แชร์ประสบการณ์ จี้โพรงจมูกด้วยคลื่นวิทยุ ขณะตั้งครรภ์ (Ep1)

เราเคยผ่าตัดผนังกั้นจมูกคดมาแล้วประมาณ 4-5 ปี เพราะเราเป็นผนังกั้นจมูกคดร่วมกับโพรงจมูกอักเสบด้วยก่อนตั้งครรภ์ หลังจากนั้นก็ไม่เคยทรมานอีกเลย นอนหลับสบาย มีจามบ้างเวลาฝุ่นและอากาศเปลี่ยน อาจจะมีโพรงจมูกบวมบ้างแต่ไม่กระทบกับการหายใจและการนอนหลับ สุขภาพดีมาตลอดหลังจากผ่า ปล่อยปละละเลยการออกกำลังกายและกาดูแลตัวเองจนนน.ขึ้นมาถึง 80+ กิโล

       จนตอนนี้เราตั้งครรภ์ได้ประมาณ 11 สัปดาห์ อาการเหล่านั้นกลับมาอีกครั้ง เราหายใจไม่สะดวกเลยทั้งสองข้าง ข้างที่หนักสุดคือข้างขวา หายใจไม่ได้เลย เราตัดสินใจไปหาหมอที่รพ.แห่งหนึ่ง เรากินยาแก้แพ้ที่เคยกิน Loratadine แต่ปรึกษาหมอแล้ว หมอแจ้งว่าทานได้ และได้ยาพ่นจมูก Rhinocort ตัวยา Budesonide มา หมอให้พ่นเช้าและเย็นหลังล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ และหมอแนะนำให้เราอยู่ในที่ๆสะอาดและความชื้นเหมาะสม ซึ่งเรามีเครื่องกรองอากาศในห้องแล้ว ขาดเครื่องพ่นความชื้นในอากาศ แล้ววันนั้นตอนเย็นก็ได้ไปซื้อเครื่องพ่นความชื้นมาเพิ่มเพื่อทำความชื้นในห้องนอนให้เหมาะสม รวมถึงทำความสะอาดห้องนอนและบ้านให้สะอาด แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น ยังมีอาการนอนไม่ได้หายใจไม่สะดวกเลย จนอ่อนเพลีย จึงตัดสินใจไปหาหมอที่เราเคยผ่าตัดผนังกั้นจมูกคด แต่ครั้งนี้เราทนรอหมอออกตรวจที่รพ.ตาหูคอจมูกไม่ไหว จึงตามไปหาหมอที่รพ.จุฬา หมอที่เราตรวจเป็นหมอที่ออกตรวจเฉพาะคลินิคพิเศษเพราะหมอได้เกษียณแล้วนะจ้ะ

       รพ.จุฬาก็นัดให้เราไปพบหมอ และหมอแจ้งว่าโพรงจมูกเราบวมมาก เราแจ้งอาการหมอไปว่าเรากินยาแก้แพ้นะ ล้างน้ำเกลือแล้ว พ่นยาแล้วแต่ไม่หาย นอนไม่ได้เลย หมอจึงแจ้งเรากลับมาว่าให้เราทำการจี้โพรงจมูกด้วยคลื่นวิทยุ คำถามแรกที่เราถามหมอคือ เจ็บไหม หมอบอกไม่เจ็บ เราก็ด้วยความทนไม่ไหวไม่ได้เสิชหาข้อมูลใดๆ ก็ตัดสินใจแจ้งหมอเลยว่าสะดวกวันรุ่งขึ้นเลย เนื่องจากไม่ได้นอนมาหลายวัน ค่อนข้างทรมาน พอออกมาก็สอบถามค่ารักษาพยาบาลและได้รับโบว์ชัวมาว่ามันคือการผ่าตัดเล็ก จี้โพรงจมูกบวมด้วยคลื่นวิทยุ (เอาอีกละ วินาทีนั้น จิตใจคือแบบอะไรเนี่ยะ ผ่าตัดเล็กเลยเหรอ เจ็บแน่นอน หมอหลอกเราแน่ๆ) ก็นัดไปแล้ว อยากหายด้วย เลยข่มใจตัวเองไว้ว่า พรุ่งนี้เลยสินะ สู้จ้า วันรุ่งขึ้นเราก็มาตามที่หมอนัด รอคิวที่ทางห้องผ่าตัดจะเรียกเข้าไปเตรียมตัว พี่พยาบาลก็เรียกชื่อ เราก็เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ล้างหน้าให้เรียบร้อย ใส่หมวกคลุม หลังจากนั้นนั่งรอสักพัก พี่พยาบาลก็พาไปขึ้นเตียงและเข็นไปที่ห้องผ่าตัดตามคิวและรอบของการจองห้องผ่าตัด สุดท้ายเราก็อยู่บนเตียง แต่จากการที่เรากลับบ้านไปวันนึงไปเสิชในเน็ตก็ดูจะไม่เจ็บอะไรนะ แต่แต่ละรพ.ไม่เหมือนกัน สิ่งแรกที่เห็นคือเหมือนเดจาวู เพราะเราเคยเข้าห้องผ่าตัดผนังกั้นจมูกคดมันกลับมาแล้วจ้า พยาบาลสองคนวุ่นๆ ห้องแอร์เย็นฉ่ำ เราอยู่บนเตียงเป็นที่เรียบร้อย

สักพักหมอก็เข้ามา…
เรา: สวัสดีค่ะหมอและแจ้งหมอว่า หนูชอบไอ คอไม่ดีตั้งแต่เด็กนะคะ และกลัวมากค่ะตอนนี้
หมอ: ไม่ต้องกลัวไม่เจ็บ เด๋วหายละน้า จะได้หายใจโล่งสบายเลย ไม่ทรมานนะ
เรา: ค่ะ หมอช่วยด้วยนะคะ กลัวมากค่ะ ใจตอนนี้จะหลุดแล้ว
หมอ: หายใจลึกๆน้า ห้ามขยับเด็ดขาด ห้ามไอน้าเพราะปักเข็มน้า จะไอไม่ไหวบอกน้า
เรา: ค่ะ ยกมือบอกได้ไหมค่ะ
หมอ: ไม่ได้ๆ ต้องเก็บมือไว้ข้างๆน้า

แล้วพยาบาลก็เอาผ้ามาคลุมตัวเรา เป่าลมร้อนที่เท้าเพราะหนาวมาก และเอาผ้ามาปิดตาเราเหลือช่องจมูกไว้ และหมอก็เริ่มพ่นยาชาเข้าจมูกเรา…
หมอ: พ่นยาชาเข้าจมูกน้า มันจะลิ้นแข็งๆ กลืนน้ำลายน้า อย่าเกร็ง
เรา: ค่ะ (เกร็งมาก นิ่งไว้ๆ ตามหมอสั่ง)
ยาลงคอเราก็กลืน จำได้ดีว่าลิ้นแข็งมาก และเราคือระคายเคืองคอง่ายมาก มันแย่มากอากาคือมันจะไอตลอดเวลา
เรา: ไอๆๆๆ ไอๆๆๆ
หมอ: อย่าไอๆ อย่าเกร็งๆ ท่องไว้กลืนน้ำลายๆ จะไอกลืนน้ำลายน้า
เราพยายามทำตามหมอสั่ง แต่คือในใจคือแผ่เมตตาแล้วนะ มันทรมานมากคือเพราะเราระคายเคืองคอมากอ่ะ เกร็งมากด้วย เราทรมานจนลืมไปว่าหมอทำไรต่อ จำไม่ได้ว่าหมอฉีดยาชาต่อไหม ลืมไปหมด เพราะมัวแต่โฟกัสกับการกลืนน้ำลาย ไม่งั้นมันจะไอมาก
หมอ: จะจี้ละน้า อยู่นิ่งๆนะ มันเป็นเข็มนะ
เรา: ไอๆๆๆ
หมอ: อย่าไอ กลืนน้ำลายสิ เข็มมันเคลื่อนละนะ (หมอดุ)
เรา: ค่ะ (ไม่โกรธที่หมอดุนะ แต่มันรู้สึกมีอะไรหนักๆจิ้มๆที่จมูก ไม่เจ็บขนาดนั้นนะ แทบไม่รู้สึกแต่รู้สึกว่ามีใครทำไรอ่ะ แต่ทรมานกับลิ้นแข็งและระคายคอมากกว่ามาก และยังคงท่องสัพเพ สัตตา แต่ท่องได้แค่นี้นะ ท่องเพื่อข่มใจตัวเองเท่านั้น)
หมอ: ข้างนี้เสร็จละ อีกข้างนะ ทนไว้ๆ
เรา: (ยังคงทรมานและท่องต่อไปในใจ)
หมอ: เสร็จละๆ
เรา: ขอบคุณค่ะ (อาการคือโล่งใจ แต่จมูกคือตึงมาก หนักมาก มันปวดๆแปลกๆ แบบไม่ปกติอ่ะ บอกไม่ถูก)
หมอ: เด๋วไปพักดูอาการแล้วก็เอาผ้าก๊อตใส่ไว้ห้ามเลือดน้า ไปประคบเย็นห้องนู้นนะ
เรา: ค่ะ ขอบคุณค่ะ
พยาบาลก็มาขยับตัวเราขึ้นอีกเตียงเข็นไปห้องดูอาการ 30-40 นาทีได้ ระหว่างนั้นก็หายใจทางปากไปก่อน และก็มีเลือดลงคอบ้าง เพราะมีกลิ่นคาวอ่ะ แล้วโปะเจลเย็นที่จมูกไว้ห้ามเลือด พอครบเวลาพยาบาลก็จะมาเอาผ้าก๊อตออกให้และตรวจดูว่ามีเลือดไหลอยู่ไหม แล้วก็สอบถามเรื่องยาที่เรามีอยู่ว่ามีน้ำเกลือไหม ยาพ่นไหม และแจ้งวิธีการล้างน้ำเกลือ เช้ากลางวันเย็นก่อนนอน พ่นจมูกเช้าเย็น หลังจากนั้นก็ไปจ่ายเงิน รับยาและกลับบ้าน หมอนัดดูอาการอีก 1 อาทิตย์ ได้เวลากลับบ้าน เนื่องจากบ้านเราอยู่ค่อนข้างไกล เหมือนยาชาจะหมดฤทธิ์ละ นั่งรถคือกระแทกนิดคือเจ็บจมูกเลยอ่ะ ต้องเบาๆขับเบาๆ มันสะเทือนจมูก ช่วงนี้กินของเย็นไว้ก่อน ห้ามกินของร้อนเลือดจะได้หยุดไหลไวๆ ตอนนี้ถึงบ้าน ลิ้นยังแข็งอยู่นะ ก็กินน้ำเยอะๆ อาการทรมานจากความเจ็บน้อยลงแต่ยังคงมีอยู่ เราใช้ขวดใส่น้ำเกลือล้างจมูก พ่นยาเช้าเย็น คืนนั้นก็เปิดทั้งเครื่องกรองอากาศ เครื่องพ่นความชื้นในอากาศร่วมด้วย และแล้วเราก็หลับได้ถึงเช้า จมูกเริ่มหายใจได้โล่งขึ้นกว่าเดิมมาก ช่วงนี้ล้างน้ำเกลือบางวัน ยังมีเลือดไหลอยู่ตลอด

       1 อาทิตย์ก็มาพบหมอตามนัด แผลไม่ติดเชื้อ ยังหายไม่สนิท ยังต้องกินยาฆ่าเชื้ออยู่ต่อ ต้องล้างจมูกเหมือนเดิม และพ่นเหมือนเดิม แล้วหมอนัดอีก 2 อาทิตย์ข้างหน้า ในช่วง 2 อาทิตย์ เวลาล้างจมุกกจะมีก้อนขี้มูกใหญ่ๆเหมือนมีเลือดปนมาเป็นก้อนแข็งๆหลุดออกมาตลอดทั้งสองข้างนะคะ และพอ 2 อาทิตย์ผ่านมา มาพบหมออีกรอบ หมอได้เอาขี้มูกออกให้ ก้อนใหญ่นะและยาวประมาณข้อนิ้วก้อย 1 ข้อ จำนวน 2 ก้อนออกจากจมูกขวาเรา หลังจากนั้นยิ่งหายใจโล่งมากขึ้นเลย หมอถามว่าล้างจมูกบ่อยไหม บางทีเราก็ไม่ได้ล้างติดงาน หมอบอกล้างด้วยนะ รอบนี้เรามีคำถาม เราถามหมอว่าเราทำไมมาเป็นอีก จากการสรุปของหมอคือเกิดจากการแพ้ เลยทำให้โพรงจมูกกลับมาบวมอีกครั้ง แต่สำหรับเราที่เราอ่านและคิดคือเรามีนน.ตัวเยอะมาก ที่เคยถามหมอก่อนหน้าตอนผ่าคือพอนน.ตัวเยอะเนื้อในโพรงจมูกก็เยอะขึ้นด้วย จริงๆมันเยอะทั้งตัวอะเนอะคนนน.มากๆเนื้อก็เยอะไปทุกส่วน และอาการแพ้ฝุ่นและอากาศ ร่วมกับเราไปหาหมอจมูกรพ.หนึ่งก่อนหน้าหมอแจ้งว่า คนท้องเส้นเลือดจะขยายตัวด้วยซึ่งเส้นเลือดในโพรงจมูกก็ขยายตัวทำให้เกิดอาการโพรงจมูกบวมได้ด้วย ทั้งหมดหลายๆสิ่งประกอบกันเลยทำให้เรากลับมาเป็นแบบนี้อีกครั้ง แต่คุณหมอคงกลัวเราจิตตกเลยบอกเราว่าอย่าคิดมากทั้งหมดเกิดจากอาการแพ้ ซึ่งก็น่าจะมีผลเยอะสุดจริงๆ เราถามหมออีกว่าเราจะต้องล้างจมูกและพ่นยาแบบนี้ไปตลอดชีวิตเหรอ หมอบอกว่าแล้วแต่อาการเด๋วมาดูกันต่อนะว่าจะต้องปฏิบัติอย่างไร ซึ่งตอนนี้ให้ล้างจมูกไปก่อนล้างเวลาสะดวกได้เลย และพ่นจมูกเช้าเย็นแบบเดิม และหมอนัดอีกที 3 เดือนข้างหน้า…

       มาต่อที่สรุปรายการการจี้โพรงจมูกครั้งนี้ ราคาประมาณ 13,000 บาท ค่าไปพบหมอรายครั้งตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงตอนนี้ประมาณ 4,000 บาท ของเราเป็นคลินิคพิเศษนะคะ ถ้าเป็นในเวลาทำการที่สอบถามมาจะถูกกว่าประมาณ 5,000-6,000 บาทค่ะ ยังไงต้องสอบถามรคค่ารักษาอีกทีนึงนะคะ แต่ดีที่ของเราเบิกประกันสุขภาพได้ทั้งหมดค่ะ เราเคยสอบถามหมอและพยาบาลว่าจะต้องมาจี้อีกไหม ซึ่งมันขึ้นอยู่ที่อาการและการดูและตัวเองของเราเองนะ หมอยังย้ำกับเราว่าหลังคลอดต้องออกกำลังกาย ลดนน. และดูแลตัวเอง ทำความสะอาดบ้านให้ปลอดจากสิ่งที่เราแพ้ด้วย ซึ่งเราเคยตรวจตอนเด็กรู้แค่ว่าแพ้ฝุ่นกับอากาศเท่านั้น ไม่รู้ตอนนี้อาจจะแพ้เยอะขึ้นรึเปล่าอาจจะต้องปรึกษาหมอว่าต้องทำการตรวจว่าแพ้อะไรเพิ่มขึ้นไหม เราจะได้หลีกเลี่ยงสิ่งที่เราแพ้ได้ด้วยค่ะ

ปล. อีก 3 เดือนข้างหน้าจะเป็นยังไงและอาการจะเป็นยังไงต่อไปไว้เราจะมาอัพเดทให้อ่านกันอีกทีนะคะ


แชร์ประสบการณ์ การรักษาและอาการผนังกั้นจมูกคดร่วมกับโพรงจมูกบวม (Ep1) (ก่อนผ่าตัดผนังกั้นจมูกคด)
https://pantip.com/topic/43816697?sc=KPfBfGX

แชร์ประสบการณ์ ผ่าตัดผนังกั้นจมูกคดมา 4 ปีกว่า (Ep2)
https://pantip.com/topic/43822406?sc=PTGZRDQ

แชร์ประสบการณ์ ท้องผูกหนักมาก ขณะตั้งครรภ์
https://pantip.com/topic/43827824?sc=ihcL7lf
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่