วันนี้เมื่อเดือนที่แล้ว ฉันเป็นสตรีผู้มีน้ำหนัก 72 กิโลกรัม (ช็อคจนลืมถ่ายรูป) แต่มาวันนี้ น้ำหนักที่ชั่งเมื่อเช้า คือ 65.3 กิโลกรัม นั่นหมายความว่า ฉันขจัดไขมันที่พอกร่างได้ 7 กิโลกรัม โดยประมาณ แต่น้ำหนักที่ฉันต้องการ คือ 55 กิโลกรัม เพราะฉะนั้นหลังจากนี้ต่อไป ฉันจะสู้ตาย จนกว่าจะสำเร็จ และตั้งปณิธานกับตัวเองไว้ว่า "ชาตินี้ไม่ขอกลับมาอ้วนอีกเด็ดขาด"
เมื่อน้ำหนักหายไป รูปร่างก็เปลี่ยนไป พุงยุบ ท่อนแขนนางรำไม่แกว่งไกวมากกมายเหมือนเก่า ต้นขาที่เคยเบียดเสียดกันไปมาเริ่มห่างกันมากขึ้น มองเห็นคอตัวเองบ้างนิดหน่อย
คำถามที่ตามมา คือ "ไปทำอะไรมา ผอมลง" ฉันมักตอบคำถามนั้นด้วยความจริงว่า "เข้าครัว" ซึ่งไม่ค่อยมีคนเชื่อ ด้วยเหตุที่ว่า 1. ใครๆก็รู้ว่าฉันทำอาหารไม่เป็น 2. คนบ้าอะไร ยิ่งอยากผอมยิ่งต้องเข้าครัว แต่ฉันเข้าครัวจริงๆนะ "เมื่อไม่เป็นก็ต้องหัด เมื่อไม่เก่งก็ต้องฝึก" ที่สำตัญการเข้าครัว ปรุงอาหารเอง เราสามารถควบคุมปริมาณเครื่องปรุง ปรับปรุงเมนูอาหารให้ถูกใจ ถูกหลักได้
เอาล่ะ คราวนี้มาดูกันสิว่า ใน 1 เดือนที่ผ่านมา ฉันกินอะไรไปบ้าง
เมนูแรกที่คนกำลังลดน้ำหนักนึกถึง คือ แกงเลียง
ต้มโคล้งรสแซบช่วยทำให้วิถีการลดน้ำหนักสดชื่นสดใสไม่น้อย
ขนมจีน แกงไตปลา ฝูงผักสด
ต้มเห็ดเข็มทองกับเต้าหู้ปลา
ไข่ขาวทรงเครื่อง (หอมใหญ่ มะเขือเทศ พริกไทย) ทานคู่กับผักลวก
สาหร่ายลุยสวน (เปลี่ยนจากเส้นใหญ่มันเยิ้มเป็นแผ่นสาหร่าย)
ยำเห็ดนานาชนิด
ปลาทูปิ้ง จิ้มแจ่ว ผัดผัก
yogurt smoothie ผลไม้สด
แจ่วบอง ผักสด ไข่ต้ม
มะเขือเทศราชินี / มะเขือเทศเชอรี่ / มะเขือเทศสีดา
ผัดผัก 7 สี (ข้าวโพด แครอท หอมใหญ่ บล๊อกโคลี่ มะเขือเทศ เห็ดหูหนู กะหล่ำปลีม่วง)
แตงโมหวานฉ่ำ
นมถั่วเหลือง & ธัญพืช
น้ำเต้าหู้ทรงเครื่องสมูทตี้(ไม่ใส่น้ำตาล) กล้วยหอม
โคนเห็ดหอมพริกไทยดำ
น้ำมะนาวผสมน้ำผึ้ง & ข้าวโพดต้ม
ถั่วแระต้ม
yogurt smoothie & cereal bar
ผลไม้นานาพันธุ์
หมายเหตุ
1. อาหารแต่ละเมนู จะควบคุมปริมาณน้ำตาล เกลือ เครื่องปรุงรสอย่างเข้มงวด อร่อยน้อยหน่อย แต่เพื่อสุขภาพ เราต้องยอม
2. เปลี่ยนจากการทานข้าวขัดสีเป็นข้าวกล้อง
3. ใช้น้ำมันมะกอกปรุงอาหาร
4. ผลไม้ที่เลือกทานจะดูปริมาณความหวานและแคลอรี่
5. อย่าอด
6. อย่าเครียด
7. อยากผอมถาวรอย่าลืมออกกำลังกายควบคู่แล้วการลดน้ำหนักก็จะไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด
หนึ่งเดือนที่ผ่านมา...ฉันกินอะไร
วันนี้เมื่อเดือนที่แล้ว ฉันเป็นสตรีผู้มีน้ำหนัก 72 กิโลกรัม (ช็อคจนลืมถ่ายรูป) แต่มาวันนี้ น้ำหนักที่ชั่งเมื่อเช้า คือ 65.3 กิโลกรัม นั่นหมายความว่า ฉันขจัดไขมันที่พอกร่างได้ 7 กิโลกรัม โดยประมาณ แต่น้ำหนักที่ฉันต้องการ คือ 55 กิโลกรัม เพราะฉะนั้นหลังจากนี้ต่อไป ฉันจะสู้ตาย จนกว่าจะสำเร็จ และตั้งปณิธานกับตัวเองไว้ว่า "ชาตินี้ไม่ขอกลับมาอ้วนอีกเด็ดขาด"
เมื่อน้ำหนักหายไป รูปร่างก็เปลี่ยนไป พุงยุบ ท่อนแขนนางรำไม่แกว่งไกวมากกมายเหมือนเก่า ต้นขาที่เคยเบียดเสียดกันไปมาเริ่มห่างกันมากขึ้น มองเห็นคอตัวเองบ้างนิดหน่อย
คำถามที่ตามมา คือ "ไปทำอะไรมา ผอมลง" ฉันมักตอบคำถามนั้นด้วยความจริงว่า "เข้าครัว" ซึ่งไม่ค่อยมีคนเชื่อ ด้วยเหตุที่ว่า 1. ใครๆก็รู้ว่าฉันทำอาหารไม่เป็น 2. คนบ้าอะไร ยิ่งอยากผอมยิ่งต้องเข้าครัว แต่ฉันเข้าครัวจริงๆนะ "เมื่อไม่เป็นก็ต้องหัด เมื่อไม่เก่งก็ต้องฝึก" ที่สำตัญการเข้าครัว ปรุงอาหารเอง เราสามารถควบคุมปริมาณเครื่องปรุง ปรับปรุงเมนูอาหารให้ถูกใจ ถูกหลักได้
เอาล่ะ คราวนี้มาดูกันสิว่า ใน 1 เดือนที่ผ่านมา ฉันกินอะไรไปบ้าง
หมายเหตุ
1. อาหารแต่ละเมนู จะควบคุมปริมาณน้ำตาล เกลือ เครื่องปรุงรสอย่างเข้มงวด อร่อยน้อยหน่อย แต่เพื่อสุขภาพ เราต้องยอม
2. เปลี่ยนจากการทานข้าวขัดสีเป็นข้าวกล้อง
3. ใช้น้ำมันมะกอกปรุงอาหาร
4. ผลไม้ที่เลือกทานจะดูปริมาณความหวานและแคลอรี่
5. อย่าอด
6. อย่าเครียด
7. อยากผอมถาวรอย่าลืมออกกำลังกายควบคู่แล้วการลดน้ำหนักก็จะไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด