ที่พวกคุณต่อต้านรัฐบาลนี้แล้วทำไมถึงต้องรับประโยชน์จากนโยบายของรัฐบาลนี้ด้วย ผมว่าหากคุณอยากประท้วงหรือต่อต้านแบบอารยะทำไมไม่ร่วมกันลงชื่อพร้อมแจ้งความจำนงคืนสิทธิประโยชน์ที่คุณเคยได้รับจากรัฐบาลนี้ทุกอย่างเพื่อให้ทรัพย์และสิทธิประโยชน์ต่างๆตกเป็นของแผ่นดินไปครับ คิดง่ายๆหากคุณคิดว่าผู้ร่วมชุมนุมทั้งหมด 1 ล้านคน ผมว่าเป็นเงินหลายพันล้านอยู่นะ ไหนๆก็คิดว่าจะช่วยชาติกันอยู่แล้ว ลองมาดูกันนะครับว่าคุณได้ประโยชน์ข้อไหนจากรัฐบาลไปบ้าง
1. พักหนี้ครัวเรือนของเกษตรกรรายย่อยและ ผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้ต่ำกว่า ๕๐๐,๐๐๐ บาท อย่างน้อย ๓ ปี และปรับโครงสร้างหนี้สำหรับผู้ที่มีหนี้เกิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท
2. แรงงานมีรายได้เป็นวันละไม่น้อยกว่า๓๐๐ บาท และผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีมีรายได้เดือนละไม่น้อยกว่า ๑๕,๐๐๐ บาท
3. เบี้ยยังชีพรายเดือนแบบขั้นบันไดสำหรับ ผู้สูงอายุ โดยผู้ที่มีอายุ ๖๐-๖๙ ปี จะได้รับ ๖๐๐ บาท อายุ ๗๐-๗๙ ปี จะได้รับ ๗๐๐ บาทอายุ ๘๐-๘๙ ปี จะได้รับ ๘๐๐ บาท และอายุ ๙๐ ปีขึ้นไป จะได้รับ ๑,๐๐๐ บาท
4. มาตรการภาษีเพื่อลดภาระการลงทุนสำหรับสิ่งจำเป็นในชีวิตของประชาชนทั่วไป ได้แก่ บ้านหลังแรกและรถยนต์คันแรก
5. ปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ให้เหลือร้อยละ ๒๓ ในปีพ.ศ. ๒๕๕๕ และลดลงเหลือร้อยละ ๒๐ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๖
6. เพิ่มเงินทุนกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองอีกแห่งละ ๑ ล้านบาท
7. จัดตั้งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี โดยมีวงเงินเฉลี่ยจังหวัดละ ๑๐๐ ล้านบาท
8. จัดตั้งกองทุนตั้งตัวได้ในวงเงินประมาณ ๑,๐๐๐ ล้านบาท ต่อสถาบันอุดมศึกษาที่ร่วมโครงการ สนับสนุนการสร้างผู้ประกอบการรายย่อย เพื่อให้สามารถกู้ยืมเพื่อการสร้างอาชีพ
9. หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ๓๐ บาทรักษาทุกโรค
10. เครื่องคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตให้แก่โรงเรียน โดยเริ่มทดลองดำเนินการในโรงเรียนนำร่องสำหรับระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑
ถ้าใครไม่รับประโยชน์ต่างๆเหล่านี้คงเป็นผู้มีอุดมการณ์อย่างแท้จริง!!!!
ผู้ร่วมชุมนุมต่อต้านรัฐบาลช่วยตอบอย่างสง่าผ่าเผยด้วยครับ
1. พักหนี้ครัวเรือนของเกษตรกรรายย่อยและ ผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้ต่ำกว่า ๕๐๐,๐๐๐ บาท อย่างน้อย ๓ ปี และปรับโครงสร้างหนี้สำหรับผู้ที่มีหนี้เกิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท
2. แรงงานมีรายได้เป็นวันละไม่น้อยกว่า๓๐๐ บาท และผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีมีรายได้เดือนละไม่น้อยกว่า ๑๕,๐๐๐ บาท
3. เบี้ยยังชีพรายเดือนแบบขั้นบันไดสำหรับ ผู้สูงอายุ โดยผู้ที่มีอายุ ๖๐-๖๙ ปี จะได้รับ ๖๐๐ บาท อายุ ๗๐-๗๙ ปี จะได้รับ ๗๐๐ บาทอายุ ๘๐-๘๙ ปี จะได้รับ ๘๐๐ บาท และอายุ ๙๐ ปีขึ้นไป จะได้รับ ๑,๐๐๐ บาท
4. มาตรการภาษีเพื่อลดภาระการลงทุนสำหรับสิ่งจำเป็นในชีวิตของประชาชนทั่วไป ได้แก่ บ้านหลังแรกและรถยนต์คันแรก
5. ปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ให้เหลือร้อยละ ๒๓ ในปีพ.ศ. ๒๕๕๕ และลดลงเหลือร้อยละ ๒๐ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๖
6. เพิ่มเงินทุนกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองอีกแห่งละ ๑ ล้านบาท
7. จัดตั้งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี โดยมีวงเงินเฉลี่ยจังหวัดละ ๑๐๐ ล้านบาท
8. จัดตั้งกองทุนตั้งตัวได้ในวงเงินประมาณ ๑,๐๐๐ ล้านบาท ต่อสถาบันอุดมศึกษาที่ร่วมโครงการ สนับสนุนการสร้างผู้ประกอบการรายย่อย เพื่อให้สามารถกู้ยืมเพื่อการสร้างอาชีพ
9. หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ๓๐ บาทรักษาทุกโรค
10. เครื่องคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตให้แก่โรงเรียน โดยเริ่มทดลองดำเนินการในโรงเรียนนำร่องสำหรับระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑
ถ้าใครไม่รับประโยชน์ต่างๆเหล่านี้คงเป็นผู้มีอุดมการณ์อย่างแท้จริง!!!!