฟรีแลนซ์เองอย่างที่ผมเคยบอก ฟรีแลนซ์เก่งอย่างเดียวเฉพาะทางไปเลยแต่เงินเดือนมากกว่าพนักงานธุรการที่ทำงานเป็นสิบๆอย่างถึง 10 เท่าตัว... เพราะโฟกัสที่ Core competency ทำในสิ่งที่ Niche และหาคนทำแทนไม่ได้ง่ายๆ ทำงาน 24 ชั่วโมงแต่รายได้มากกว่าคนทำงาน 240 ชั่วโมง นั่นหมายความว่าเวลาที่เหลืออีกครึ่งค่อนเดือนก็ออกไปใช้ชีวิตและหาตลาดใหม่ๆได้

นี่แหละที่โบราณว่า "เวลา-เป็นเงิน-เป็นทอง" บริหารเวลาและทำให้สิ่งที่เป็น Core competency จะทำให้เติบโต ก้าวหน้า และทำเงินได้มากกว่า

วันนี้ ขอให้คุณรีบทำงานสำคัญที่ออฟฟิศให้เสร็จ จะได้กลับบ้านเร็วๆ เพื่อมาสร้าง Side business ที่ทำเงินมากกว่าให้กับตัวคุณเอง


Credit Image: todevahouse.com

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่