จะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทยในปี 2557

กระทู้สนทนา
จะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทยในปี 2557

1.    เศรษฐกิจตกต่ำ เกิดการชะลอการจ้างงานจนถึงการเลิกจ้าง
1.1    แม้ว่าปี 2557 เศรษฐกิจโลกอาจมีแนวโน้มจะฟื้นตัว แต่จะไม่เกิดขึ้นก่อนไตรมาสที่ 1 ตามคาดการณ์ ของ OECD  โดยเฉพาะเศรษฐกิจยุโรป ดังนั้น ภาคการส่งออกซึ่งเป็นเกือบ 70% ของ GDP ประเทศไทย ที่ตกต่ำในปี 2556 อยู่แล้ว  ก็จะยังไม่ดีดตัวกลับขึ้นมาได้  ประกอบกับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจและ การพัฒนาขีดความสามารถของประเทศคู่แข่ง โดยเฉพาะการลงทุนด้านการศึกษา และทักษะที่ต้องใช้ ในโลกเศรษฐกิจยุคใหม่ จะส่งผลให้ความสามารถในการแข่งขันของไทยจะลดลงอย่างมาก  นอกจากนี้ ความไม่มั่นคงทางการเมืองอย่างสุดโต่ง กระแสการกลับไปสู่ความไม่เป็นประชาธิปไตย ความไม่เป็น สากล ความแตกแยก ตั้งแต่ระดับรากแก้วจนถึงปลายยอดของต้นไม้ประเทศไทย อาจจะส่งผลให้ไทยถูก บอยคอตทางการค้าโดยอ้อม
1.2    ผลจากปัญหาการเมืองที่ทำให้ช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2556 ซึ่งควรจะเป็นช่วงดีดกลับและ ตักตวงด้านการท่องเที่ยว ตลอดจนการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ กลับไม่เกิดขึ้น  และเชื่อว่า จะมีผลต่อเนื่องไปจนถึงตรุษจีน  หรือทั้งไตรมาสที่ 1 ของปี 2557  จะยิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจไทยยิ่งขึ้น
1.3    การลงทุนภาครัฐในเมกะโปรเจค ทั้งการจัดการน้ำและโครงการอนาคตประเทศไทย 2 ล้านล้าน กลับกลายเป็นหมัน ต่างชาติเกิดความไม่มั่นใจในการลงทุน ซึ่งจะส่งผลทั้ง FDI และ Non FDI กล่าวอีกนัยหนึ่ง ไอพ่นขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยทุกเครื่องจอดสนิท
1.4    ได้มีการคาดการณ์การชะลอตัวการจ้างงานของประเทศไทย โดยเฉพาะผู้ที่จบปริญญาตรีขึ้นไปว่า ได้เริ่มชะลอตัวตั้งแต่ปี 2556 โดยสถานการณ์แย่ลงกว่าปี 2555  ทั้งนี้ ผลจากความไม่มั่นใจอย่างรุน-แรงทางการเมือง และเศรษฐกิจที่จะตกต่ำอย่างมาก  จึงค่อนข้างจะแน่ใจว่า 2557 จะเป็นนรกของผู้ หางานทำ และอาจเป็นหายนะของลูกจ้าง โดยเฉพาะพวกที่สามารถมีเวลาไปร่วมกิจกรรมทางการ เมืองได้โดยงานไม่กระทบ อันบ่งบอกถึง การเป็นผู้ที่เป็น  Non Value Added Worker  ดังนั้น การ จ้างงานอาจจะหดตัวมากที่สุดในรอบ 8 ปี
2.    ปัญหาการจัดการความเสี่ยง ที่อาจเกิดขึ้นและมีผลกระทบอย่างคาดไม่ถึง จะส่งผลให้เกิดความรุนแรง มากเกินความสามารถในการควบคุม
2.1    ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบปัญหาธรรมชาติใหญ่ 2 ครั้ง อันได้แก่ Tsunami ในปี 2548 และ น้ำท่วมในปี 2554  ทั้ง 2 ครั้ง แม้จะเป็นปัญหาที่รุนแรง แต่ทั้งรัฐบาลและระบบราชการ ต่างอยู่ ในภาวะที่ยัง function ได้ตามปกติ แต่นับจากปลายปี 2556 เป็นต้นมา ทั้ง 2 ส่วนขาดการ function ทั้งนี้ คาดว่าปัญหานี้ยังจะกิดต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาสที่ 1 ของปี 2557  ผลก็คือ หากเกิดปัญหาที่ต้อง การการแก้ไขและประสานงานทั้งระบบ  จะไม่มีใครเป็นเจ้าภาพและเป็นองคาพยพที่มีประสิทธิภาพ ในขณะที่ มิต้องพูดถึงการเตรียมการซึ่งได้ถูกละเลย ผลกระทบจะรุนแรงอย่างมาก
2.2    ปัญหาพืชผลการเกษตร รวมถึงเรื่องปศุสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคา หรือผลผลิต หากมีปัญหาเกิดขึ้น ก็อาจจะหวังได้ยากว่าใครจะเป็นผู้โดดเข้ามาแก้ไขปัญหา เนื่องจากฝ่ายนโยบายยังเอาตัวเองไม่รอด ยกเว้น จะโชคดีในบางช่วงรัฐบาลที่ประเทศไม่มีปัญหาเรื่องขาดแคลนน้ำมันปาล์ม แต่ก็มีผู้บันดาล ให้เกิดปัญหา   ปัญหานี้เป็นเรื่องข้อเท็จจริงว่าประเทศไทยในช่วงนั้นขาดน้ำมันปาล์ม ทั้งที่ภาค- ราชการได้คาดการณ์และเตือนไว้ล่วงหน้า  ทำให้ประชาชนต้องซื้อน้ำมันปาล์มในราคาที่สูงอย่าง มาก ซึ่งมิใช่เป็นผลระหว่างอุปสงค์ อุปทานอย่างเดียว  แต่เป็นเรื่องนโยบายที่รัฐกำหนดราคาด้วย เช่นกัน  อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญคือ ในปี 2557 ปัญหาใด ๆ ที่จะเกิดขึ้น ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ แก้ไขปัญหาให้กับประชาชน  หากการเมืองยังมีความไม่แน่นอนที่รุนแรงในระดับหลักการและ โครงสร้างเช่นนี้  
3.    สังคมไทยจะแตกแยกรุนแรง ในเรื่องที่ผิดจากอารยะประเทศ
3.1 ปัญหาความแตกแยกในโลก ส่วนใหญ่เกิดจากเรื่องเชื้อชาติและความเชื่อทางศาสนา หรือเรื่องสีผิว แต่ประเทศไทย ความแตกแยกกลับเกิดจากการกลุ่มใช้เหตุผล กับกลุ่มไม่ใช่เหตุผล  กลุ่มใช้ความรุนแรง กับกลุ่มถูกใช้ความรุนแรง  มีผู้ลุ่มหลง ขาดสติปัญญา ไม่ยั้งคิด บวกกับความไม่เป็นกลางและความไม่- เป็นธรรมอย่างไร้ซึ่งหลักการ  มีผู้เห็นว่าตนดีกว่าคนอื่นมาก ทั้งที่ไม่มีบทพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์  มีผู้ที่ เห็นว่าบุคคลที่มีการศึกษาสูงกว่า มีคุณค่าสูงกว่าบุคคลที่มีการศึกษาต่ำกว่า  หรืออีกนัยหนึ่ง มีลูกที่เห็น ว่าตัวเองมีค่ากว่าพ่อแม่ ทั้งที่รุ่นพ่อรุ่นแม่ ซึ่งเรียนมาน้อย แต่ทำมาหากิน ส่งลูกส่งหลานให้ได้การศึกษา สูง ๆ   เมืองไทยจึงเป็นความแตกแยกระหว่าง  ผู้พยายามจะใช้เหตุผลและหลักการ  กับผู้ที่ใช้โมหะจริต และละทิ้งซึ่งความมีเหตุผล
3.2 เสาหลักที่สำคัญที่จะช่วยให้คนไทยมีสติ ใช้เหตุผล อันได้แก่ พระสงฆ์ ก็กลับเข้าร่วมสร้างความแตก แยกและไม่ใช้เหตุผลไปเสียอีก  ยังไม่นับการนับลัทธิความเชื่ออย่างไม่ถูกต้องตามหลักธรรมเข้ามามอม เมาคนไทย  โดยได้รับการเกื้อหนุนจากผู้ที่ชอบเผยแพร่ความเชื่อในสิ่งงมงาย และให้ประชาชนพึ่งพาสิ่ง ที่อ้างว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์  ทั้งหลายทั้งปวง ล้วนส่งเสริมให้คนไทย “ไม่คิด ไม่พูด ไม่ทำ” บนเหตุผลที่ เป็นเหตุผล
3.3 ผลจากความแตกแยกดังกล่าว จะนำไปสู่ความรุนแรง ทั้งในระดับจุลภาค และมหภาค  คาดเดายาก ว่าทางออกคืออะไร หรือจุดจบของเรื่องอยู่ที่ใด  แต่การพ้นจากขอบเหว ไม่น่าจะเกิดก่อนภายใน 2-3 ปีนี้  ทั้งนี้อย่าลืมว่าไทยกำลังจะเข้าสู่ AEC ยิ่งส่งผลให้คาดเดาได้ว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรได้ยาก  เราอาจจะ พบ ไทยรบกับไทย เพื่อนทำร้ายอดีตเพื่นอ คนไม่รู้จักกันให้ร้ายและทำร้ายคนไม่รู้จักกัน  วันนี้สังคมไทย ได้ขาดผู้ที่คำนึงถึงคนไทยอย่างแท้จริงแล้ว ………. ยังมีต่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่