คงจะถึงคราวซวยของผมกระมังครับ ที่บังเอิญได้อ่านการสัมภาษณ์ของด๊อกฯตามลิงค์นี้
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNE5qYzJOamN5TUE9PQ==&subcatid=
ทำให้ผมเกิดความรู้สึกสิ้นหวังกับประชาธิปไตยของไทยจริงๆเลยนะครับ นี่หรือครับเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่พยายามบอกตัวเองเป็นพวกมีคุณภาพ ปกป้องประชาธิปไตย
ซึ่งความจริงก็น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะไม่ว่าการศึกษา ตำแหน่งหน้าที่การงานของด๊อกฯ ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ควรจะเป็นเครื่องประกันคุณภาพได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อแสดงตัวตนออกมาแล้ว เฮ่อ เวรกรรมของประเทศจริงๆที่มีคนอย่างด๊อกฯ ทั้งๆที่เคยเป็นถึงตำแหน่งอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์
ด๊อกฯครับ ที่เขาบอกว่า การศึกษาไม่ใช่ตัวชี้วัดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และก็ไม่ใช่ตัวบ่งชี้เรื่องคุณภาพ น่าจะจริงนะครับ เพราะไม่ว่าจะเป็นด๊อกฯเสรี ด๊อกฯธีระยุทธ รวมทั้งตัวด๊อกฯเอง ล้วนแต่เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนตามที่เขาบอกจริงๆนะครับ
ด๊อกฯคิดได้อย่างไรครับ หลัก 1 คน 1 เสียงไม่เหมาะสำหรับประเทศไทย แล้วอ้างสารพัดประเทศ ที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ที่มีความแตกต่างในหลายด้าน แต่สิ่งที่ด๊อกฯไม่พูดถึงก็คือ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกรูปแบบไหนในการปกครองประเทศ ประเทศเหล่านั้นก็ล้วนแต่ใช้ 1 คนมีหนึ่งเสียงเท่ากันทั้งหมดแหละครับ นี่แหละที่เขาเรียกว่า ประชาธิปไตยไงล่ะด๊อกฯ
ส่วนแนวคิดของด๊อกฯนั้น มันเป็นแนวคิดที่กำลังจะย้อนยุคครับ ย้อนกลับไปถึงการเหยียดมนุษย์ที่อ่อนแอกว่า และยังเป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างน่ารังเกียจที่สุดเลยนะครับด๊อกฯ
ปัญหาของประเทศ มันไม่ใช่อยู่ที่ 1 คน 1 เสียง เหมาะหรือไม่เหมาะนะครับ
แต่ปัญหามันอยู่ที่การไม่เคารพศักดิ์ศรีของคนอื่นต่างหากครับ
แต่ปัญหามันอยู่ที่การไม่ยอมรับความเท่าเทียมกันของคนต่างหากครับ
และปัญหาที่สำคัญกลับเป็นพวกนักวิชาการตกขอบ ที่หวังจะได้ตำแหน่ง ได้อำนาจโดยไม่ผ่านการเลือกตั้ง แล้วใช้อวิชาในการแสดงความคิดเห็นชี้นำสังคม จนคนที่ขาดการไตร่ตรองโดยละเอียดหลงเชื่อ แล้วทำให้ประเทศต้องวุ่นวายอยู่ขณะนี้ไงครับด๊อกฯ
ด๊อกฯครับ ด๊อกฯกำลังจะบอกว่า คนไร้คุณภาพของคนไทยมากเกินไป จนใช้ 1 สิทธิ 1 เสียงไม่ได้ ซึ่งในความหมายของด๊อกฯกำลังจะบอกสังคมว่า
คนไทยยังมีคุณภาพสู้แอฟริกาใต้ไม่ได้ จึงไม่ควรมี 1 สิทธิหนึ่งเสียงเท่ากันอย่างนั้นหรือ
คนไทยยังมีคุณภาพสู้เวียดนามไม่ได้ จึงไม่ควรมี 1 สิทธิหนึ่งเสียงเท่ากันอย่างนั้นหรือ
คนไทยยังมีคุณภาพสู้กัมพูชาไม่ได้ จึงไม่ควรมี 1 สิทธิหนึ่งเสียงเท่ากันอย่างนั้นหรือ
ซ้ำร้ายกว่านั้น คนไทยยังมีคุณภาพด้อยกว่าพม่าที่พึ่งจะเปิดประเทศไม่นานไม่ได้ จึงไม่ควรมี 1 สิทธิหนึ่งเสียงเท่ากันอย่างนั้นหรือ
ซึ่งความจริงผมก็รู้เช่นเดียวกับที่ด๊อกฯรู้ ว่ามันไม่ใช่ เพียงแต่เป็นความพยายามที่จะทำให้สังคมคล้อยตาม เพื่อจะได้สร้างกติกา หวังผลทางการเมืองเท่านั้นเอง จริงหรือไม่ ด๊อกฯคงรู้แก่ใจ
เพราะถ้าด๊อกฯมีแนวคิดนี้มาล่ะก้อ ตอนที่รัฐบาลอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ด๊อกฯได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานปฏิรูปการเมืองฯ ทำไมช่วงนั้นจึงไม่ได้เสนอแนวคิดดังกล่าวให้รัฐบาลสมัยนั้นปฏิรูปล่ะครับ นอกจากเสนอการแก้รัฐธรรมนูญที่เอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองที่แต่งตั้งด๊อกฯเหอ ช่วยบอกที
อย่างนี้จะให้ผมเรียกว่า ผลประโยชน์ทับซ้อนหรือผลประโยชน์เชิงนโยบายดีครับด๊อกฯ
ด๊อกเตอร์สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ครับ ไม่อายลูกศิษย์บ้างหรือครับ
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNE5qYzJOamN5TUE9PQ==&subcatid=
ทำให้ผมเกิดความรู้สึกสิ้นหวังกับประชาธิปไตยของไทยจริงๆเลยนะครับ นี่หรือครับเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่พยายามบอกตัวเองเป็นพวกมีคุณภาพ ปกป้องประชาธิปไตย
ซึ่งความจริงก็น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะไม่ว่าการศึกษา ตำแหน่งหน้าที่การงานของด๊อกฯ ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ควรจะเป็นเครื่องประกันคุณภาพได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อแสดงตัวตนออกมาแล้ว เฮ่อ เวรกรรมของประเทศจริงๆที่มีคนอย่างด๊อกฯ ทั้งๆที่เคยเป็นถึงตำแหน่งอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์
ด๊อกฯครับ ที่เขาบอกว่า การศึกษาไม่ใช่ตัวชี้วัดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และก็ไม่ใช่ตัวบ่งชี้เรื่องคุณภาพ น่าจะจริงนะครับ เพราะไม่ว่าจะเป็นด๊อกฯเสรี ด๊อกฯธีระยุทธ รวมทั้งตัวด๊อกฯเอง ล้วนแต่เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนตามที่เขาบอกจริงๆนะครับ
ด๊อกฯคิดได้อย่างไรครับ หลัก 1 คน 1 เสียงไม่เหมาะสำหรับประเทศไทย แล้วอ้างสารพัดประเทศ ที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ที่มีความแตกต่างในหลายด้าน แต่สิ่งที่ด๊อกฯไม่พูดถึงก็คือ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกรูปแบบไหนในการปกครองประเทศ ประเทศเหล่านั้นก็ล้วนแต่ใช้ 1 คนมีหนึ่งเสียงเท่ากันทั้งหมดแหละครับ นี่แหละที่เขาเรียกว่า ประชาธิปไตยไงล่ะด๊อกฯ
ส่วนแนวคิดของด๊อกฯนั้น มันเป็นแนวคิดที่กำลังจะย้อนยุคครับ ย้อนกลับไปถึงการเหยียดมนุษย์ที่อ่อนแอกว่า และยังเป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างน่ารังเกียจที่สุดเลยนะครับด๊อกฯ
ปัญหาของประเทศ มันไม่ใช่อยู่ที่ 1 คน 1 เสียง เหมาะหรือไม่เหมาะนะครับ
แต่ปัญหามันอยู่ที่การไม่เคารพศักดิ์ศรีของคนอื่นต่างหากครับ
แต่ปัญหามันอยู่ที่การไม่ยอมรับความเท่าเทียมกันของคนต่างหากครับ
และปัญหาที่สำคัญกลับเป็นพวกนักวิชาการตกขอบ ที่หวังจะได้ตำแหน่ง ได้อำนาจโดยไม่ผ่านการเลือกตั้ง แล้วใช้อวิชาในการแสดงความคิดเห็นชี้นำสังคม จนคนที่ขาดการไตร่ตรองโดยละเอียดหลงเชื่อ แล้วทำให้ประเทศต้องวุ่นวายอยู่ขณะนี้ไงครับด๊อกฯ
ด๊อกฯครับ ด๊อกฯกำลังจะบอกว่า คนไร้คุณภาพของคนไทยมากเกินไป จนใช้ 1 สิทธิ 1 เสียงไม่ได้ ซึ่งในความหมายของด๊อกฯกำลังจะบอกสังคมว่า
คนไทยยังมีคุณภาพสู้แอฟริกาใต้ไม่ได้ จึงไม่ควรมี 1 สิทธิหนึ่งเสียงเท่ากันอย่างนั้นหรือ
คนไทยยังมีคุณภาพสู้เวียดนามไม่ได้ จึงไม่ควรมี 1 สิทธิหนึ่งเสียงเท่ากันอย่างนั้นหรือ
คนไทยยังมีคุณภาพสู้กัมพูชาไม่ได้ จึงไม่ควรมี 1 สิทธิหนึ่งเสียงเท่ากันอย่างนั้นหรือ
ซ้ำร้ายกว่านั้น คนไทยยังมีคุณภาพด้อยกว่าพม่าที่พึ่งจะเปิดประเทศไม่นานไม่ได้ จึงไม่ควรมี 1 สิทธิหนึ่งเสียงเท่ากันอย่างนั้นหรือ
ซึ่งความจริงผมก็รู้เช่นเดียวกับที่ด๊อกฯรู้ ว่ามันไม่ใช่ เพียงแต่เป็นความพยายามที่จะทำให้สังคมคล้อยตาม เพื่อจะได้สร้างกติกา หวังผลทางการเมืองเท่านั้นเอง จริงหรือไม่ ด๊อกฯคงรู้แก่ใจ
เพราะถ้าด๊อกฯมีแนวคิดนี้มาล่ะก้อ ตอนที่รัฐบาลอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ด๊อกฯได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานปฏิรูปการเมืองฯ ทำไมช่วงนั้นจึงไม่ได้เสนอแนวคิดดังกล่าวให้รัฐบาลสมัยนั้นปฏิรูปล่ะครับ นอกจากเสนอการแก้รัฐธรรมนูญที่เอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองที่แต่งตั้งด๊อกฯเหอ ช่วยบอกที
อย่างนี้จะให้ผมเรียกว่า ผลประโยชน์ทับซ้อนหรือผลประโยชน์เชิงนโยบายดีครับด๊อกฯ