JJNY : 5in1 ส.นักกม.สิทธิเรียกร้องสภา│ยัน 112 เป็นคดีการเมือง│อ.ภาคปชช.แถลงข่าว│“เท้ง” ซัดแอปล่ม ระบบพัง│"หญิงหน่อย"ซัด!

สมาคมนักกม.สิทธิ เรียกร้องสภา-ส.ว. รับร่างนิรโทษฉบับประชาชน หวังนักโทษคดี 112 ได้กลับบ้าน
https://www.matichon.co.th/politics/news_5269698
.
.
สมาคมนักกม.สิทธิ เรียกร้องสภา-ส.ว. รับร่างนิรโทษฉบับประชาชน ขอให้นักโทษคดี 112 ได้กลับบ้าน ช่วยกันร่วมยืนยันระบอบประชาธิปไตยต้องไม่มีนักโทษทางความคิด
.
เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ออกแถลงการณ์กรณีสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมจำนวน 5 ฉบับ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ซึ่งมีเพียงร่างนิรโทษกรรมประชาชนที่ภาคประชาชนเสนอเพียงฉบับเดียวที่นิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 โดยมีกำหนดอภิปรายสรุปและลงมติต่อในวันที่ 16 กรกฎาคม 2568
.
ขณะที่ น.ส.พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความผู้ร่วมก่อตั้งและผู้จัดการฝ่ายวิจัยกฎหมาย ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน (TLHR) ในฐานะตัวแทนเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมสภา (9 ก.ค.) เกี่ยวกับร่างกฎหมายฉบับนี้ และเมื่อพิจารณาจากคำชี้แจงแล้วพบว่า มีหลักฐานชัดเจนที่บ่งชี้ว่าคดีตาม มาตรา 112 แห่งประมวลกฎหมายอาญา มีลักษณะเป็นคดีทางการเมืองอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ หลักฐานสำคัญประการหนึ่งคือการที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งทำการรัฐประหารเมื่อปี พ.ศ.2557 ได้กำหนดให้คดีมาตรา 112 เป็นหนึ่งในคดีที่ต้องขึ้นศาลทหาร ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงเจตนาในการใช้กฎหมายนี้เพื่อควบคุมสถานการณ์ทางการเมือง
.
นอกจากนี้ ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้ประกาศใช้กฎหมายทุกบททุกมาตรากับผู้ชุมนุม ซึ่งในขณะนั้นกฎหมายอื่นๆ มีการบังคับใช้อยู่แล้ว เว้นแต่มาตรา 112 ที่ถูกนำกลับมาใช้เพื่อจัดการกับการชุมนุมทางการเมืองโดยเฉพาะ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการตีความและการนำไปใช้ในบริบททางการเมืองอย่างชัดเจน
.
ในการดำเนินคดีมาตรา 112 ที่ผ่านมา พบปัญหาหลายประการที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิของจำเลยและหลักการพิจารณาคดีอย่างเปิดเผย ได้แก่ จำเลยในคดีมาตรา 112 มักไม่ได้รับสิทธิในการประกันตัว ซึ่งทำให้ต้องถูกคุมขังระหว่างการพิจารณาคดี ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชีวิตและโอกาสในการต่อสู้คดี การต่อสู้คดีในศาลมีความยากลำบาก
.
มีกรณีที่ศาลบ่ายเบี่ยงการเรียกพยานหลักฐาน มีการตัดพยาน ทำให้การนำเสนอข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์เป็นไปได้ยาก หรือแม้จะไม่มีคำสั่งให้พิจารณาคดีลับอย่างเป็นทางการ แต่กลับมีข้อจำกัดในการนำเรื่องราวภายในห้องพิจารณาคดีไปเผยแพร่ต่อสาธารณะ รวมถึงการอ่านคำพิพากษาในห้องเวรชี้ ซึ่งทำให้ประชาชนทั่วไปไม่สามารถเข้าฟังได้ ส่งผลให้กระบวนการพิจารณาคดีกลายเป็นการลับโดยปริยาย
.
จากข้อมูลที่รวบรวมโดยศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน พบว่ามี 32 ฐานความผิด ที่ถูกนำมาใช้กับผู้ที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง และปัจจุบัน มีผู้ถูกคุมขังในเรือนจำจากคดีการเมืองทั้งหมด 51 คน โดยในจำนวนนี้เป็นคดีตามมาตรา 112 จำนวน 31 คดี เป็นที่ชัดเจนว่าคดีเหล่านี้ล้วนมีลักษณะเป็นคดีทางการเมือง
.
หากมีการนิรโทษกรรมโดยยกเว้นคดีมาตรา 112 จะส่งผลให้ผู้คนอีกกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ ที่ถูกคุมขังในคดีนี้ยังคงต้องอยู่ในเรือนจำ ซึ่งจะกลายเป็นการนิรโทษกรรมให้แก่คนส่วนน้อยเท่านั้น และไม่ได้เป็นการแก้ไขปัญหาภาพรวมของนักโทษทางการเมืองอย่างแท้จริง
.
เมื่อพิจารณาการกระทำของผู้ที่ถูกดำเนินคดีนั้น แท้จริงแล้วล้วนเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นการปราศรัยถึงสถานะและบทบาทของสถาบันกษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยระหว่างการชุมนุมทางการเมือง หรือการแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นความเปลี่ยนแปลงสถานะและบทบาทของสถาบันกษัตริย์ที่เกิดขึ้นจากการออกกฎหมายหลายฉบับ ซึ่งล้วนเป็นปัญหาทางการเมืองที่อยู่ในความสนใจของสาธารณะ
.
ดังนั้น การแสดงความคิดเห็นในประเด็นเหล่านี้จึงเป็นการแสดงออกทางการเมืองโดยแท้จริง อย่างไรก็ตาม การกระทำเหล่านี้กลับถูกนำมาตรา 112 มาใช้ดำเนินคดี ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชีวิตของผู้ต้องหาจำนวนมาก ทั้งๆ ที่ผู้ถูกดำเนินคดีส่วนใหญ่เป็นเพียงประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้มีเจตนาในการล้มล้างการปกครองแต่อย่างใด
.
ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าคดีตามมาตรา 112 มีลักษณะทางการเมืองอย่างชัดเจน
.
เพื่อยืนยันหลักการอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชนตามหลักการประชาธิปไตย รัฐสภาในฐานะผู้แทนปวงชนชาวไทยไม่มีเหตุอันใดที่จะคัดค้านเจตจำนงของประชาชนต่อร่างกฎหมายนี้ ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของประชาชนฉบับนี้ ไม่เพียงเรียกร้องให้นักโทษทางความคิดหรือนักโทษทางการเมืองได้กลับบ้านเท่านั้น หากแต่เพื่อยืนยันว่าในประเทศที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตยต้องไม่มีนักโทษทางความคิดหรือนักโทษทางการเมือง หากประเทศไทยมีนักโทษทางการเมืองย่อมสะท้อนความอ่อนแอของระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทย
.
สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนจึงขอเรียกร้องให้สภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา มีมติรับร่างกฎหมายนิรโทษกรรมประชาชน เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการคืนสิทธิเสรีภาพให้แก่ประชาชน และยุติความขัดแย้งที่ยืดเยื้อยาวนานกว่า 2 ทศวรรษด้วยกลไกรัฐสภาตามระบอบประชาธิปไตยอันมีอารยะต่อไป
.
สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน
.
https://www.facebook.com/hrlathai/posts/pfbid02xW1qaLDhUVZAdz2GYaipWmZ49JMD9LR28kiLveP2HnP6YU4b45WJqXcuR4hCkxwdl
.

.
ทนายนรเศรษฐ์ ยัน 112 เป็นคดีการเมือง ยกตำราปรมาจารย์กม. โต้สภาฯ ขวางรวมนิรโทษ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5269558
.
ทนายนรเศรษฐ์ ยัน 112 เป็นคดีการเมือง ยกตำราปรมาจารย์กม. โต้สภา ขวางรวมนิรโทษ
.
เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความเครือข่ายศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นกรณีที่สภาผู้แทนราษฎร พิจารณา 5 ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หลัง ส.ส.หลายคนลุกขึ้นอภิปรายไม่ให้รวมคดี 112 ว่า
.
คดีมาตรา 112 ตามหลักวิชาการทางกฎหมายอาญา มาตรานี้ถือเป็น “ความผิดทางการเมืองโดยแท้”
.
เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ความคิดเห็น แต่ถูกเขียนไว้อย่างชัดเจนในหนังสือที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นมาตรฐานปรมาจารย์ด้านกฎหมายอาญา โดยท่านอาจารย์ จิตติ ติงศภัทิย์ ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง รวมถึงมาตรา 112 นั้น เป็นความผิดทางการเมืองอย่างแท้จริง
.
การที่ผู้แทนราษฎรบางท่านอภิปราย หรือแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างออกไป อาจสะท้อนว่ายังไม่ได้ศึกษาค้นคว้าหลักวิชาการทางกฎหมายอย่างลึกซึ้งในประเด็นนี้ หรือตั้งใจพูดโดยบิดเบือนหลักการ
.
ดังนั้น พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ จึงควรจะรวมมาตรา 112 ไว้ด้วย เพราะเป็นคดีทางการเมืองโดยแท้ นิรโทษกรรมประชาชน 
.
https://www.facebook.com/ronsan.huadong/posts/pfbid02YdELBGYKuZfCwN1Q4ZrJ23y9Fapff6D4vab7xfDnxT1Ba6BRCKYdccYEmNw3x97yl
.

.
องค์กรภาคประชาชนแถลงข่าว 'รัฐธรรมนูญ 60 คือทางตัน รัฐธรรมนูญประชาชนคือทางออก'
.
องค์กรภาคประชาชน แถลงข่าว 'รัฐธรรมนูญ 60 คือทางตัน รัฐธรรมนูญประชาชนคือทางออก' แสดงเจตจำนงต้องการรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง
.
10 ก.ค. 2568 เวลา 10.00 น. ที่ห้องสุรกิจ โรงแรมอลิซาเบธ มีงานแถลงข่าวภาคประชาชน “รัฐธรรมนูญ 60 คือ ทางตัน รัฐธรรมนูญประชาชน คือ ทางออก” โดยองค์กรภาคประชาชนกว่า 25 องค์กร ถึงความจำเป็นในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แสดงเจตจำนงต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นของประชาชน เพื่อปฏิรูปสถาบันทางการเมืองให้กลับมายึดโยงประชาชน ทำให้ระบอบประชาธิปไตยมีความมั่นคงยั่งยืน และฟื้นฟูสิทธิเสรีภาพของประชาชน ทั้งสิทธิสวัสดิการ เช่น การศึกษา สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม ที่ดิน-ที่อยู่อาศัย รวมไปถึงสิทธิพลเมือง สิทธิทางการเมือง สิทธิทางกระบวนการยุติธรรม หรือ สิทธิทางเพศและความเป็นธรรมทางเพศ ไปจนถึงการฟื้นฟูหลักนิติรัฐ-นิติธรรม
.
โดยองค์กรที่ร่วมแถลงข่าวได้แก่ เครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญ (CALL), โครงการอินเตอร์เพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw), มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLaw), ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น (CPCR), เครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ, เครือข่ายสลัม 4 ภาค, สมัชชาคนจน, ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน (TLHR), คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญประชาชน (ครช.), มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม (มอส.), เครือข่ายทอม ผู้ชายข้ามเพศ นอนไบนารี่ เพื่อความเท่าเทียม (TransEqual), กลุ่มทำทาง, กลุ่มพัฒนาแรงงานสัมพันธ์ตะวันออก, สหภาพคนทำงาน, เครือข่ายแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง, แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม, กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (DRG), We Watch, We Fair, ActLab, Secure Renger, Beach for life, Tune & Co,  DAYBREAKER NETWORK และกลุ่มทะลุฟ้า
.
โดยแต่ละองค์กรที่ร่วมแถลงข่าว มีตัวแทนมาร่วมกล่าวถึงข้อจำกัดของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ความจำเป็นและเจตจำนงถึงรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มีประเด็นสำคัญพอสรุปได้ดังนี้
.
รัฐธรรมนูญปี 2560 สถาปนาระบอบที่เรียกว่า ‘รัฐอำนาจนิยม’ ทำให้สิทธิและเสรีภาพของประชาชนอ่อนแอลง ทั้งในเรื่องการเปลี่ยนสิทธิเสรีภาพของประชาชนให้เป็นหน้าที่ของรัฐ การลดทอนสิทธิเสรีภาพในสิ่งแวดล้อมที่ดี สิทธิชุมชน ที่ดินทำกิน แรงงาน สวัสดิการสังคม ความหลากหลายและความเท่าเทียมทางเพศ การทำแท้ง กระบวนการยุติธรรม รวมไปถึงเสรีภาพในการรวมกลุ่มและการแสดงออก และในขณะเดียวกันนั้น รัฐธรรมนูญปี 2560 ยังทำให้อำนาจของประชาชนอ่อนแอ ตั้งแต่ความไม่ชอบธรรมในการเข้าสู่อำนาจทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้ง การเข้าสู่อำนาจของ สว. ไปจนถึงการบั่นทอนสถาบันทางการเมืองที่มาจากประชาชนทั้งสภาผู้แทนราษฎรหรือรัฐบาลก็ตาม ผ่านการตีความที่เรียกว่ากฎหมู่ที่คนบางกลุ่มร่างขึ้นมาและบังคับใช้ตีความเอง คือมาตรฐานจริยธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต และยุทธศาสตร์ชาติ
.
การที่ต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 บีบให้ประชาชนอยู่ใต้ทางตัน จึงมีความจำเป็นที่จะต้องร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ปฏิรูปโครงสร้างทางการเมือง คืนสิทธิเสรีภาพอย่างแท้จริงให้กับประชาชน การจะมีรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนนั้นยืนยันว่าจะต้องมี สสร. ที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งต้องคำนึงถึงการมีส่วนร่วมและความหลากหลายของประชาชน และ สสร. ต้องมีอำนาจอย่างเต็มที่ในการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่เต็มฉบับ และทางออกในการไปสู่รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนได้นั้น ต้องอาศัยพลังของประชาชนในการกดดัน กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีการวินิจฉัยชี้ขาดเรื่องการทำประชามติ และในกรณีของวุฒิสภาซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้ง และยืนยันว่าไม่ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้นกับรัฐบาล ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ของสภา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่