แสดงความคิดเห็นต่อ คำอธิบายเรื่อง ฮิญาบ ของ คุณฮุไซนี

ผมขอขอบคุณๆ ฮุไซนี ที่กรุณา อธิบายเรื่องฮิญาบ ได้อย่างดี และด้วยเหตุผลที่ อาจจะช่วย ทำให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง ในกลุ่มสมาชิกในห้องศาสนา และผมคิดว่า ควรจะเสริมสร้าง ความคิดนี้ในสังคมมุสลิมไทย เพื่อความเข้าใจ การปฏิบัติของมุสลิมในสังคมโดยทั่วๆไปได้อย่างเป็นธรรม มากทีเดียว





ผมขอแสดงความคิดเห็นเป็นข้อๆ ต่อคำอธิบายของคุณสุไฮนี ดังนี้

ตามที่คุณ ฮุไซนี อธิบายว่า


1.รายละเอียดในเรื่องฮิญาบมีดังนี้ครับ    

     ฮิญาบเกิดขึ้นในสมัยนบีอิบรอฮีม มูซา อีซาและเรื่อยมา จนถึงสมัยนบีมูฮำหมัด ดังกล่าวนั้นถูกกล่าวในเตาเราะฮ์ อิลยีล และอัลกุรอาน
........

  คำว่าฮิญาบมีปรากฏอยู่ในอัลกุรอานจริง แต่ไม่มีความหมายเกี่ยวกับการคลุมหัว หรือคำสั่งที่เกี่ยวกับการให้คลุมหัวเลย    ซึ่งมีใช้อยู่ 7 ครั้ง, ประโยคที่ใช้คำว่าฮิญาบโดยตรง มีอยู่ 5  คร้ง อีกสองครั้งใช้คำว่า ฮิญาบัน ได้แก่ บัญญัติเหล่านี้ 7:46, 33:53, 38:32, 41:5, 42:51, 17:45 และ 19:17

    ถึงแม้ว่า คำว่าฮิญาบ เป็นศัพท์ที่ใช้กันในสตรีมุสลิมหมายถึงผ้าคลุมศรีษะ ซึ่งอาจจะไม่ได้ รวมความหมายไปถึง คลุมใบหน้าเว้นแต่นัยตา และบางครั้งเปิดเฉพาะนัยตาข้างเดียว
คำภาษาอรับ คำว่าฮิญาบ อาจจะมีความหมายว่า ฉากกั้น,ม่านกั้น,ผ้าม่านหน้าต่าง,กั้นเป็นสัดส่วน, และ ฝาผน้ง ที่กั้นระหว่างสองห้อง ดังที่ปรากฏในบัญญัติต่างๆในอัลกุรอานดังนี้

{7:46} وَبَيْنَهُمَا حِجَابٌ   และระหว่างทั้งสองนั้นมีกําแพงกั้น   
{33:53} وَإِذَا سَأَلْتُمُوهُنَّ مَتَاعًا فَاسْأَلُوهُنَّ مِنْ وَرَاءِ حِجَابٍ
และเมื่อพวกเธอขอสิ่งใดจากพวกนาง ก็จงขอพวกนางจากหลังม่าน   
38:32} فَقَالَ إِنِّي أَحْبَبْتُ حُبَّ الْخَيْرِ عَنْ ذِكْرِ رَبِّي حَتَّىٰ تَوَارَتْ بِالْحِجَابِ  
เขากล่าวว่า "แท้จริงฉันรัก สิ่งที่ดี (ม้า,ทรัพย์สมบัติ)  จนมันทำให้ฉันลืมการรำลึกถึงพระเจ้าของฉัน จนกระทั่ง(ดวงอาทิตย์)ลับขอบฟ้า" ในประโยคนี้คำว่า ฮิญาบ แปลว่า “บดบัง” ด้วยราตรีกาล
{41:5} وَبَيْنِكَ حِجَابٌ   ....และระหว่างพวกเรากับท่านก็มีฉากกั้นอยู่
{42:51}     إِلَّا وَحْيًا أَوْ مِنْ وَرَاءِ حِجَابٍ    เว้นแต่โดยทางการเปิดเผยสำแดงหรือโดยทางเบื้องหลังฉากกั้น   
{17:45} وَإِذَا قَرَأْتَ الْقُرْآنَ جَعَلْنَا بَيْنَكَ وَبَيْنَ الَّذِينَ لَا يُؤْمِنُونَ بِالْآخِرَةِ حِجَابًا مَسْتُورًا  
และเมื่อเธออ่านอัลกุรอาน เราได้กางม่านที่ถูกอำพรางนั้นกั้นไว้ระหว่างเธอ
และบรรดาผู้ไม่มีศรัทธาต่อวันปรโลก
{19:17} فَاتَّخَذَتْ مِنْ دُونِهِمْ حِجَابًا  แล้วนางได้ใช้ม่านกั้น   ให้ห่างพ้นจากพวกเขา

ทั้งหมดที่ผมกล่าวมานี้นี้คำว่าฮิญาบในอัลกุรอานไม่มีความหมายว่า “ผ้าคลุมศรีษะ” หรือผ้าคลุม หัว “คิมัร” แม้แต่น้อย  
.................................

2.ส่วนขอบเขตการคลุมฮิญาบ   

     มีการขัดแย้ง เหตุเกิดจากการพิจารณาตัวบทจากอัลกุรอาน

يَا أَيُّهَا النَّبِيُّ قُلْ لِأَزْوَاجِكَ وَبَنَاتِكَ وَنِسَاءِ الْمُؤْمِنِينَ يُدْنِينَ عَلَيْهِنَّ مِنْ جَلَابِيبِهِنَّ
  
โอ้นบีจงกล่าวสอนกับบรรดาภรรยาของเจ้า บรรดาบุตรสาวของเจ้า และมวลสตรี (ภริยา) ของบรรดาผู้ศรัทธา จงลากผ้าคลุมของพวกนางมาปิดบน (หน้า)พวกนาง  ในทัศนะที่จำเป็นต้องปิดหน้ายึดฮาดิษ

     บุคอรี รายงานจากท่านหญิงอาอิซะฮ์ พวกภรรยานบีปิดหน้าด้วยกุรอานบทนี้ ส่วนปราชญ์ที่ยึดมั่นว่าหน้าไม่ใช้อวัยวะสงวน ให้ทัศนะว่าเป็นการใช้ในที่นี้เฉพาะภรรยานบีเท่านั้น เพราะมีกุรอานบทอื่นที่สนับสนุนความคิดทีว่าหน้า มือไม่ใช้อวัยวะ
สงวน ดังนี้

وَقُلْ لِلْمُؤْمِنَاتِ يَغْضُضْنَ مِنْ أَبْصَارِهِنَّ وَيَحْفَظْنَ فُرُوجَهُنَّ وَلَا يُبْدِينَ زِينَتَهُنَّ إِلَّا مَا ظَهَرَ مِنْهَا  
  
   และเจ้าจงประกาศเถิดกับมวลสตรีผู้ศรัทธา จะต้องลดสายตา รักษาอวัยวะเพศของพวกนาง และพวกนางจะต้องไม่เปิดเผย(ร่างกายของพวกนางที่สวม) เครื่องประดับเว้นแต่สิ่ง (อวัยวะ)ที่เปิดเผยจากมัน (หน้าและมือ)

  ความเห็นนี้เป็น ความเห็น ของนักปราชญ์ส่วนใหญ่ (ผมอ่านหนังสืออธิบายกุรอานหลายเล่มยึดมั่นในทัศนะนี้)โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักปราชญ์สมัยหลัง เช่นท่านเชค อัลอัซฮัดร์ ยาดัลฮัก อาลี ยาดัลฮัก ด.ร ยูซุบ กอรดอวี ท่านเชคมูฮำหมัดฆอซาลี ท่านเชค อัซซะรอวีฯลฯ
....................

จากคำอธิบายข้างของคุณฮุไซนีบนนี้ การปิดหน้านั้นเป็นคำสั่งใช้เฉพาะภรรยาของท่านนบีเท่านั้น โดยใช้ ฮาดีษมาอธิบายอัลกุรอาน แต่เป็นการอธิบายที่ถูกต้อง เนื่องจาก   ซูเราะฮฺอัลอะหฺซาบ   33:59  ในตัวบัญญัติเองบ่งไว้อย่างชัดเจนว่า

โอ้นบีจงกล่าวสอนกับบรรดาภรรยาของเจ้า บรรดาบุตรสาวของเจ้า และมวลสตรี (ภริยา) ของบรรดาผู้ศรัทธา จงลากผ้าคลุมของพวกนางมาปิดบน (หน้า)พวกนาง   

การอธิบายในข้อนี้ถึงแม้ว่าจะใช้อัลกุรอานเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอที่จะเข้าใจได้ว่า
เป็นคำสั่งใช้เฉพาะภรรยาของท่านนบีเท่านั้น
..................................

3. คุณไฮซุนี อธิบายต่อไปว่า   

“ส่วนความคิดให้ปิดตั้งแต่อกลงมา  เป็นนักวิชาการสมัยใหม่ เช่น ด.ร.อะหมัดมันซูร ท่านมูฮำหมัดสอีดอัสมาวี โดยพิจารนาจากอัลกุรอานใช้ให้ปิดที่อกของมวลสตรีเหล่านั้นกุรอานไม่ได้กล่าวว่า ศรีษะ หน้า และมือ  

وَقُلْ لِلْمُؤْمِنَاتِ يَغْضُضْنَ مِنْ أَبْصَارِهِنَّ وَيَحْفَظْنَ فُرُوجَهُنَّ وَلَا يُبْدِينَ زِينَتَهُنَّ إِلَّا مَا ظَهَرَ مِنْهَا  


ข้อนี้สำคัญมากทีเดียวเป็น ข้อ ที่ถกเถียงกันตลอดมา โดยที่ผู้รู้บางคนพยายามที่จะ ใช้ คำว่า “คิมัร”  ในซูเราะฮฺอันนูร บัญญัติที่ 24:31 มาอ้างอิง ว่าอัลกุรอาน กล่าวถึง “การคลุมศรีษะ” ซึ่งเป็นการอ้างอิงที่ขาดตรรกะ  ตามคำอธิบายของ คุณ ฮุไซนี ในข้อ 1.  ที่กล่าวถึงว่า “คิมัร” มีใช้มาก่อนศาสนาอิสลาม.

3.    ข้อสรุปของคุณ ฮุไซนีที่ว่า;

คุณ ฮุไซนี  สรุปว่า:  

“สรุป เราควรยึดมั่นความเห็นส่วนใหญ่ของนักปราชญ์ทีให้ปิดร่างกาย ของมวลสตรีทั้งหมดนอกจากหน้าและมือ และไม่ควรกล่าวความเห็นส่วนน้อยโดยไม่กล่าวความคิดเห็นส่วนใหญ่ และกรณีกลัวว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัยก็ให้ปิดทั้งหมดครับ

ข้อสรุปนี้ผมนับถือในความคิดเห็นของคุณฮุไซนี ทั้งนี้เพราะว่าคุณแสดงให้เห็นว่า ในเรื่องการคลุมศรีษะ ของหญิงมุสลิมส่วนใหญ่นั้นมีอยู่สองทรรศนะ โดยนักปราชญ์ทางอิสลามทั้งสองฝ่าย ซึ่งคุณไม่ได้กล่าวหรืออธิบายว่าฝ่ายไหนถูกผิดอย่างใด ในการอธิบายความหมายใน อัลกุร อาน โดยที่คุณยึดถือความคิดเห็นส่วนมากเป็นสำคัญ ซึ่งผมเคารพในสิทธิของคุณ ในเรื่องนี้

การที่ผมกล่าวถึงความคิดเห็นส่วนน้อยในเรื่อง การคลุมศรีษะของสตรีมุสลิมนั้น เนื่องจากในสังคมมุสลิมภายนอก,ไม่มีผู้ใดที่มีความเข้าใจเช่นคุณ ที่จะกล้าแสดงให้เห็นว่า การคลุมศรีษะของสตรีนี้ มีนักวิชาการทางอิสลามรับรอง ว่าไม่มีอยู่ในอัลกุรอานเช่นกัน  ไม่ใช่เป็นความคิดเห็นของผมเพียงคนเดียวเท่านั้น และสิ่งที่ผมกล่าวมาตั้ง 10 กว่าปีก่อนนั้น ไม่ใช่เรื่อง โกหก หรือ เรื่องเท็จ แต่เป็นความจริง จากความคิดเห็นของนักวิชาการทางศาสนาอิสลามเช่นกัน แต่เป็นส่วนน้อย ที่คุณกล่าวถึง   

ส่วนความคิดให้ปิดตั้งแต่อกลงมา   เป็นนักวิชาการสมัยใหม่ เช่น ด.ร.อะหมัดมันซูร ท่านมูฮำหมัดสอีดอัสมาวี โดยพิจารนาจากอัลกุรอานใช้ให้ปิดที่อกของมวลสตรีเหล่านั้น กุรอานไม่ได้กล่าวว่า ศรีษะ หน้า และมือ”  

การเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของแต่ละฝ่าย และนับถือความคิดเห็นทั้งสองฝ่ายนั้น เป็นวิธีการที่ดีที่เป็นหลักสำคัญในการสนทนาในเรื่องศาสนาโดยที่จะไม่ทำให้เกิดเป็นการโต้เถียงและกลายเป็นเรื่องส่วนตัว

สมาชิกทุกๆท่าน ต้องเข้าใจให้ถูกต้องว่า คุณ ฮุไซนี ไม่ได้สนับสนุนความคิดเห็นของผมในเรื่อง ที่ว่า สตรีมุสลิม จะต้องสวมฮิญาบหรือไม่อย่างไร, แต่ คุณฮุไซนี ชี้ให้เห็นว่า การบังคับให้สตรีมุสลิม ให้คลุมศรัษะนั้นไม่มีอยู่ในอัลกุรอาน  แต่มีอยู่ใน อะฮาดีษ ซึ่งเป็นสิ่งที่มุสลิมะควรปฏิบัติตาม

สำหรับผมไม่มีข้อขัดข้องหรือตำหนิผู้ใดในการที่เขาจะสวมฮิญาบ แต่ผมกล่าวมาตลอดว่า ในอัลกุรอาน ไม่มีการบังคับให้สตรีมุสลิมสวมฮิญาบ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่