สวัสดีทุกๆคนนะค่ะ ต้องเรียนให้ทราบว่ากระทู้นี้เป็นกีะทแรกนะคะ ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยคะ !!!
ขื่อ"น้องหน่อยค่ะ" ขอเรียกแทนตัวเองว่าน้องนะค่ะ 555 วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์และวิวัฒนาการขิง ตัว น้องหน่อย เองนะค่ะ !!
เป็นตุ๊ด คนนึงนะต่ะที่อยากสวยในชาตินี้ ทุกคนมีต้นทุนมาไม่เท่ากัน ซึ่งเราเองก็เป็นคนนึงที่รู้สึกว่า สิ่งที่เราได้รับมานั้น มันไม่สวย
เพื่อสร้างความ มั่นใจ ให้กับตัวเองมากขึ้น น้องหน่อยจึงค่อยๆพัฒนาตัวเอง แต่ยอมรับนะค่ะว่า ในตอนนั้ย เรื่องการนอนเขียงยัฃไม่เคยแทรกเข้ามาในหัวเลย
ทุกอย่างก็เริ่มจาก ตอนที่น้องมีแฟนคนแรก ตอนนั้นเราไม่มีอะไรดีเลย ซึ่งต่างจ่กแฟนโดยสิ้นเชิง เราจะดูด้อยกว่า และมีข้อเปรียบเทียบตลอด ว่าเราไม่เหมาะสมกับเข
เพื่อนกันยังพูดเลย จนเราเลิกกัน เอาเป็นว่าเค้าก็ทิ้งท้ายคำพูดที่รุนแรงกับเรา จนเรารู้สึโกรธมก แต่มันก็เป็นเรื่องที่ทให้ตัวเรา ต้องพัฒนา!!
เกริ่นซะยาวนาน เข้าเรื่องเลยดีกว่าค่ะ รูปที่เห็นก็เป็นตอน ม.ต้น (มีแฟนแล้ว) 5555
สวยแค่ไหนในรูปก็บอกกันอยู่นะค่ะ 555
ต่อมาพอเริ่มขึ้น ม.ปลาย เราก็ค่อยๆเริ่มจากการลด นน. แต่มันก้อยังได้เท่านั้นอยู่ดี ตอนนั้นคิดว่าตัวเองสวยแล้ว 555 ไม่ค่อยมั่นเลยค่ะ
พอมาถึงช่วงจะจบ ม.6 เราเริ่มจะศึกษาหาข้อมูลเรื่องการทำจมูกก่อน ตอนนั้นยังใสๆ ดูแค่ว่าที่ไหนทำถูกและปลอดภัย ก็ได้เจอรีวิว ของหมอ บุญถิ่น ซึ่งดูแล้วโอเค ปลอดภัยและราคาย่อมเยาว์ ขอเงินก้อนแรก 5000 บาทจากคุณแม่ทันใด และไปตามที่หลายๆคนบอกว่า ถ้าไปถึงเช้าไม่ต้องจองคิว น้องเลยไปตอนเช้า และก็ได้ทำวันนั้นเลยจริงๆ ไปก่อนคลีนิคเปิด และ รอพักนึง ได้คิวที่ 3 ไปกินข้าวและเข้ามาพบคุณหมอ คุณหมอจะให้เราเลือกเยอะไม่ได้ ตะเอามาวัดๆทาบๆและถามว่า อยากได้ส่วนตรงไหนของจมูกโด่งที่สุด ตอนนั้นน้องบอกตรงสัน หมอก็โอเค รอคิวนอนเขียงเลย ถึงเวลาผ่าเราก้อทำความสะอาดจุดต่างๆ ตามปรกติ และไปนอนรอคุณหมอ เหลาซิลิโคน ยอมรับว่าตื่นเต้นมากเพราะมันคือการให้คนมาผ่าหน้าเรา ครั้งแรก พอถึงเวลาฉีดยาชา เท่านั้น น้ำตาไหลเบาๆ เจ็บนิดเดียว หลังจากนั้นก็มาแค่เสียง 20 นาที เราเดินลงมา งงๆ รับยานัดวันตัดไหมแบะกลับบ้าน พอเริ่มยุบก็เป็นมาตามรูป
ต่อมาเราก็เว้นพักใหญ่ๆจนขึ้นมหาลัยปีหนึ่งค่ะ สภาพบวมฉึ่ง นน. ดีด ตามรูป
พอผ่านมาเทอม2 เราลด นน อีกรอบ และเริ่มคิดดูว่า จะทำอะไรต่อดีกับหนังหน้า แต่ระยะเวลาที่ผ่านๆมานั้นทึกคนก็จะบอกแต่ว่า จมูกเราทำมาแล้วหรอ ? ทำมาทำไมได้แค่นี้ ดูธรรมชาติ เกิ๊นอีกด้วยความอยากสวยเราเลยเริ่มเข้าไปดูว่า เอ๊ะ เราทำไรดีน้า ? ก็ได้ไปเจอการตัดปีกจมูก ว่า ถ้าเราทำ จมูกเราก็จะเล็กลง โด่งขึ้นอีกนึงนึงด้วย น้องก็เลยไม่รอช้า ดูจากคนที่ทำๆกันมา บวกกับราคา แล้ว น้องเลยตัดสินใจทำกับ " หมอนกสมชายคลีนิค สาขาห้วยขวาง " เป็นการตัดสินใจที่รวดเร็วอีกครั้งเพราะ คิดว่ามีเงินทำวันนั้น โทรหาคลีนิคทันที ทางคลีนิคบอกเข้านางคืนนี้ได้เลย คุณมอจะเข้ามาตอนประมาณตี 3 เราก็โอเคค่ะ วันนั้นไม่หลับไม่นอนค่ะ อยากสวย ก่อน พอไปถึงคลีนิค อุ๊ย คลีนิค ส๊วยยยสวยย เหมือนโรงแรม 555 เข้าไปติดต่อพนักงานที่เคาน์เตอร์ "คุณพี่น้องมาตัดปีกจมูกค่ะ" แล้วก็รับบัตรเจาะเลือด รอคุณหมอมาเพื่อปรึกษาและนอนเขียง
เป็นการรอคอยที่ ง่วงมากกกก เพราะคุณหมอกว่าจะเข้า 555 พอคุณหมอมาเราก็เข้าไปปรึกษา "คุณหมอค่ะหนูตัดปีกจมูกได้ไหมค่ะ " หมอนกยิ้มปนหัวเราะเบาๆ "ได้ค่ะ ตัดได้เยอะด้วย" เราก้อโอเครอทำเลยค่ะ !! หมอนกมีเคสผ่าตัดก่อนเรา พยาบาลเรียกเราเข้าไปนอนรอในห้องผ่าตัดก่อน แอร์เย็นมาก เปิดทีวีให้เราฟังเพลง แล้วคุณพี่พยาบาลก็มาจัดยาชา ให้เราก่อน 4 เข็ม เข้าทางเหงือก 2 เข็ม ปักจมูกอีก 2 เข็ม ทางเหงือกไม่เท่าไรค่ะ เจ็บเบาๆแต่พอมาตรงปีกจมูกเนี่ยแหละค่ะ เจ็บมากกก น้ำตาเล็ดแบบพักแปป !! 555 หลังจากนั้นเข้าก็ให้เรานอนรอคุณหมอมา เรานอนหลับรอแล้วรออีกด้วยความตื่นเต้นด้วย ผ่านไปนานพอสมควรเลย นอนรอเป็นชั่วโมงได้ พอคุณหมอมา คุณหมอจักยาชาอัดเพิ่มที่ปีกจมุกอีก 2 น้ำตาเราก็เล็ดอีก ขนาดยาชาเก่ายังชาอยู่ซ้ำยังไหลเลย แปปนึง หมอนกก็เริ่มผ่าเลย ไม่รอช้ากรีดๆ เย็บๆ เสร็จ !! ตื่นมาอึนๆ เวลาประมาณ ตี5 วันแรกกเจ็บมาก พูดยังกระเทือนแผล กินยาทายาที่แผลไปเรื่อยๆ แปปเดียวไม่เจ็บแล้ว ลืมบอกราคา 5000 บาทค่ะ ลืมค่าเจาะเลือดอีกเท่าไรไม่แน่ใจแต่ไม่กี่ร้อยค่ะ
หลังจากนั้นเวลาผ่านมาอีก ประมาณ เดือนครึ่ง เริ่มรู้สุกคันบอกไม่ถูกอีกแล้วเรา น้องเป็นคนตาตี่มาก เล็กมาก ตี๋มาก เราเลยเกิดความคิดว่า เอ๊ะ ถ้าเราทำตาเราจะ แบ๊ว แบบสาวเกาหลีป่าว ? เพราะก่อนหน้านี้เราคิดตลดว่า นางเอกเกาหลี เค้าก็ตาเล็กดีนี่นา เลยไม่คิดทำ เรายังชอบผู้ชายตาเล็กๆตี๋ ตาชั้นเดียวเลย น่ารักจะตาย 555 แต่ว่าทุกอย่างในความคิดเราถ้าเรารู้สึกอยากทำแล้วต่อให้รั้ง เราก็จะทำ เราเลยไม่รอช้าอีก รีบหารีวิวดูทั้งวันทั้งคืน ทำตากับคุณหมอไหน สวยและไม่แพงมาก จนมาเจอคุณหมอจำนงค์ ที่ฮอตพอสมคสวรในช่วงนั้นเราเลย จองคิวกับพี่อ้อ จะเข้าไปทำตา รอบแรกเข้าไปประมาณเที่ยงๆ คิวที่สามได้ คุณหมอมาคุณหมอก็ ทำเคสที่มาก่อนเรา ยอมรับว่ารอบนี้ก็นานมาก เพราะคุณหมอทำละเอียดและให้คำปรึกษา ละเอียดค่ะ รอบนี้เราได้แค่ปรึกษาเพราะหมอบอกว่า คนปกติราคาอยู่ที่ 8000 บาท แต่เคสเรายากเพราะตาเหมือนคนแก่อายุ 40 ตาตกมาก ต้องคิด 10000 นึงเราเลยแบบ หมอค่ะ ขอน้องตัดสินใจก่อนนะค่ะ เรียกว่าดูราคาแล้วมีเงินพอดีตัว จ่างเงินทีกินแต่มาม่าเลยเรา รวมกลับ ชีวิตนี้เคยคิดว่าตาชั้นเดียวน่ารัก เลยลำบากใจ!! เลยกลับบ้านก่อนละกัน ผ่านมาได้ประมานสองอาทิตย์ รู้สึก ไม่ไหวและ... อยากสวย ตาโต แบ๊วๆชิคๆ บ้างเลยนัดคิวกับพี่อ้ออีกรอบนึง ทำชัวร์ เลยได้ไปทำตากับ "คุณหมอจำนงค์ รังสิตคลอง2" ไปรอตั้งแต่เที่ยงเป็นคิวแรก แต่วันนั้นพอดีมีเคสแก้พอดี เลยต้องเป็นคิวที่สอง รอแล้วรออีก ได้ขึ้นเขียงประมาณ 6 โมงเย็น เราก็ปีนขึ้นเตียงนอนคุณหมอก็ฉีดยา ที่ตาเรา รอบนี้ไม่เจ็บค่ะ เพราะฉีดที่ละนิดๆ แตรอบๆเปลือกจาแล้วคุณหมอก็เริ่มใช้เลเซอร์กรีดยาวด้วย เราก็ได้กลิ่น หมูกระทะ ไปในตัว 555 เป็นงานนาน งานละเอียดมากค่ะ เพื่อความสวย ยอมรับว่าทำตา เป็นอะไรที่นานและทรมานมาก เพราะ ไม่สบายเหมือนทำจมูก คุณหมอทำไปด้วยและขะให้เรา หลับตาลืมตาไปด้วย ตลอดเวลาในการทำนานเท่าไรไม่รู้ ก็สำเร็จ ลุกมาส่องกระจก อุ๊ยยย ตาเราโตจัง แต่ตึงๆมากตอนนั้นก็เดินลงมาคุยกับคุณหมอ รับยา จ่ายเงิน และเรียกแทคซี่กลับหอ กินข้าวพักผ่อนนอนพัก แต่การทำตาไม่เจ็บเลยนะค่ะ วันที่สองแค่มีการยวมเขียวไปถึงม่วงเฉยๆ ไม่เจ็บเลย สวยไม่สวยยังไงก็ต้องขึ้นอยู่กับทุกคนที่ชมด้วยนะค่ะ (มีต่อค่ะ)
ตาก่อนทำ ค่ะ
ก่อนและหลังทำตา คร้าาาา
รีวิวยังไม่จบยังมีต่อนะค้าา ^^ 555
[CR][SR] รีวิวการ "โมดิฟายหน้า" พัฒนาตัวเองให้ดูดีขึ้น by น้องหน่อย
ขื่อ"น้องหน่อยค่ะ" ขอเรียกแทนตัวเองว่าน้องนะค่ะ 555 วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์และวิวัฒนาการขิง ตัว น้องหน่อย เองนะค่ะ !!
เป็นตุ๊ด คนนึงนะต่ะที่อยากสวยในชาตินี้ ทุกคนมีต้นทุนมาไม่เท่ากัน ซึ่งเราเองก็เป็นคนนึงที่รู้สึกว่า สิ่งที่เราได้รับมานั้น มันไม่สวย
เพื่อสร้างความ มั่นใจ ให้กับตัวเองมากขึ้น น้องหน่อยจึงค่อยๆพัฒนาตัวเอง แต่ยอมรับนะค่ะว่า ในตอนนั้ย เรื่องการนอนเขียงยัฃไม่เคยแทรกเข้ามาในหัวเลย
ทุกอย่างก็เริ่มจาก ตอนที่น้องมีแฟนคนแรก ตอนนั้นเราไม่มีอะไรดีเลย ซึ่งต่างจ่กแฟนโดยสิ้นเชิง เราจะดูด้อยกว่า และมีข้อเปรียบเทียบตลอด ว่าเราไม่เหมาะสมกับเข
เพื่อนกันยังพูดเลย จนเราเลิกกัน เอาเป็นว่าเค้าก็ทิ้งท้ายคำพูดที่รุนแรงกับเรา จนเรารู้สึโกรธมก แต่มันก็เป็นเรื่องที่ทให้ตัวเรา ต้องพัฒนา!!
เกริ่นซะยาวนาน เข้าเรื่องเลยดีกว่าค่ะ รูปที่เห็นก็เป็นตอน ม.ต้น (มีแฟนแล้ว) 5555
สวยแค่ไหนในรูปก็บอกกันอยู่นะค่ะ 555
ต่อมาพอเริ่มขึ้น ม.ปลาย เราก็ค่อยๆเริ่มจากการลด นน. แต่มันก้อยังได้เท่านั้นอยู่ดี ตอนนั้นคิดว่าตัวเองสวยแล้ว 555 ไม่ค่อยมั่นเลยค่ะ
พอมาถึงช่วงจะจบ ม.6 เราเริ่มจะศึกษาหาข้อมูลเรื่องการทำจมูกก่อน ตอนนั้นยังใสๆ ดูแค่ว่าที่ไหนทำถูกและปลอดภัย ก็ได้เจอรีวิว ของหมอ บุญถิ่น ซึ่งดูแล้วโอเค ปลอดภัยและราคาย่อมเยาว์ ขอเงินก้อนแรก 5000 บาทจากคุณแม่ทันใด และไปตามที่หลายๆคนบอกว่า ถ้าไปถึงเช้าไม่ต้องจองคิว น้องเลยไปตอนเช้า และก็ได้ทำวันนั้นเลยจริงๆ ไปก่อนคลีนิคเปิด และ รอพักนึง ได้คิวที่ 3 ไปกินข้าวและเข้ามาพบคุณหมอ คุณหมอจะให้เราเลือกเยอะไม่ได้ ตะเอามาวัดๆทาบๆและถามว่า อยากได้ส่วนตรงไหนของจมูกโด่งที่สุด ตอนนั้นน้องบอกตรงสัน หมอก็โอเค รอคิวนอนเขียงเลย ถึงเวลาผ่าเราก้อทำความสะอาดจุดต่างๆ ตามปรกติ และไปนอนรอคุณหมอ เหลาซิลิโคน ยอมรับว่าตื่นเต้นมากเพราะมันคือการให้คนมาผ่าหน้าเรา ครั้งแรก พอถึงเวลาฉีดยาชา เท่านั้น น้ำตาไหลเบาๆ เจ็บนิดเดียว หลังจากนั้นก็มาแค่เสียง 20 นาที เราเดินลงมา งงๆ รับยานัดวันตัดไหมแบะกลับบ้าน พอเริ่มยุบก็เป็นมาตามรูป
ต่อมาเราก็เว้นพักใหญ่ๆจนขึ้นมหาลัยปีหนึ่งค่ะ สภาพบวมฉึ่ง นน. ดีด ตามรูป
พอผ่านมาเทอม2 เราลด นน อีกรอบ และเริ่มคิดดูว่า จะทำอะไรต่อดีกับหนังหน้า แต่ระยะเวลาที่ผ่านๆมานั้นทึกคนก็จะบอกแต่ว่า จมูกเราทำมาแล้วหรอ ? ทำมาทำไมได้แค่นี้ ดูธรรมชาติ เกิ๊นอีกด้วยความอยากสวยเราเลยเริ่มเข้าไปดูว่า เอ๊ะ เราทำไรดีน้า ? ก็ได้ไปเจอการตัดปีกจมูก ว่า ถ้าเราทำ จมูกเราก็จะเล็กลง โด่งขึ้นอีกนึงนึงด้วย น้องก็เลยไม่รอช้า ดูจากคนที่ทำๆกันมา บวกกับราคา แล้ว น้องเลยตัดสินใจทำกับ " หมอนกสมชายคลีนิค สาขาห้วยขวาง " เป็นการตัดสินใจที่รวดเร็วอีกครั้งเพราะ คิดว่ามีเงินทำวันนั้น โทรหาคลีนิคทันที ทางคลีนิคบอกเข้านางคืนนี้ได้เลย คุณมอจะเข้ามาตอนประมาณตี 3 เราก็โอเคค่ะ วันนั้นไม่หลับไม่นอนค่ะ อยากสวย ก่อน พอไปถึงคลีนิค อุ๊ย คลีนิค ส๊วยยยสวยย เหมือนโรงแรม 555 เข้าไปติดต่อพนักงานที่เคาน์เตอร์ "คุณพี่น้องมาตัดปีกจมูกค่ะ" แล้วก็รับบัตรเจาะเลือด รอคุณหมอมาเพื่อปรึกษาและนอนเขียง
เป็นการรอคอยที่ ง่วงมากกกก เพราะคุณหมอกว่าจะเข้า 555 พอคุณหมอมาเราก็เข้าไปปรึกษา "คุณหมอค่ะหนูตัดปีกจมูกได้ไหมค่ะ " หมอนกยิ้มปนหัวเราะเบาๆ "ได้ค่ะ ตัดได้เยอะด้วย" เราก้อโอเครอทำเลยค่ะ !! หมอนกมีเคสผ่าตัดก่อนเรา พยาบาลเรียกเราเข้าไปนอนรอในห้องผ่าตัดก่อน แอร์เย็นมาก เปิดทีวีให้เราฟังเพลง แล้วคุณพี่พยาบาลก็มาจัดยาชา ให้เราก่อน 4 เข็ม เข้าทางเหงือก 2 เข็ม ปักจมูกอีก 2 เข็ม ทางเหงือกไม่เท่าไรค่ะ เจ็บเบาๆแต่พอมาตรงปีกจมูกเนี่ยแหละค่ะ เจ็บมากกก น้ำตาเล็ดแบบพักแปป !! 555 หลังจากนั้นเข้าก็ให้เรานอนรอคุณหมอมา เรานอนหลับรอแล้วรออีกด้วยความตื่นเต้นด้วย ผ่านไปนานพอสมควรเลย นอนรอเป็นชั่วโมงได้ พอคุณหมอมา คุณหมอจักยาชาอัดเพิ่มที่ปีกจมุกอีก 2 น้ำตาเราก็เล็ดอีก ขนาดยาชาเก่ายังชาอยู่ซ้ำยังไหลเลย แปปนึง หมอนกก็เริ่มผ่าเลย ไม่รอช้ากรีดๆ เย็บๆ เสร็จ !! ตื่นมาอึนๆ เวลาประมาณ ตี5 วันแรกกเจ็บมาก พูดยังกระเทือนแผล กินยาทายาที่แผลไปเรื่อยๆ แปปเดียวไม่เจ็บแล้ว ลืมบอกราคา 5000 บาทค่ะ ลืมค่าเจาะเลือดอีกเท่าไรไม่แน่ใจแต่ไม่กี่ร้อยค่ะ
หลังจากนั้นเวลาผ่านมาอีก ประมาณ เดือนครึ่ง เริ่มรู้สุกคันบอกไม่ถูกอีกแล้วเรา น้องเป็นคนตาตี่มาก เล็กมาก ตี๋มาก เราเลยเกิดความคิดว่า เอ๊ะ ถ้าเราทำตาเราจะ แบ๊ว แบบสาวเกาหลีป่าว ? เพราะก่อนหน้านี้เราคิดตลดว่า นางเอกเกาหลี เค้าก็ตาเล็กดีนี่นา เลยไม่คิดทำ เรายังชอบผู้ชายตาเล็กๆตี๋ ตาชั้นเดียวเลย น่ารักจะตาย 555 แต่ว่าทุกอย่างในความคิดเราถ้าเรารู้สึกอยากทำแล้วต่อให้รั้ง เราก็จะทำ เราเลยไม่รอช้าอีก รีบหารีวิวดูทั้งวันทั้งคืน ทำตากับคุณหมอไหน สวยและไม่แพงมาก จนมาเจอคุณหมอจำนงค์ ที่ฮอตพอสมคสวรในช่วงนั้นเราเลย จองคิวกับพี่อ้อ จะเข้าไปทำตา รอบแรกเข้าไปประมาณเที่ยงๆ คิวที่สามได้ คุณหมอมาคุณหมอก็ ทำเคสที่มาก่อนเรา ยอมรับว่ารอบนี้ก็นานมาก เพราะคุณหมอทำละเอียดและให้คำปรึกษา ละเอียดค่ะ รอบนี้เราได้แค่ปรึกษาเพราะหมอบอกว่า คนปกติราคาอยู่ที่ 8000 บาท แต่เคสเรายากเพราะตาเหมือนคนแก่อายุ 40 ตาตกมาก ต้องคิด 10000 นึงเราเลยแบบ หมอค่ะ ขอน้องตัดสินใจก่อนนะค่ะ เรียกว่าดูราคาแล้วมีเงินพอดีตัว จ่างเงินทีกินแต่มาม่าเลยเรา รวมกลับ ชีวิตนี้เคยคิดว่าตาชั้นเดียวน่ารัก เลยลำบากใจ!! เลยกลับบ้านก่อนละกัน ผ่านมาได้ประมานสองอาทิตย์ รู้สึก ไม่ไหวและ... อยากสวย ตาโต แบ๊วๆชิคๆ บ้างเลยนัดคิวกับพี่อ้ออีกรอบนึง ทำชัวร์ เลยได้ไปทำตากับ "คุณหมอจำนงค์ รังสิตคลอง2" ไปรอตั้งแต่เที่ยงเป็นคิวแรก แต่วันนั้นพอดีมีเคสแก้พอดี เลยต้องเป็นคิวที่สอง รอแล้วรออีก ได้ขึ้นเขียงประมาณ 6 โมงเย็น เราก็ปีนขึ้นเตียงนอนคุณหมอก็ฉีดยา ที่ตาเรา รอบนี้ไม่เจ็บค่ะ เพราะฉีดที่ละนิดๆ แตรอบๆเปลือกจาแล้วคุณหมอก็เริ่มใช้เลเซอร์กรีดยาวด้วย เราก็ได้กลิ่น หมูกระทะ ไปในตัว 555 เป็นงานนาน งานละเอียดมากค่ะ เพื่อความสวย ยอมรับว่าทำตา เป็นอะไรที่นานและทรมานมาก เพราะ ไม่สบายเหมือนทำจมูก คุณหมอทำไปด้วยและขะให้เรา หลับตาลืมตาไปด้วย ตลอดเวลาในการทำนานเท่าไรไม่รู้ ก็สำเร็จ ลุกมาส่องกระจก อุ๊ยยย ตาเราโตจัง แต่ตึงๆมากตอนนั้นก็เดินลงมาคุยกับคุณหมอ รับยา จ่ายเงิน และเรียกแทคซี่กลับหอ กินข้าวพักผ่อนนอนพัก แต่การทำตาไม่เจ็บเลยนะค่ะ วันที่สองแค่มีการยวมเขียวไปถึงม่วงเฉยๆ ไม่เจ็บเลย สวยไม่สวยยังไงก็ต้องขึ้นอยู่กับทุกคนที่ชมด้วยนะค่ะ (มีต่อค่ะ)
ตาก่อนทำ ค่ะ
ก่อนและหลังทำตา คร้าาาา
รีวิวยังไม่จบยังมีต่อนะค้าา ^^ 555
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น